Huawei เปิดตัวสองสมาร์ทโฟนรุ่นท็อป Mate 20 และ Mate 20 Pro อย่างเป็นทางการที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้งสองรุ่นเป็นสมาร์ทโฟน Android รุ่นแรกที่ได้ใช้งานชิปเซ็ตสถาปัตยกรรมระดับ 7nm อย่าง Kirin 980 พร้อมกล้องหลัง Leica ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยสำหรับรุ่น Mate 20 Pro นั้นยังมาพร้อมกับการยกระดับมาตรฐานกล้องถ่ายรูปและเทคโนโลยีการชาร์จบนสมาร์ทโฟนด้วย
Huawei Mate 20 Pro
Huawei Mate 20 Pro มีหน้าจอและกล้องที่ทันสมัยขึ้น มาพร้อมจอแสดงผล OLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 3120x1440 พิกเซล มีรอยบากด้านบน รองรับการแสดงผลภาพ HDR
กล้องสามตัวหลังของ Mate P20 Pro ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ Quad Bayer ความละเอียด 40MP เลนส์มุมกว้าง (f/1.8), เซ็นเซอร์ความละเอียด 20MP เลนส์มุมกว้างพิเศษ (f /2.2) และเซ็นเซอร์ความละเอียด 8MP เลนส์เทเลโฟโต้ (f/2.2) ซึ่งทั้งสามเป็นเซ็นเซอร์รับภาพสี (RGB) ทั้งหมด
Mate 20 Pro สามารถถ่ายภาพมาโครได้จากระยะใกล้ตั้งแต่ 2.5 ซม. หรือ 1 นิ้วเท่านั้น ส่วนของวิดีโอได้รับความช่วยเหลือจาก AI Cinema Mode ซึ่งสามารถปรับโทนสี ความอิ่มตัวและความสว่างของคอนเทนต์เพื่อเพิ่มอารมณ์ความรู้สึก มีโหมด Selective desaturation ที่สามารถเลือกโฟกัสคนในภาพแบบเต็มสีบนพื้นหลังแบบขาวดำ
ส่วนของเทคโนโลยี AI บนชิปเซ็ตรุ่นใหม่ของ Huawei นั้นมีพลังการประมวลผลที่สามารถช่วยให้การบันทึกวิดีโอน่าสนใจยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นสามารถตรวจจับวิดีโอที่มีเนื้อหาคล้าย ๆ กันและดึงข้อมูลออกมาสร้างวิดีโอไฮไลท์ความยาว 10 วินาที
ในส่วนของกล้องหน้ามีเซ็นเซอร์กล้องความละเอียด 24MP (f/2.0) และเทคโนโลยีสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ นอกจากนี้ยังสามารถสแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผล (in-display fingerprint reader) ซึ่งไวต่อแรงกด
Mate 20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Huawei ที่มาพร้อมฟีเจอร์ SuperCharge เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยกำลังสูงสุด 40W หรือชาร์จแบตได้ 70% ของความจุแบต 4200mAh ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงโดยผ่านการรับรองจาก TUV Rheinland ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวมีความปลอดภัย
นอกจากนี้ Mate 20 Pro ยังรองรับการชาร์จไร้สายแบบเร็ว 15W Wireless Quick Charge ซึ่งสามารถชาร์จแบตแบบไร้สายจาก 0% ถึง 30% ของความจุภายในครึ่งชั่วโมง โดยไฮไลต์ของการชาร์จบน Mate 20 Pro ก็คือฟีเจอร์ Wireless Reverse Charging ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น ๆ แบบไร้สายได้
Huawei Mate 20 Pro มีลำโพงสเตอริโอพร้อมกับการออกแบบที่น่าสนใจซึ่งช่องลำโพงด้านล่างเป็นช่องเดียวกับพอร์ต USB type-C ทำให้ตัวเครื่องมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 (P20 Pro ที่เปิดตัวมาเมื่อช่วงต้นปีกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP67) แถมยังรองรับการเชื่อมต่อ Dual band GPS รวมถึง Dual VoLTE ด้วย
Huawei Mate 20
Huawei Mate 20 มาพร้อมจอ LCD display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2244x1080 พิกเซล โดยส่วนที่ต่างกับรุ่น Mate 20 Pro ก็คือรายละเอียดในกล้องสามตัวที่แม้ว่าจะเป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษ เลนส์มุมกว้างและเลนส์เทเลโฟโต้ประเภทเดียวกันแต่เซ็นเซอร์และเลนส์ที่ใช้ก็คนละตัวกัน
กล้องหลังของ Mate 20 ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 12MP เลนส์มุมกว้าง (f /1.8), เซ็นเซอร์ความละเอียด 16MP เลนส์มุมกว้างพิเศษ (f/2.2) และเซ็นเซอร์ความละเอียด 8MP 52mm เลนส์เทเลโฟโต้ (f/2.4) โดยยังคงมีโหมดมาโครและเทคโนโลยี AI ให้ใช้งานเช่นเดียวกันกับรุ่น Mate 20 Pro
กล้องหน้ามีเซ็นเซอร์ความละเอียด 24MP จัดวางอยู่ในรอยบากรูปหยดน้ำค้าง แต่สิ่งที่ขาดไปก็คือไม่มีเทคโนโลยีสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือถูกจัดวางอยู่ด้านหลังเครื่องบริเวณด้านล่างของโมดูลกล้อง
Mate 20 มีแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh เทคโนโลยี SuperCharge 22.5W แต่ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย โดยสามารถชาร์จแบตผ่านพอร์ต USB type-C และส่วนอื่น ๆ ที่แตกต่างจากรุ่น Mate 20 Pro ก็คือรุ่นนี้ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. แต่ไม่มีลำโพงสเตอริโอและไม่กันน้ำ
ชิปเซ็ต Kirin 980
Huawei จัดชิปเซ็ตรุ่นท็อป Kirin 980 สถาปัตยกรรม 7nm มาให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นเป็นครั้งแรกบนอุปกรณ์ Android และเป็นรุ่นแรกที่ใช้การออกแบบแกนประมวลผล Cortex-A76 ของ ARM ชิปเซ็ต Kirin 980 ประกอบด้วยทรานซิสเตอร์กว่า 6.9 พันล้านตัวซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนถึง 60%
ส่วนหนึ่งของทรานซิสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากแกน Cortex-A76 มีขนาดใหญ่ขึ้น Huawei ยืนยันว่าชิปรุ่นนี้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 75% และมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น 58% เมื่อเทียบกับแกนประมวลผล Cortex-A73 ในชิป Kirin 970 รุ่นก่อนหน้า
การประมวลผลใน Kirin 980 แบ่งส่วนแกนประมวลผลเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย 2x Cortex-A76 เป็นแกนประมวลผลงานที่ต้องการความเร็วสูงสุด ส่วน 2x Cortex-A76 ที่เหลือจะเป็นแกนประมวลผลงานที่ต้องการความเร็วปานกลาง และอีกสี่แกนขนาดเล็ก 4x Cortex-A55 ทำหน้าที่ประมวลผลงานทั่วไป ชิปเซ็ตรุ่นนี้ยังมีหน่วยประมวลผล AI (dual NPU) แบบคู่สำหรับจัดการงานที่เกี่ยวข้องกับ AI ทั้งหมดซึ่งส่วนหนึ่งก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยความจำเพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าจะได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ไหลลื่น
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นจะรัน EMUI 9.0 บนแพลตฟอร์ม Android 9.0 Pie ตั้งแต่แกะกล่อง
พื้นที่เก็บข้อมูลและหน่วยความจำ
Huawei ร่วมมือกับ Toshiba เพื่อแนะนำการ์ดหน่วยความจำนาโนรูปแบบใหม่ (Nano Memory card : NM card) สำหรับใช้งานบนสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น โดย NM card มีขนาดเล็กลง 45% เมื่อเทียบกับ microSD card ที่ใช้งานกันทั่วไปในปัจจุบัน พวกเขาหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจาก SD Alliance และทำให้มาตรฐานดังกล่าวกลายเป็นมาตรฐานสากล แต่ดูเหมือนว่าอาจต้องใช้เวลานานพอสมควรที่จะเป็นจริง ตอนนี้ NM card สามารถขยายพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นได้สูงสุด 256GB
Huawei Mate 20 จะแบ่งย่อยเป็น 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ RAM 4GB / 6GB โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 128GB ส่วน Huawei Mate 20 Pro จะมีเฉพาะเวอร์ชั่น RAM 6GB พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 128GB
Huawei Mate 20 / Mate 20 Pro มีราคาเปิดตัวที่ยุโรปดังนี้
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.gsmarena.com วันที่ : 17 ตุลาคม 2561
HUAWEI nova 13 และ 13 Pro ชาร์จเร็วระดับ 100W ได้กล้องหน้ามุมกว้าง 60MP
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ
HMD Fusion สมาร์ทโฟนที่สามารถปรับแต่งและซ่อมเองได้ด้วยมือคุณ!
Redmi ฉลอง 11 ปี ปล่อยโลโก้ใหม่! พร้อมเปิดตัว Redmi K80 เรือธงสเปคจัดเต็ม
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
ทำความรู้จัก HONOR 200 Smart 5G หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP64 กล้องหลัง 50MP AI Motion Sensing
ลือ! iPhone 17 และ iPhone 17 Air ยังไม่มีซูม Optical 5x ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะรุ่น Pro
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย14 ชั่วโมงที่แล้ว