Hands-On : Samsung Galaxy S10/S10+ สุดยอดของนวัตกรรมบนสมาร์ทโฟนด้วยหน้าจอ Infinity-O ฟีเจอร์ครบครันที่พร้อมในทุกด้าน

เรีกยว่าเปิดตัวได้อย่างร้อนแรงกันเลยที่เดียวสำหรับ Samsung Galaxy S10 Series ทั้ง 3 รุ่นอย่าง Galaxy S10e, Galaxy S10 และ Galaxy S10+ ที่มีการอัปเกรดและเปลี่ยนไปอย่างมากกับ Galaxy S9 Series โดยจะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลย

 

สำหรับรอบตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S10 และ Galaxy S10+ มาพร้อมกับตัวเครื่องโลหะที่ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ทางด้านหลัง และ Gorilla Glass 6 ที่บริเวณหน้าจอ โดย Galaxy S10 มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 149.9 x 70.4 x 7.8 มม. และหนัก 157 กรัม

ขณะที่ Galaxy S10+ มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 157.6 x 74.1 x 7.8 มม. และมีน้ำหนัก 175 กรัม โดยทั้ง 2 รุ่นยังคงจับถือได้ถนัดมือไม่ต่างจากรุ่นก่อนเลยแม้แต่น้อย เพราะมีการตัดขอบบนและล่างให้มีความบางลงอย่างเห็นได้ชัด

 

บริเวณหน้าจอแสดงผลทั้ง Samsung Galaxy S10 และ Galaxy S10+ มาพร้อมกับหน้าจอ Infinity-O แบบ Dynamic AMOLED ขนาด 6.1 และ 6.4 นิ้ว ตามลำดับ ความละเอียด WQHD+ (3040 x 1440 พิกเซล) อัตราส่วน 19:9 มี Contrast Ratio 1:2,000,000 ทั้งยังรองรับเนื้อหาแบบ HDR10+ รุ่นแรกของโลก

แถมด้วยกล้องเลนส์เดี่ยวความละเอียด 10 ล้านพิกเซล สำหรับ Galaxy S10 และเลนส์คู่ความละเอียด 10+8 ล้านพิกเซล สำหรับ Galaxy S10+ ที่มุมขวาบนหน้าจออีกด้วย โดยตัวกล้องหน้าจะเป็นการครอบทับด้วยกระจกอีกทีหนึ่งทำให้เวลาสัมผัสจะเรียบทั่วทั้งหน้าจอ

 

เหนือหน้าจอแสดงผลมีเพียงลำโพงตัวที่ 2

 

ส่วนด้านล่างของหน้าจอแสดงผลก็มีขอบดำที่บางลงมาก โดยมีปุ่มนำทางอยู่ในหน้าจอตามปกติ

 

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 เป็นแบบ Hybrid ให้เลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ microSD Card ถัดมาเล็กน้อยมีไมโครโฟนสำรับตัดเสียงรบกวนอยู่

 

ด้านซ้ายตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มเรียกการใช้งาน Bixby

 

ด้านขวามีเพียงปุ่มล็อกหรือปิดเครื่อง

 

ด้านล่างของตัวเครื่องยังคงมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่ ถัดมาเป็นพอร์ตชาร์จแบตเตอรี่หรือเชื่อมต่อข้อมูลแบบ USB Type-C ไมโครโฟนตัวที่ 1 และลำโพงตัวหลัก

 

และสุดท้ายที่ด้านหลังของตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นมีกล้องหลัง 3 เลนส์เรียงเป็นแนวนอนเหมือนกัน แบ่งเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล + เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra Wide 123 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ถัดมาเป็นไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

สเปกตัวเครื่อง Samsung Galaxy S10

• ขนาดตัวเครื่อง : 149.9 x 70.4 x 7.8 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 157 กรัม
• หน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED กว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ (3040 x 1440 พิกเซล) อัตราส่วน 19:9 ครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 6 ทางด้านหน้า
• หน่วยประมวลผล : Exynos 9820 Octa Core ความเร็ว 2.7 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลพิเศษ NPU
• GPU : Mali-G76 MP12
• RAM 6/8 GB
• ROM 128/512 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 512GB
• ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI 1.1
• กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ โดยรองรับ AI จดจำซีนมากถึง 30 หมวดหมู่ แบ่งเป็น
  
  • เลนส์ซูม (Telephoto) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับระบบกันสั่นไหว OIS
  • เลนส์ Wide Angle กว้าง 77 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่ f1.5/f2.4 รองรับระบบกันสั่นไหว OIS
  • เลนส์ Ultra Wide Angle กว้าง 123 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6
• กล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 มีฟีเจอร์ Dual Pixel ช่วยให้โฟกัสได้เร็วยิ่งขึ้น
• กันน้ำ-กันฝุ่น มาตรฐานระดับ IP68
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ NanoSIM โดยช่องที่ 2 เป็น Hybrid
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4/5GHz), LTE Cat.20, Bluetooth 5.0, USB Type-C, ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
• แบตเตอรี่ความจุ 3,700 mAh รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว, ระบบชาร์จไร้สายแบบรวดเร็ว (Fast Wireless Charging 2.0) และ Wireless PowerShare

 

สเปกตัวเครื่อง Samsung Galaxy S10+

• ขนาดตัวเครื่อง : 157.6 x 74.1 x 7.8 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 175 กรัม
• หน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED กว้าง 6.4 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ (3040 x 1440 พิกเซล) อัตราส่วน 19:9 ครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 6 ทางด้านหน้า
• หน่วยประมวลผล : Exynos 9820 Octa Core ความเร็ว 2.7 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลพิเศษ NPU
• GPU : Mali-G76 MP12
• RAM 6/8/12 GB
• ROM 128/512 GB และ 1 TB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 512GB
• ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI 1.1
• กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
  
  • เลนส์ซูม (Telephoto) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับระบบกันสั่นไหว OIS
  • เลนส์ Wide Angle กว้าง 77 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่ f1.5/f2.4 รองรับระบบกันสั่นไหว OIS
  • เลนส์ Ultra Wide Angle กว้าง 123 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6
• กล้องหน้าคู่ แบ่งเป็น
  
  • เลนส์หลักความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 มีฟีเจอร์ Dual Pixel ช่วยให้โฟกัสได้เร็วยิ่งขึ้น
  • เลนส์สำหรับถ่ายโบเก้ (RGB Depth) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• กันน้ำ-กันฝุ่น มาตรฐานระดับ IP68
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ NanoSIM โดยช่องที่ 2 เป็น Hybrid
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4/5GHz), LTE Cat.20, Bluetooth 5.0, USB Type-C, ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
• แบตเตอรี่ความจุ 4,100 mAh รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว, ระบบชาร์จไร้สายแบบรวดเร็ว (Fast Wireless Charging 2.0) และ Wireless PowerShare

สำหรับฟีเจอร์ของ Samsung Galaxy S10 Series ก็มาแบบจัดเต็มอีกด้วยเช่นกัน โดยจะจัดหนักแค่ไหนเรามาดูกันต่อเลย

• เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือด้วยคลื่นเสียง Ultrasonic รุ่นแรกของโลก ช่วยให้มีความแม่นยำกว่าการใช้เทคโนโลยีอื่นๆ แม้ว่ามือจะเลอะหรือเปียกน้ำ ก็ยังคงสแกนได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว 100%

• ฟีเจอร์ต่อมากับเทคโนโลยี Wireless PowerShare ที่สามารถเป็นแท่นชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Samsung ที่รองรับมาตรฐาน Qi ได้ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา, หูฟังไร้สาย หรือสมาร์ทโฟนด้วยกันเอง

• หากใครที่ชอบเล่นเกมหรือฟังเสียงรอบทิศทาง Galaxy S10 และ S10+ ก็มาพร้อมกับระบบเสียง Dobly Atmos 3D ที่ปรับแต่งโดย AKG เจ้าเก่า ทำให้เราได้ยินเสียงที่ชัดเจนและดังสะใจเราอย่างแน่นอน

 

• ส่วนใครที่ชอบเล่นเกมแต่กลัวเครื่องร้อนก็หายห่วงไปได้เลย เพราะ Samsung Galaxy S10+ มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยน้ำ (Vapor Chamber) ขณะที่ Galaxy S10 มาพร้อมกับระบายความร้อนแบบท่อ (Heat Pipe) ช่วยให้เครื่องไม่ร้อนเกินไป จนทำให้ต้องลดประสิทธิภาพของการทำงานลงมา

ฟีเจอร์กล้องหลัง

• Scene Optimizer : จดจำฉากและซีนได้ทั้งหมด 30 หมวดหมู่ โดยมีการเพิ่มเข้ามาถึง 10 หมวดใหม่ เช่น ทารก, แมว, สุนัข, ฝูงชน, เครื่องดื่ม หรือเสื้อผ้า เป็นต้น แถมยังมีฟีเจอร์ Bright Night ที่รวม 7 ช็อตขณะถ่ายกลางคืนรวมไว้เป็น 1 ภาพ โดยจะใช้เวลาถือค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาทีในการทำงานด้วยฟีเจอร์นี้

• Live Focus : ยังคงมีมาเหมือนเดิมสำหรับ Live Focus ที่ช่วยให้มีถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายได้เหมือนเดิม แต่ก็ยังมีการเพิ่มลูกเล่นขึ้นมาอีก 3 แบบนอกเหนือจากการเบลอหลังธรรมดาๆ ได้แก่ Spin Bokeh, Zoom Bokeh และ Color Point ซึ่งเราสามารถถ่ายเพียง 1 ครั้ง แล้วนำมาปรับในภายหลังได้เช่นกัน

 

• สิ่งที่เพิ่มเข้ามาอีก 1 อย่าง ก็คือเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide Angle กว้าง 123 องศา ช่วยให้เราได้ภาพที่เก็บได้ครบทุกมุมอย่างแน่นอน

• Shot Suggestion : เป็นฟีเจอร์ที่ให้คำแนะนำเรื่องการจัดองค์ประกอบให้เราโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะมีการประมวลผลภาพรวมของเฟรมที่เราโฟกัสขึ้นเป็นจุดกลมๆ บนหน้าจอเพื่อให้ได้มุมที่สวยที่สุดในภาพนั้น

• Super Steady : สำหรับการถ่ายวิดีโอก็มีระบบกันสั่นไหวด้วยฟีเจอร์ Super Steady เช่นกัน ซึ่งจะคล้ายกับระบบกันสั่นของกล้อง Action Camera เลยทีเดียว

 

ฟีเจอร์กล้องหน้า

• Dual Pixel : ถือเป็นรุ่นแรกของโลกที่มีเซ็นเซอร์ Dual Pixel ด้วยความละเอียดกล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล ที่ช่วยจับภาพเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็วกว่าเดิม
• AR Emoji : หากใครที่ชอบฟีเจอร์ลูกเล่นแสนน่ารักอย่าง AR Emoji ก็ทำได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ขยับได้ตรงตามใบหน้าเราได้ดีกว่าเก่า แถมด้วยการเพิ่มอารมณ์บนใบหน้าได้มากถึง 100 อารมณ์

 

สำหรับสีและราคาของ Samsung Galaxy S10 Series ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มีดังนี้

• Galaxy S10e มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีขาว (Prism White) และสีเขียว (Prism Green) เป็นเวอร์ชัน RAM 6GB/ROM 128GB ในราคา 26,900 บาท
• Galaxy S10 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Prism White), สีดำ (Prism Black) และสีเขียว (Prism Green) เป็นเวอร์ชัน RAM 8GB/ROM 128GB ในราคา 31,900 บาท
• Galaxy S10+ (วัสดุกระจก) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สีแบบปกติ ได้แก่ สีขาว (Prism White), สีดำ (Prism Black) และสีเขียว (Prism Green) เป็นเวอร์ชัน RAM 8GB/ROM 128GB ในราคา 35,900 บาท
• Galaxy S10+ (รุ่นวัสดุพิเศษ) กับสี Ceramic White และ Ceramic Black ก็มีให้เลือกเพิ่มอีก 2 เวอร์ชัน คือ รุ่น RAM 8GB/ROM 512GB ราคา 44,900 บาท และ RAM 12GB/ROM 1TB ราคา 55,900 บาท

โดยโปรโมชั่นสำหรับการพรีออเดอร์ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562 ของ Samsung Galaxy S10 Series หากจองผ่าน Operator ทั้ง 3 ค่ายหลักอย่าง Truemove H, DTAC หรือ AIS ก็จะมีข้อเสนอสุดพิเศษให้เราเลือกได้ 1 อย่างจาก 3 แบบ ดังนี้

• รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุดถึง 50% พร้อมรับฟรีประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี
• รับสิทธิ์อัปเกรดเป็นการเพิ่มความจุเป็น 512GB (RAM 8GB) เมื่อจอง Galaxy S10+ รุ่น ROM 128GB
• จองและซื้อ Galaxy S10/S10+ ความจุ 128GB รับฟรี Galaxy Watch ขนาด 46 มม. มูลค่า 12,900 บาท

สุดท้ายนี้ Samsung Galaxy S10 Series จะเริ่มเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มีนาคมนี้