Xiaomi Black Shark เป็นหนึ่งในสุดยอดสมาร์ทโฟนเพื่อการเล่นเกมแห่งปี 2018 โดยเป็นรุ่นที่เหล่าเกมเมอร์ต่างเฝ้ารอ และอยากลองสัมผัสกันมากที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ เนื่องจากมีฟีเจอร์รองรับการเล่นเกมเต็มรูปแบบเกือบรอบด้าน ทั้งสเปคที่จัดมาให้แบบเต็มๆ ไม่มีกั๊ก รวมไปถึงระบบระบายความร้อนด้วยระบบน้ำ (Water Cooling System) ซึ่งช่วยจัดการปัญหาความร้อนเวลาเล่นเกมหนักๆ ได้อย่างดี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ติดตามในการรีวิวทางด้านล่างได้เลย
ตัวเครื่องมีขนาด 161.62 x 75.4 x 9.25 มิลลิเมตร น้ำหนักตัว 190 กรัม ใช้วัสดุจากอะลูมิเนียมอัลลอย มีการออกแบบลวดลายของฝาหลังที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้จะมีสีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และ สีเทา แต่สีที่นำมารีวิวจะเป็นสีเทา
หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 18:9 และมีความละเอียดพิกเซล 403PPI
ด้านล่างหน้าจอ มีปุ่มนำทาง 3 ปุ่ม ซ้ายสุดเป็นปุ่มดูแอพฯ ล่าสุด ตรงกลางเป็นปุ่มโฮม ใช้สแกนลายนิ้วมือได้ด้วย และขวาสุดเป็นปุ่มย้อนกลับ
ด้านบนหน้าจอ มีกล้องความละเอียด 20 ล้านพิกเซลอยู่ทางซ้าย ตรงกลางเป็นช่องลำโพงสำหรับการสนทนา และขวาสุดเป็นช่องแสงไฟแฟลช LED และเป็นช่องไฟแจ้งเตือนสถานะในตัวด้วย
ฝั่งซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มเปิดปิดโหมด Shark Space (โหมดสำหรับการเล่นเกม) โดยปุ่มมีความขรุขระและเล่นลวดลายสีเขียวลงไปบริเวณขอบๆ ส่วนข้างบนเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด รองรับซิมคู่แบบ Nano SIM
** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **
ฝั่งขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียงอยู่ด้านบน และถัดมาข้างล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์ สำหรับเปิดปิดเครื่องหรือพักหน้าจอแสดงผล
ข้างบนตัวเครื่อง ไม่มีการใช้งานใดๆ
ข้างล่างตัวเครื่อง มีลำโพงคู่ และตรงกลางระหว่างลำโพงเป็นช่องเสียบสาย USB Type-C สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ และโอนย้ายข้อมูล
มากันที่ด้านหลังตัวเครื่อง มีกล้องความละเอียด 20+12 ล้านพิกเซล อยู่ตรงกลางด้านบนสุด ขยับมาข้างขวาเป็นไฟแฟลช LED คู่ และรูไมโครโฟนตัดสัญญาณรบกวน ด้านล่างตรงกลางเป็นโลโก้ของ Black Shark สีดำขอบเขียว นอกจากนี้ยังมีการเล่นลวดลายเหมือนการแต่งรถ โดยข้างล่างสุดมีเขียนคำว่า Black Shark เอาไว้
อุปกรณ์ภายในกล่อง
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Xiaomi Black Shark เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)
สเปคทั้งหมดของ Xiaomi Black Shark
หน่วยความจำภายในและ RAM
สำหรับ Xiaomi Black Shark จะมีให้เลือก 3 รุ่น โดยมีรุ่น 6GB+64GB, 8GB+128GB และ 8GB+256GB แต่รุ่นที่นำมาริวิวเป็นตัว 8GB+128GB ซึ่งเป็นรุ่นระดับกลาง แต่ก็ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และราคาถือว่ากำลังดีทีเดียว โดยอยู่ที่ 20,400 บาท
ระบบปฏิบัติการ
Xiaomi Black Shark รันบนระบบปฏิบัติการพื้นฐาน Android 8.0 Oreo แต่มีการดัดแปลง JOYUI 1.0 ซึ่งเป็น ROM ของประเทศจีน ทำให้แอพฯ ที่มาจากโรงงานส่วนใหญ่เป็นแอพฯ ที่ใช้ในประเทศจีน แต่ก็ยังมี Play Store ที่เป็นแบบ Global สามารถดาวน์โหมดโปรแกรมทั่วไปที่ใช้ในประเทศไทยได้ตามปกติ
JOYUI มีอะไรน่าสนใจ
การที่ JOYUI เป็น ROM จากประเทศจีน ทำให้มีการรองรับไม่กี่ภาษา (ไม่มีภาษาไทย) และเมื่อเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษก็ยังไม่สมบูรณ์ 100% ในทุกส่วน แต่เรื่องของคีย์บอร์ดไม่ต้องเป็นห่วง เพราะสามารถดาวน์โหลดคีย์บอร์ดเสริมมาได้ หรือใช้ Android Keyboard ที่ติดมากับเครื่อง สามารถดาวน์โหลดคีย์บอร์ดภาษาไทยมาใช้งานได้ตามปกติ สำหรับส่วนที่น่าสนใจอื่นๆ จะมีดังต่อไปนี้
หน้าจอหลักและแถบแอพฯ ด่วน
การที่มีการปรับแต่งจาก JOYUI ทำให้หน้าจอหลักของ Xiaomi Balck Shark มีการปรับแต่งไปด้วย ทั้งโทนของสีที่เน้นไปทางสีดำและสีเขียว รวมไปถึงตัวไอคอน UI แต่ก็ยังสามารถไปปรับได้ที่ Setting > Theme and wallpaper ซึ่งจะมีให้เลือกปรับเป็นธีมสีขาว และไอคอน UI อีกแบบ ในขณะที่แถบแอพฯ ด่วนใส่ลูกเล่นเป็นสีเขียว และมีไอคอนที่ใหญ่ง่ายต่อการใช้งาน
ปรับสภาพแสงตามการใช้งาน
เรื่องของแสงบนหน้าจอสมัยนี้สำคัญมาก ทั้งเรื่องการถนอมสายตาและเรื่องความบันเทิง ซึ่ง Xiaomi Black Shark ก็มีโหมดปรับสภาพแสงเพื่อรองรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ โดยจะมีให้เลือก 3 แบบคือ
ทั้งหมดสามารถเข้าไปปรับได้ที่ Setting > Display and brightness > Screen Color แต่สำหรับโหมดถนอมสายตา สามารถใช้งานที่แถบแอพฯ ด่วนได้เลย
แบตเตอรี่
ในส่วนของการจัดการแบตเตอรี่ ก็จะมีโหมดประหยัดพลังงานเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานในหลายๆ แบบ ซึ่งแต่ละส่วนก็มีการประหยัดแบตเตอรี่ที่แตกต่างออกไป
Phone Manager
สำหรับแอพฯ Phone Manager เป็นแอพฯ จากโรงงานที่มากับ JOYUI โดยการการทำงานจะเป็นการรวมเครื่องมือในการจัดการสมาร์ทโฟนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ล้างไฟล์ขยะ, การอนุญาติให้เข้าถึงแอพฯ, การแจ้งเตือน, แบตเตอรี่, บล็อคข้อความและเบอร์โทรเข้า, สแกนไวรัส
Anti Addiction (ป้องกันการติดเกม)
แน่นอนว่าเครื่อง Xiaomi Black Shark เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทำให้ทาง Xiaomi เป็นห่วงผู้ใช้งานจึงมีระบบ Anti Addiction (ป้องกันการติดเกม) มาให้ด้วย โดยระบบจะมีการแจ้งเตือนหากเล่นเกมไป 2 หรือ 4 ชั่วโมง และมีการเก็บสถิติด้วยว่าเล่นเกมไปกี่นาทีกี่ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีโหมด Parent Control เพื่อให้ผู้ปกครองกำหนดการเล่นเกมของลูกได้อีกด้วย โดยสามารถกำหนดการใช้งานแอพฯ ต่างๆ รวมถึงกำหนดระยะเวลาการใช้งานได้อีกด้วย ทั้ง 2 อย่างสามารถเข้าใช้งานได้ที่ Setting > Anti addiction
Dual App
เป็นฟีเจอร์การก็อบปี้แอพพลิเคชั่นขึ้นมาอีกอันหนึ่ง แต่บนเครื่อง Xiaomi Black Shark ดูจะยังไม่รองรับแอพฯ จาก Global โดยไม่สามารถก็อบปี้แอพฯ อย่าง Facebook ได้ แถมยังแนะนำให้ลองดาวน์โหลดแอพฯ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศจีนอย่าง QQ และ Wechat ซะงั้น ซึ่งอาจจะต้องรอการอัปเดตในอนาคต
App lock
เป็นการใส่รหัสให้กับแอพพลิเคชั่นที่กำหนด และสามารถเลือกได้ด้วยจะตั้งรหัสผ่านแบบไหนทั้งการตั้งรหัสหรือสแกนลายนิ้วมือ ภาพรวมก็ไม่มีอะไรพิเศษมาก
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ทดสอบการเล่นเกม
Xiaomi Black Shark เป็นสมาร์ทโฟนออกแบบมาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะอยู่แล้ว เนื่องจากมาพร้อมสเปคที่จัดเต็มทั้ง หน่วยประมวลผล Snapdragon 845 ซึ่งเป็นชิพตัวใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm และยังมีชิพประมวลผลภาพอิสระ Pixelworks เพื่อเพิ่มให้เกมมีภาพมีประสิทธิภาพ พร้อมแสดงฉากในที่มืดได้ชัดเจนกว่าเดิม จากทั้งหมดทำให้การเล่นเกมยอดฮิตในขณะนี้สามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ปรับกราฟฟิกได้สูงสุดทุกเกม และยังมีเฟรมเรทเกาะอยู่ 60fps แบบนิ่งๆ อีกด้วย
ระบบระบายความร้อน
การเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆ ไม่เป็นปัญหากับความร้อนที่เกิดขึ้นแน่นอน เนื่องจาก Xiaomi Black Shark มีระบบระบายความร้อนแบบน้ำ (Water Cooling System) ซึ่งจะช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าปกติมาก เห็นได้จากคอมพิวเตอร์ PC ในปัจจุบัน ที่หันมาใช้ระบบระบายความร้อนแบบน้ำเป็นส่วนใหญ่
โหมด Shark Space
ในการเริ่มใช้งาน โหมด Shark Space สามารถเริ่มใช้งานได้ด้วยการเลื่อนบนทางซ้ายของตัวเครื่อง สำหรับโหมดนี้เปรียบเสมือนศูนย์รวมของเกม โดยจะเปลี่ยนหน้าอินเตอร์เฟสให้เลือกเล่นเกมต่างได้ง่ายๆ ซึ่งดูได้จาดรูปทางด้านล่าง
นอกจากนี้ Shark Space ยังมีไว้สำหรับเชื่อมต่อ GamePad (อุปกรณ์เสริม) โดยเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และยังเป็นการตรวจสอบอุปกรณ์ด้วยว่า ปุ่นทั้งหมดยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ ? สำหรับ GamePad จะได้มาพร้อมตัวเครื่องทันทีเมื่อซื้อ Xiaomi Black Shark ผ่านร้านค้า TreeMobile ไม่ว่ารุ่นใดก็ตาม
GameDock
สำหรับ GameDock จะเป็นแถบเครื่องมือเพื่อปรับการตั้งค่าต่างๆ ในขณะเล่นเกม สามารถเริ่มการใช้งานได้ด้วยการเลื่อนปุ่ม Home ลง แถบเครื่องมือจะแสดงออกมาทันทีทางด้านบนของหน้าจอ และจะมีการตั้งค่าต่างๆ ดังต่อไปนี้ (จากซ้ายไปขวา)
ทั้งนี้ GameDock ยังไม่ได้ไว้ใช้ขณะเล่นเกมเท่านั้น เพราะเมื่ออยู่หน้าจออย่างอื่นที่ไม่ใช่เกมก็ยังสามารถเลื่อนปุ่ม Home ไปทางซ้ายหรือขวา ก็จะมีเมนูสำหรับเล่นเพลงหรือเลื่อนไปยังเพลงถัดไป และยังมีแอพฯ Alipay first ให้ใช้งานด้านล่าง แต่แอพฯ ดูเหมือนว่าแอะฯ เป็นภาษาจีน
ระบบลำโพงเสียง และไมโครโฟน
ลำโพงเสียงถือว่าสนั่นทีเดียว พร้อมกับให้พลังเสียงที่มีประสิทธิภาพ และนอกจากจะมีลำโพงคู่อยู่ทางด้านล่างตัวเครื่อง เมื่อมีการเร่งเสียงดังในระดับสูงๆ ลำโพงทางด้านบนก็จะมีการเปร่งเสียงออกมาช่วยด้วยอีกแรง ทำให้เสียงดังสนั่นไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนซ่อนอยู่บริเวณรอบตัวเครื่อง ทำให้การสือสารกับเพื่อนร่วมทีมขณะเล่นเกมไม่มีปัญหา
สแกนลายนิ้วมือ
ในด้านระบบรักษาความปลอดภัยจะมีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย ซึ่งที่สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ปุ่ม Home และสามารถสแกนได้ทันทีแบบไม่ต้องกดปุ่มเพาเวอร์เพื่อปลุกหน้าจอเสียก่อน ภาพรวมถือว่ามีการทำงานที่รวดเร็วไม่มีปัญหาในการทดสอบแต่อย่างใด
สแกนใบหน้า
หากระบบสแกนลายนิ้วมือยังไม่เพียงพอ Xiaomi Black Shark ก็ยังมีระบบสแกนใบหน้ามาให้ด้วย ซึ่งการทำงานก็มีความรวดเร็ว แต่ยังต้องกดปุ่มเพาเวอร์เพื่อปลุกหน้าจอก่อนจะทำการสแกนใบหน้า
กล้องถ่ายรูป
ด้านกล้องถ่ายรูป Xiaomi Black Shark อาจจะไม่เน้นลงรายละเอียดมากนัก แต่ก็ยังให้สเปคมาแบบจัดเต็ม โดยกล้องเป็นกล้องคู่ ซึ่งกล้องจะหลักมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 มีจุดพิกเซล 1.25um ส่วนเลนส์เสริมจะมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 มีจุดพิกเซล 1.0um ใช้เลนส์แบบ 6 ชิ้นทั้ง 2 กล้อง มีไฟแฟลชแบบ Dual LED และมีระบบโฟกัสอัตโนมัติ PDAF ทั้งนี้ด้านการถ่ายวิดีโอก็ทำความละเอียดได้ 4K ที่ 30fps
กล้องหน้าเป็นกล้องตัวเดียว มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มีจุดพิกเซล 1.0um ใช้เลนส์ 5 ชิ้น ใช้ไฟแฟลชจากหน้าจอแสดงผล สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียด 1080p ที่ 30fps ส่วนฟีเจอร์ของการใช้งานกล้องจะมีดังต่อไปนี้
แม้ว่าจะสมาร์ทโฟนเพื่อการเล่นเกม แต่เรื่องการใช้งานกล้องถ่ายรูป Xiaomi Black Shark ก็ไม่ลืมใส่โหมดบิวตี้มาให้ด้วย โดยสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แต่สำหรับกล้องหน้าจะมีโหมดปรับแต่งหน้าที่หลากหลาย เลือกระดับความสวยได้และปรับแบบขั้นสูงทั้ง หน้าเรียว, ตาโต, โทนสี และผิวเนียน ส่วนกล้องหลังก็สามารถใช้บิวตี้โหมดได้เช่นกัน
ด้วยการมาของกล้องคู่ ทำให้ Xiaomi Black Shark สามารถถ่ายภาพในโหมด Portrait ได้ โดยการทำงานมีแบ่งใบหน้าและเบลอพื้นหลังได้ดี แต่บางครั้งเมื่ออยู่ในที่แสงเยอะจนเกินไป ภาพจะมีการแสดงผลที่ผิดเพี้ยน และใช้ได้แต่กล้องหลังเท่านั้น
ถือว่าเป็นพื้นฐานของการใช้กล้องไปแล้ว สำหรับการเปลี่ยนฟิลเตอร์ โดย Xiaomi Black Shark เปลี่ยนได้ถึง 14 แบบสำหรับกล้องหลัง (ธรรมดา, Vivid, Film, Amour, Latte, Sun, Cookie, Calm, Soda, Gourmet, Glow, Berries, B&W, Fade) ส่วนกล้องหน้าเปลี่ยนไปถึง 13 แบบ (ธรรมดา, Nature, Sky Blue, Blush, Story, Childhood, Emotion, Romantic, Maze, Mint, Riddle, Movie, B&W)
คุณสมบัติการถ่ายภาพ
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ขอขอบคุณ : ร้าน TreeMobile
ข้อมูลผู้ใช้ ร่วมแสดงความคิดเห็นกับ : Xiaomi Black Shark
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=456909
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : http://www.siamphone.com/spec/xiaomi/black_shark.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท