รีวิว OPPO F11 Pro ถ่าย Portrait สวยแม้แสงน้อย จอกว้างแบบ Panoramic screen ชาร์จเร็วกว่าด้วย VOOC Flash Charge 3.0

รีวิวโทรศัพท์มือถือ OPPO F11 Pro - ออปโป้

OPPO F11 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของปีนี้ที่เน้นหน้าจอใหญ่แบบ Panoramic screen มีกล้องหน้าแบบ Rising Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ยังชูจุดเด่นด้วยกล้องหลังคู่ 48+5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79 ทำให้การถ่ายรูป Portrait สวยแม้ในที่แสงน้อย นอกจากนี้ โหมด Ultra Night Mode ก็สวยงามไม่แพ้กัน ส่วนตัวเครื่องออกแบบด้วยการไล่เฉดสี ทำให้มองเห็นแต่ละมุมมีสีต่างกันถึง 3 สีในเครื่องเดียว และอัดแน่นด้วยหน่วยประมวลผล Mediatek Helio P70 Octa Core, RAM 6GB พร้อมใช้งานชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OPPO F11 Pro มีตัวเครื่องดีไซน์ขอบโค้ง ฝาหลังไล่เฉดสี Triple-color Gradient เคลือบด้วย Nano Printing ทำให้ฝาหลังมีสัมผัสเรียบและลื่น ทั้งยัง ออกแบบโลโก้และตัวอักษรให้อยู่ในแนวตั้ง มีความทันสมัยไม่จำเจ ตัวเครื่องที่จับถือค่อนข้างใหญ่ แต่ถนัดมือ เนื่องจากขอบข้างและด้านหลังมีความโค้งรับกับฝ่ามือ ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 161.3 × 76.1 × 8.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 190 กรัม

มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Panoramic screen ไร้ติ่ง ไร้รอยบาก ทำให้มีพื้นที่ใช้งานกว้างถึง 90.9% แข็งแรงทนทานด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว สีสันคมชัด ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล

เหนือหน้าจอด้านบนจะมีเพียงช่องลำโพงเสียงสนทนาเป็นแถบขนาดยาวที่ขอบ

ด้านล่างของหน้าจอ แม้ว่าไม่มีปุ่มใดๆ แต่ยังคงมีแถบสีดำอยู่พอสมควร

ตัวเครื่องด้านบน มีรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ตัดเสียงรบกวน โดยที่ตรงกลางเป็นรอยต่อของกล้องถ่ายรูปด้านหน้าแบบ Rising Camera ใช้งานด้วยการเลื่อนขึ้น-ลง มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 นอกจากนี้ เวลาใช้งานปลดล็อกด้วยใบหน้าก็ใช้งานกล้องนี้ด้วยเช่นกัน และสุดท้ายมุมขวาเป็นระบบเซนเซอร์

ส่วนด้านล่างของเครื่อง OPPO F11 Pro มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ถัดไปทางด้านขวาเป็นรูไมโครโฟน พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro USB แต่รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 และสุดท้ายเป็นช่องลำโพงเสียงของเครื่อง

ปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด จัดวางไว้ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง

ส่วนตัวเครื่องด้านขวาจะมีช่องใส่ซิมการ์ด รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Hybrid และปุ่มเปิด-ปิดเครื่องที่เพิ่มลูกเล่นด้วยแถบเล็กๆ สีเขียว

ฝาหลังมีการออกแบบอย่างสวยงามด้วยการไล่เฉดสีแบบ Triple-color Gradient ในแนวทแยง ซึ่งจะมี 3 สีในเครื่องเดียว เคลือบผิวด้วย Nano Printing ทำให้มีผิวสัมผัสแบบเรียบไม่สะดุดมือ และกันน้ำเกาะหรือกระจายตัว โดยออกแบบให้เลนส์กล้องถ่ายรูปด้านหลังอยู่ตรงกลางตัวเครื่องในแนวตั้งแบบสมมาตร ด้วยเลนส์ 6 ชั้น บนสุดจะเป็นไฟแฟลช LED ถัดลงมาเป็นเลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4 และเลนส์ล่างสุดเป็นเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.79 และถัดลงมาอีกนิดหน่อยจะเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

สมาร์ทโฟน OPPO F11 Pro
สายชาร์จพอร์ต Micro USB
อแดปเตอร์
เคสพลาสติกแบบแข็ง
คู่มือการใช้งาน

Bull Armors (บูลอาเมอร์) กระจกกันรอย สำหรับ OPPO F11 Pro คุณภาพจากญี่ปุ่น ติดง่าย แข็งแรง 9H+ ลดรอยนิ้วมือ สัมผัสลื่นไม่สะดุด รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bullarmors.com/

สเปกตัวเครื่อง OPPO F11 Pro

หน้าจอแสดงผลแบบ Panoramic Screen กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9 (397 PPI)
CPU : Mediatek Helio P70 Octa Core ความเร็ว : 2.1 GHz
RAM 6GB, ROM 64GB (รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB)
รองรับ 2 ซิมการ์ด Nano แบบ Hybrid
ระบบปฎิบัติการ ColorOS 6.0 basd on Android 9.0
ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, ลายนิ้วมือ
กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0
กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล (f/1.79) + 5 ล้านพิกเซล (f/2.4)
แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0
ขนาดตัวเครื่อง 161.3 × 76.1 × 8.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 190 กรัม

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 149,120
คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 1,568 และคะแนน
Multi-Core ที่ 6,005
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

หน้าจอหลัก/หน้าแอพพลิเคชั่น

หน่วยประมวลผล/ระบบปฎิบัติการ

OPPO F11 Pro มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64GB หากไม่พอใช้งานสามารถใส่ MicroSD ได้สูงสุด 256GB และรันบนระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด ColorOS 6.0 basd on Android 9.0 มีฟังก์ชั่นใหม่ๆ ให้ใช้งานมากมาย เช่น

UI ใหม่

UI แบบใหม่ที่มาบนเครื่อง OPPO F11 Pro มีความทันสมัยขึ้น ดูสนุกสนานในรูปแบบวงกลมของแอพพลิเคชั่น ใช้งานง่าย สมูทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การแสดงผล หรือไอคอนอื่นๆ ยังดูสวยขึ้น สะอาดสะอ้าน

ปุ่มการนำทาง

สำหรับปุ่มนำทางในรุ่นก่อนๆ จะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่ระบบปฎิบัติการ ColorOS 6.0 ทำออกมาให้เลือกใช้ปุ่มนำทางสลับระหว่างปุ่มย้อนกลับและปุ่มเมนู ไว้ทางด้านซ้าย หรือด้านขวาตามที่ผู้ใช้งานถนัดได้แล้ว นอกจากนี้ หากใครต้องการใช้วานเต็มๆ บนหน้าจอใหญ่ก็เลือกใช้แบบลักษณะท่าทางลากนิ้วขึ้น ก็จะไม่มีปุ่มมาบดบังบนจอ

Riding Mode

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งฟังก์ดีๆ ขณะที่เรากำลังขับขี่ โดยหากใช้งานระบบจะปิดเสียงการแจ้งเตือนต่างๆ ให้อัตโนมัติ เมื่อมีคนโทรเข้าก็จะแสดงตัวอักษรและปุ่มให้เห็นว่าจะรับ หรือปฎิเสธสายเท่านั้น หากเรากดวางก็จะมีข้อความส่งกลับไปยังผู้ที่โทรเข้ามาโดยอัตโนมัติ

ผู้ช่วยอัจฉริยะ

เมื่ออยู่ในหน้าหลักและปัดไปทางขวา จะเป็นเสมือนหน้าที่รวบรวมทุกอย่างให้กับผู้ใช้ มีการแจ้งเตือน วันที่ ตารางเวลา หรือสิ่งที่เราใช้งานเป็นประโยชน์ โดยที่ไม่ต้องค้นหา เลื่อนเพียงหน้าเดียวก็เจอทุกอย่าง

Smart Bar

ฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานเป็นประจำ ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าจอไหนก็เรียกใช้งานได้ทันที โดยสามารถตั้งแอพฯ ที่ใช้บ่อยๆ ไว้ได้

ดีไซน์

เรื่องการออกแบบถือว่า OPPO ให้ความสำคัญมาพักใหญ่แล้ว สำหรับ OPPO F11 Pro ก็เป็นอีกรุ่นที่สวยงาม ด้วยตัวเครื่องดีไซน์ไล่เฉด 3 สี แบบ Triple-color Gradient เมื่อมองในมุมทแยงจากด้านบนลงล่าง ให้ความแตกต่างของเครื่องที่มีหลายสีในแต่ละมุมไม่เหมือนกัน มีการเอาโลโก้มาวางเรียงในแนวตั้งเรียงกับกล้องหลัง ทำให้ตัวเครื่องดูทันสมัยขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสดใหม่ของกล้องหน้าแบบ Rising Camera ที่ซ่อนไว้ในตัวเครื่องมาให้อีกด้วย

หน้าจอแสดงผล

ด้วยการดีไซน์กล้องหน้าซ่อนใว้ในตัวเครื่อง ทำให้ได้หน้าจอสมาร์ทโฟนที่ใหญ่และกว้างเต็มขอบแบบ Panoramic Screen ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ไร้ติ่ง ไร้รอยบากใดๆ มีขอบหน้าจอบางเพียง 0.5 มม. ใช้งานได้เต็มตาขึ้น ไม่มีบดบัง หรือรบกวนสายตา ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม ด้วยอัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 เรียกว่าไม่พลาดทุกมุมทุกช๊อตแน่นอน นอกจากนี้ ยังแสดงสีคมชัดความละเอียด Full HD+

ระบบความปลอดภัย

สำหรับระบบความปลอยภัยของเครื่อง OPPO F11 Pro ยังคงมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งยังคงมีความเสถียรและใช้งานได้รวดเร็ว ส่วนอีกหนึ่งอย่างคือการปลดล็อคด้วยใบหน้าด้วยกล้อง Rising Camera ที่จะโผล่ขึ้นมาขณะใช้งาน โดยที่มีความเร็วสูง เมื่อทดลองใช้งาน เพียงเห็นหน้าที่ลงทะเบียนแค่ครั้งเดียว และอยู่ในที่มืด ยังใช้งานได้เร็วมาก

หน่วยประมวลผล

OPPO F11 Pro ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Mediatek Helio P70 Octa Core ความเร็ว 2.1 GHz, RAM 6GB, ROM 64GB สำหรับการใช้งานทั่วไปถือว่าทำได้ดี ไหลลื่น ส่วนการเล่นเกมที่มีกราฟิคเยอะๆ การใช้งานลื่น แต่กราฟิกยังไม่เป็นไปในทิศทางเดียว และเกมทั่วไปเล่นได้ไม่มีสะดุด

Hyper Boost

เทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยให้สมาร์ทโฟนทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งไม่แค่การเล่นเกมเพียงเดียว แต่ยังช่วยเรื่องการทำงานโดยรวมทั้งหมด ด้านแอพพลิเคชั่น เพิ่มการทำงานเร็วขึ้น 31.91% ทำให้สามารถเปิดใช้งาน เข้าแอพฯ กลับสู่หน้าจอหลัก หรือการเล่นเกมให้ใช้งานสมูท ไม่สะดุด ใช้งานได้มากถึง 11 เกม

แบตเตอรี่ และระบบชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0

แบตเตอรี่ให้ความจุมาถึง 4000 mAh ใช้งานได้ยาวนานแล้ง ยังรองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 รุ่นใหม่ กำลังไฟ 5V4A, 20W ชาร์จไวขึ้นกว่าเดิม 20% หรือชาร์จเต็มได้ภายในระยะเวลา 80 นาที ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จนาน ใช้งานปลอดภัย 5 ขั้นตอนเช่นเดิม โดยที่มีการปรับเปลี่ยนชิปทั้งในตัวเครื่องและที่อแดปเตอร์ให้ใช้งานชาร์จเร็วได้แบบจริงจัง เครื่องไม่ร้อน หรือตอนที่ชาร์จไปเล่นเกมไปด้วยก็ไม่มีปัญหา ปลอดภัยแน่นอน

กล้องถ่ายรูป

กล้องถ่ายรูปบน OPPO F11 Pro มาพร้อมกล้องหลังคู่แบบใช้เลนส์ 6 ชั้น อยู่ตรงกลางเครื่อง มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (f/1.79) + 5 ล้านพิกเซล (f/2.4) ชูจุดเด่นด้วยการถ่ายรูป Portrait ในที่แสงน้อยได้ดี

กล้องหน้าแบบ Rising Camera ซึ่งจะโผล่ขึ้นมาจากตัวเครื่องด้านบน นอกจากนี้ ตัวกล้องหน้ายังมีเซนเซอร์วัดแรงโน้มถ่วง เมื่อกล้องไปชน หรือหล่น ตัวกล้องจะเก็บเข้าเองอันโนมัติ และมีหน้าจอขึ้นมาถามว่าจะใช้งานต่อ หรือปิด ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อดีของไม่ทำให้กล้องเกินความเสียหาย ทั้งยัง มีการทดสอบมาแล้วกล้องแบบนี้ใช้งานได้ยาวๆ หายห่วงถึง 6 ปี

โหมดกล้องถ่ายรูปที่น่าสนใจ

AI Scene Recognition

OPPO F11 Pro มีกล้องถ่ายรูปทำงานร่วมกับ AI สามารถระบุประเภทของภาพได้มากถึง 23 ชนิด เพื่อนำมาปรับแต่งภาพให้เหมาะกับได้ถึง 864 ฉาก ทำให้ภาพที่ออกมามีสีสันสวยงามสมจริง อย่างเช่น การถ่ายรูปอาหาร ก็มีการปรับแต่งให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น

Portrait

อีกหนึ่งโหมดที่เป็นจุดเด่นของ OPPO F11 Pro ด้วยกล้องหลังคู่ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีรูรับแสง f/1.79 ด้วยขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ 1/2.25" และอีกเลนส์ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4 ทำให้สามารถเก็บภาพรายละเอียดของบุคคลในที่แสงน้อยได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากสภาพแสงที่มืด หรือสลัว ภาพที่ได้ก็ออกมาสว่างสวยงาม มีลูกเล่นของฉากหลังเบลอเล็กน้อย ทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่นขึ้นมาทันที

Ultra Night Mode

ยังมีความโดดเด่นอยู่กับโหมดถ่ายรูปกลางคืน ซึ่งก็ยังคงทำงานร่วมกับ AI ช่วยในการลด Noise มีการปรับปรุงช่วงไดนามิกให้สว่างขึ้น ทำให้รูปที่ถ่ายตอนกลางคืนมีความคมชัด แยกจุดโฟกัสอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ภาพยังมีสภาพแสงสมจริงอีกด้วย

Dazzle Colour

เปิดใช้งาน Dazzle Colour เมื่อต้องการภาพที่มีสีสันสดใส โดยโหมดนี้จะช่วยในการปรับแต่งสีและแสงให้สว่างขึ้น ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีสีสันสวยงาม

ปิด Dazzle Colour เปิด Dazzle Colour

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 8000x4000 (48 ล้านพิกเซล 4:3) 4000x3000 (มาตรฐาน 4:3), 3000x3000 (จตุรัส 1:1) , 4000x1840 (เต็มจอ) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 4608x4312 (มาตรฐาน 4:3), 3456x3456 (จตุรัส 1:1), 4608x2128 (เต็มจอ) พิกเซล
ไฟแฟลช : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ, เพิ่มแสง
HDR : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
Dazzle Colour : ปิด, เปิด
ตัวกรอง : ต้นฉบับ, R1-R10
โหมดกล้องถ่ายรูปกล้องหลัง : รูปถ่าย, รูปคน, หน้าสวย AI, กลางคืน, พาโน, ผู้เชี่ยวชาญ
โหมดกล้องถ่ายรูปกล้องหน้า : รูปถ่าย, รูปคน, พาโน
ตั้งเวลาถ่าย : ปิด, 3, 10 วินาที
สัมผัสเพื่อถ่ายรูป : ปิด, เปิด
ปุ่มความดัง : ระดับเสียง, ชัตเตอร์, ย่อ/ขยาย
เส้นตาราง : ปิด, เปิด
เสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
ตำแหน่ง : ปิด, เปิด
รูปเซลฟี่กลับด้าน : ปิด, เปิด
การรับรูสถานการณ์ AI : ปิด, เปิด
ภาพลายน้ำ : ปิด, เปิด