Fitbit ผู้นำอุปกรณ์แวร์เอเบิลชั้นนำระดับโลก พร้อมเผยโฉม Fitbit Charge 3 วิวัฒนาการล่าสุดในซีรีส์ Charge โดย Fitbit Charge 3 ได้ยกระดับดีไซน์ให้พรีเมียมขึ้น เพื่อรองรับการใส่ว่ายน้ำ มาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัส โหมดออกกำลังตามเป้าที่มีให้เลือกมากกว่า 15 อย่าง ฟีเจอร์อัจฉริยะที่ทำให้คุณไม่พลาดข้อมูลสำคัญที่สุด อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 7 วัน รวมทั้งระบบเซ็นเซอร์และเทคโนโลยีอัลกอริทึมในอุปกรณ์แทรคเกอร์ที่ก้าวล้ำที่สุดของฟิตบิท พร้อมวางจำหน่ายในราคา 6,490 บาทในเดือนพฤศจิกายน 2561
อุปกรณ์ซีรีส์ Charge เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ยอดฮิตที่สุดของฟิตบิท ด้วยยอดจำหน่าย 35 ล้านชิ้นจนถึงปัจจุบัน โดย IDC ประเมินว่ายอดการส่งออกจำหน่ายทั่วโลก จะเป็นสัดส่วนรายได้สำคัญเมื่อเทียบกับทุกกลุ่ม ต่อเนื่องไปอีกหลายปีข้างหน้า
“Fitbit Charge 3 เป็นการต่อยอดความสำเร็จของอุปกรณ์ซีรีส์ Charge ที่ขายดีที่สุด และเป็นการนำเสนอแทรคเกอร์ที่มีนวัตกรรมล้ำที่สุดในตลาด ด้วยความเพรียวบางพิเศษ สวมใส่สบายในดีไซน์พรีเมียม เพียบพร้อมไปด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสที่ตรงใจผู้ใช้ในปัจจุบัน และผู้ใช้รายใหม่ ๆ ที่มองหาอุปกรณ์แวร์เอเบิลแบบแทรคเกอร์ ที่มีทรงเพรียวบางกว่าในราคาที่จับต้องได้ยิ่งกว่าเดิม”
มร. เจมส์ ปาร์ค ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของฟิตบิท กล่าว “ด้วยความมุ่งมั่นในการมอบทางเลือกให้ผู้บริโภคและให้สมรรถนะที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้นับล้าน ด้วยผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่แทรคเกอร์จนถึงสมาร์ทวอทช์ ส่งผลให้ฟิตบิทสามารถขยายฐานส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มอุปกรณ์แวร์เอเบิลโดยรวมได้”
ดีไซน์สุดหรู รังสรรค์อย่างชาญฉลาด
Fitbit Charge 3 ผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบาพิเศษ ใช้กรอบอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ และใช้กระจก Corning Gorilla Glass 3 ที่มีรูปทรงเพรียว ให้แสงเงาที่ทันสมัย ทนทานขึ้น และสวมใส่สบายรับข้อมือ เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง หน้าจอระบบสัมผัสที่คมชัด ใหญ่กว่าเดิมเกือบ 40% และสว่างกว่ารุ่นเดิม ให้ประสบการณ์ที่ไวต่อสัมผัส และเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างง่ายดาย
Fitbit Charge 3 เป็นแวร์เอเบิลรุ่นแรกที่มีปุ่มแบบเหนี่ยวนำ (inductive button) เสริมพลังด้วยเทคโนโลยีใหม่สิทธิบัตรของฟิตบิท สามารถเพิ่มพื้นที่ในอุปกรณ์ให้สอดรับกับดีไซน์กันน้ำอันทันสมัย เสริมเซ็นเซอร์ได้มากขึ้น พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานถึง 7 วัน สามารถใช้งานได้สะดวกในขณะว่ายน้ำ พร้อมด้วยสมรรถนะเยี่ยมตามความคาดหวังจากฟิตเนสแทรคเกอร์สุดล้ำ
เพื่อให้สอดรับกับการยกระดับฮาร์ดแวร์ จึงได้มีการออกแบบประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟในซอฟต์แวร์ใหม่ด้วยเช่นกัน เพื่อการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นและจูงใจให้ผู้ใช้ทำเป้าหมายในแต่ละวันได้สำเร็จ หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงจะแสดงกราฟิกเกรย์สเกลที่มีลูกเล่นอนิเมชั่นสนุก ๆ และกราฟิกบ่งบอกความรู้สึกต่าง ๆ ทั้งความเซอร์ไพรส์ ความสุข สร้างช่วงเวลาสนุก ๆ ให้คุณฉลองความสำเร็จตามขั้น และมุ่งมั่นทำเป้าหมายต่อไปให้สำเร็จ
ประสบการณ์ด้านสุขภาพและฟิตเนสที่เหนือกว่า
นอกเหนือจากงานดีไซน์หรูระดับพรีเมียมแล้ว Fitbit Charge 3 ยังนำเสนอฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสที่ล้ำสมัยที่สุดในบรรดาแทรคเกอร์ของฟิตบิทในปัจจุบัน อัดแน่นด้วยข้อมูลการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจกว่า 9 ล้านล้านนาที ฟิตบิทได้พัฒนาเทคโนโลยีติดตามการเต้นของหัวใจ PurePulse ที่ทำงานตลอดเวลา 24/7 และวัดการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังได้แม่นยำขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่น ชาร์จ 2 รวมทั้งวัดระดับการเผาผลาญแคลลอรีและชีพจรขณะพักได้ดีขึ้น ช่วยให้ออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสมและรู้แนวโน้มสุขภาพของตนเอง การเพิ่มเซ็นเซอร์ SpO2 เข้ามาในแทรคเกอร์ของฟิตบิทเป็นครั้งแรก เพิ่มขีดสามารถการประเมินระดับออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ และติดตามปัจจัยบ่งชี้ด้านสุขภาพอย่างภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้
ฟีเจอร์สุขภาพและฟิตเนสที่เสริมเข้ามา ได้แก่:
ความสามารถอันล้ำหน้าในการติดตามและวิเคราะห์การนอน
ฟิตบิทช่วยให้ผู้ใช้นับล้านรายเข้าใจแบบแผนการนอนหลับของตน รวมทั้งแนวการใช้ชีวิตที่อาจส่งผลต่อการนอน ฟิตบิทเริ่มติดตามการนอนมาตั้งแต่ปี 2552 และได้พัฒนาฐานข้อมูลการนอนหลับที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ด้วยข้อมูลที่ติดตามมากว่า 7.5 พันล้านคืน นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Sleep Stages & Sleep Insights ที่อ้างอิงจากข้อมูลความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจคุณภาพการนอนหลับของตนเองได้อย่างลึกซึ้ง
“ฟิตบิทดึงเอาศักยภาพของข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้ ให้เกิดเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปรับใช้กับการพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิต ตัวอย่างเช่น เราพบว่ามีคน 1 ใน 4 ที่นอนหลับในช่วงสุดสัปดาห์ได้มากกว่าช่วงวันธรรมดาอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่าคนพยายามนอนชดเชยเวลาระหว่างสัปดาห์ที่นอนได้น้อย ฟิตบิทนำเสนอข้อมูลแบบนี้ให้ผู้ใช้ผ่านทางแอปฯ ฟิตบิท เพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงผลจากพฤติกรรมที่มีต่อคุณภาพชีวิต และแนะนำให้กำหนดตารางการนอน” เชลเตน หยวน รองประธานฝ่ายงานวิจัยของฟิตบิท กล่าว “ในอนาคต เราหวังว่าจะสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้ในการลดความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีที่สุดในแบบฉบับของตัวเอง”
ฟิตบิทยังคงเดินหน้าพัฒนาเกี่ยวกับการนอน และได้เปิดตัวฟังก์ชั่น Sleep Score Beta ผลงานจาก Fitbit Labs ซึ่งผู้ใช้ฟิตบิทจะสามารถใช้ได้ภายในปีนี้ โดยเป็นการใช้ข้อมูลปัจจัยหลัก ๆ ที่ติดตามด้วยอุปกรณ์ฟิตบิท พร้อมการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เกิดเป็นคะแนนการนอน Sleep Score ของแต่ละคืน ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของคุณภาพการนอน และเห็นได้ว่ามีปัจจัยใดส่งผลกระทบ
นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่มีเซ็นเซอร์ SpO2 ที่มีอยู่ในรุ่น ชาร์จ 3, ไอออนิค และ เวอร์ซ่า จะมีการทดสอบการเตือนผู้ใช้เมื่อมีอาการหายใจติดขัด ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ หึดหอบ หรือภาวะหยุดหายใจระหว่างนอน “ด้วย Sleep Score รุ่นเบต้าของ Fitbit Labs ทำให้เราเป็นผู้บุกเบิกการรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการนอนหลับของตนเอง นี่เป็นตัวอย่างของวิธีการที่เราพัฒนาประสบการณ์ด้านสุขภาพให้กับผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง” หยวนกล่าวเสริม
นอกจากนี้ ฟิตบิทยังเดินหน้ารวบรวมข้อมูลทางคลินิกต่อไปเพื่อทดสอบและพัฒนาระบบเกี่ยวกับสภาวะด้านสุขภาพต่าง ๆ ให้ได้ในระดับเดียวกับระบบของคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ เช่นข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดหายใจขณะนอนหลับ และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ฟิตบิทนั้น เป็น 1 ใน 9 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการนำร่องของคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ในการรับรองก่อนนำซอฟต์แวร์ดิจิทัลด้านสุขภาพไปใช้ ซึ่งโครงการนี้ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการอนุมัตินำซอฟต์แวร์ไปใช้เสมือนอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง
ไม่พลาดการเชื่อมต่อกับหลากหลายฟีเจอร์อัจฉริยะ
Fitbit Charge 3 คือ สายรัดข้อมือแทรคเกอร์ที่ฉลาดที่สุดของฟิตบิทที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นอัจฉริยะ ช่วยให้เชื่อมต่อกับข้อมูลสำคัญที่สุดได้ตลอดเวลา โดยไม่ทำให้ชีวิตคุณถูกเทคโนโลยีรบกวนมากเกินไป หรือไปรบกวนคุณด้วยสิ่งที่ไม่ต้องการหรือไม่จำเป็น อาทิ
อุปกรณ์เสริม ราคา และการวางจำหน่าย
ปรับแต่งอุปกรณ์ Fitbit Charge 3 ของคุณได้ด้วยสายรัดข้อมือดีไซน์ใหม่ที่ใช้งานง่ายกว่าที่เคย พร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ทำจากวัสดุพรีเมียมเช่น สายรัดผิวสัมผัสหลายเหลี่ยมคลาสสิกที่กันเปื้อนได้ สายรัดแนวสปอร์ตทำจากซิลิโคนที่มีรูระบายอากาศ สายถักแนวแฟชั่นและสายหนัง Horween งานฝีมือพรีเมียม และยังมี Fitbit Charge 3 รุ่น Special Edition ที่มาพร้อมสายซิลิโคนขาว พร้อมกรอบอลูมิเนียมกราไฟต์ หรือสายถักสีลาเวนเดอร์ พร้อมกรอบโลหะสีชมพูโรสโกลด์ และแต่งเป็นสองลุคในหนึ่งเดียวด้วยสายคลาสสิกสีดำที่มาในกล่อง
Fitbit Charge 3 จะวางจำหน่ายในราคา 6,490 บาท สำหรับสีดำพร้อมกรอบอลูมีเนียมกราไฟต์ หรือสีฟ้าเทาพร้อมกรอบอลูมิเนียมสีชมพูโรสโกลด์ สำหรับอุปกรณ์เสริมมีราคาระหว่าง 890-1,490 บาท
ส่วน Fitbit Charge 3 รุ่น Special Edition จะวางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท โดย Fitbit Charge 3 จะมีจำหน่ายที่สโตร์ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2561 และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ Fitbit Charge 3 ได้จาก www.fitbit.com/charge 3
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.fitbit.com วันที่ : 21 สิงหาคม 2561
รีวิว OPPO Enco Air4 สัมผัสเสียงที่ชัดเจนและไร้สิ่งรบกวน พร้อมฟีเจอร์ ANC
รีวิว Apple Watch 10 เลือกแกร่งแบบไทเทเนียมได้ เครื่องบางขึ้น หน้าจอ OLED มุมมองกว้าง มองมุมไหนก็ชัด
รีวิว PICO 4 Ultra มาท่องโลกใหม่ที่คุณไม่เคยสัมผัส ผสมผสาน VR และ MR เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์
รีวิว Tronsmart Sounfii Q20 หูฟังบลูทูธ โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) คุณภาพเสียงเกินราคา
พรีวิว Apple Watch Ultra 2 สีใหม่ไทเทเนียมดำ เพิ่มความดุดันเต็มอัตรา!
Galaxy Ring แหวนอัจฉริยะ อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ 24 ชั่วโมง
สรุปจุดเด่นและสเปค HONOR X9c แบตฯ 6600mAh ชาร์จเร็ว 66W กันน้ำ IP65M กล้องหลัง 108MP+OIS
เปิดรายชื่อรุ่นสมาร์ทโฟน Xiaomi, POCO และ Redmi ที่จะได้รับอัปเดต HyperOS 2
LAVA เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ LAVA Yuva 2 5G ราคาประหยัด พร้อมกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล
สรุปจุดเด่นและสเปค TECNO POVA 6 NEO แบตฯ 7000mAh หน้าจอ 120Hz ลำโพง Dolby ATMOS ฟรีลำโพงบูลทูธ!!
HMD Key สมาร์ทโฟนสุดประหยัด หน้าจอ 6.52 นิ้ว แบตเตอรี่ 4000mAh13 ชั่วโมงที่แล้ว