อย. สหรัฐฯ อนุญาตให้ใช้งานเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำตาลกลูโคสแบบฝังในร่างกายต่อเนื่องแล้ว

มีการปรับปรุงกฎระเบียบว่าด้วยอุปกรณ์ดิจิตอลมาโดยตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ล่าสุดองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้อนุมัติเห็นชอบให้สามารถใช้งานเซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสแบบฝังลงบนร่างกายของผู้ป่วยได้แล้ว โดยระบบตรวจสอบระดับน้ำตาลกลูโคสแบบต่อเนื่องนี้มีชื่อเรียกว่า "Eversense"

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Infinix HOT 50 Pro+ Series สีสันใหม่ เติมเต็มความสดใส ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข
• 
  หลุดสเปค OPPO Reno 14 Pro กล้อง Periscope 50MP, สแกนนิ้วอัลตราโซนิก, ปุ่มควบคุมกล้อง คาดเปิดตัวกลางปี 2025

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

Eversense สามารถส่งข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่ฝังอยู่ในร่างกายผู้ป่วยไปยังแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ใช้งานทราบค่าระดับน้ำตาลกลูโคสผ่านมือถือ การอนุมัติให้ใช้งานระบบ Eversense อย่างถูกต้องตามกฎหมายเกิดขึ้นภายหลังจากที่มีการศึกษาและทดสอบในกลุ่มผู้ใช้งานจำนวน 125 รายซึ่งพบว่าน้อยกว่า 1% ที่แสดงอาการไม่พึงประสงค์หลังการปลูกถ่าย

ข้อควรระวังอย่างมากสำหรับเรื่องนี้ก็คือการฝังเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำตาลในเลือดบนร่างกายผู้ป่วยจะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เท่านั้น เมื่อเซ็นเซอร์ถูกฝังไว้ใต้ผิวหนังจะสามารถอยู่ในร่างกายผู้ป่วยได้นานต่อเนื่องถึง 90 วันซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำตาลกลูโคสแบบภายนอกหลาย ๆ ยี่ห้อที่มักจะต้องมีการเปลี่ยนใหม่ในระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

เซ็นเซอร์ของ Eversense จะถูกฝังไว้ใต้ผิวหนังของผู้ป่วยโดยมีสารฟลูออเรสเซนต์ซึ่งจะเรืองแสงเมื่อสัมผัสกับน้ำตาลกลูโคส จากนั้นระบบจะทำการอ่านค่าว่าระดับน้ำตาลกลูโคสนั้นสูงหรือต่ำและส่งค่าดังกล่าวไปยังแอพพลิเคชั่นบนมือถือภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที

จะมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ต่อเนื่องหลังจากนี้ แต่คณะกรรมการองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ได้ให้คำแนะนำอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าเมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วประโยชน์ของ Eversense มีมากกว่าความเสี่ยง