ตรวจสอบด่วน! อีเมลและพาสเวิร์ดเสี่ยงถูก HACK ข้อมูลกว่า 773 ล้านบัญชี มีวิธีป้องกันอย่างไร

เป็นประเด็นร้อนช่วงข้ามคืนเลยทีเดียว สำหรับข่าวคราวกับ Hack บัญชีอีเมล์และข้อมูลต่างๆ ที่อาจสุ่มเสี่ยงต่อการเผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ โดยชุดข้อมูลนี้ถูกเรียกว่า Collection #1 มีขนาดมากถึง 87GB ด้านในก็ประกอบด้วยข้อมูลส่วนตัว และอีเมล์รวมกันกว่า 773 ล้านแอคเคาท์ ทำให้หลายคนกังวลว่าข้อมูลของตนเองถูกดักจับหรือไม่ ต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิว POCO X7 หน้าจอ 120Hz กันน้ำ IP68 ได้กล้องหลัง 3 เลนส์ และกระจกหน้าจอ Gorilla Glass Victus 2
• 
  Canon จัดโปรปังรับวาเลนไทน์ Love & Care บริการทำความสะอาดอุปกรณ์การถ่ายภาพฟรีตลอด ก.พ. 68

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

สำหรับการ Hack ข้อมูลครั้งนี้ มีสองประเด็น บ้างก็บอกว่าเป็นเพียงการดักจับข้อมูลบนเว็บไซต์ที่เราใช้อีเมล์นั้นไปลงทะเบียน หรือแฮ็กเข้าอีเมล์นั้นโดยตรง เพื่อสอดส่องพฤติกรรมการใช้งาน รวมถึงข้อมูลส่วนตัว อย่างไรก็ดีมีความเคลื่อนไหวทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่โดนดักจับนี้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามีความพยายามเข้าซิงค์ข้อมูล, เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว กรณีร้ายแรงที่สุดหากซิงค์บัตรเครดิตไว้ก็สั่งซื้อไอเทมทั้งหลายทันที

มีวิธีเช็คยังไงว่าอีเมล์ของตนเองอยู่ในขอบข่าย ?

เริ่มด้วยเข้าเว็บไซต์ https://haveibeenpwned.com จากนั้นให้กรอกอีเมล์ตนเอง ถ้าพบเป็นสีแดงนั่นหมายความว่าอยู่ในขอบข่าย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต้องการโดนผู้ประสงค์ร้ายนำไปใช้งานได้จึงแนะนำว่าให้เปลี่ยนพาสเวิร์ดทันที นอกจากนี้หากเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่นใดมีวีธีการยืนยันตัวตนสองชั้น หรือ 2 Factor Authentication (2FA) ก็ควรต้องใช้ เนื่องจากยุคปัจจุบันแม้ข้อมูลเพียงนิดเดียวก็ใช้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจากผู้ประสงค์ร้ายควรใช้พาสเวิร์ดต่างกัน

แต่หากขึ้นสีเขียวนั่นหมายความว่าอีเมล์ของคุณปลอดภัยไม่ได้รับการเผยแพร่ แต่ในทางที่ดีอีเมล์ไหนหลักเน้นการทำธุรกรรมด้านต่างๆ และมีข้อมูลส่วนตัวเยอะ แนะนำว่าให้เปลี่ยนพาสเวิร์ดบ่อยครั้ง เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการเข้าถึงจากผู้ประสงค์ร้าย

นอกจากบัญชีอีเมล์และรหัสผ่านมีความสำคัญแล้ว การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวนั้นสำคัญกว่า สังเกตไหมว่าแอปพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์บางเว็บไซต์นั้นต้องการเข้าถึง แต่อย่าลืมมีทั้งชื่อนามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, รูปภาพ หรือประวัติการใช้งาน ดังนั้นก่อนกดยินยอมควรตรวจเช็คว่าข้อมูลใดบ้างจะถูกเข้าถึง เพื่อป้องกันการดักจับข้อมูลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์