สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 1 มิถุนายน 2561
ก็เปิดตัวมาอย่างอลังการสำหรับสมาร์ทโฟนจากแดนมังกร Xiaomi Mi 8 ที่มาพร้อมชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 845 และยังใช้กล้องแบบเดียวกับ Xiaomi Mi Mix 2S ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี ทำให้ DxOMark เว็บไซต์ทดสอบคุณภาพกล้องชื่อดัง ไม่รอช้าจับมาทดสอบคุณภาพให้เห็นเป็นฉากๆ ไปเลย
แต่อย่างแรกขอมาชำแหละกล้องของ Xiaomi Mi 8 กันก่อนดีกว่าว่า ใช้เลนส์แบบไหน ? มีความคมชัดเท่าไหร่ ? ก็อย่างที่ทราบกันแล้วว่า กล้องหลังจะมาเป็นแบบคู่ โดยกล้องตัวหลักจะเป็นเลนส์กว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด 1/2.55 นิ้ว รูรับแสง f/1.8 และความละเอียดของพิกเซล 1.4um ในขณะที่กล้องเสริมจะเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
ฟีเจอร์หลักของกล้อง Xiaomi Mi 8
มาถึงการทดสอบกันดีกว่า โดยทาง DxOMark ก็ยังใช้การทดสอบในแบบต่างๆ ตามฉบับของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปจากที่แสงมาก, แสงน้อย, หน้าชัดหลังเบลอ, ซูม, คุณภาพของสี, เปิดแฟลช เป็นต้น ซึ่งมาดูกันดีกว่าการทดจะออกมาเป็นอย่างไร
HDR 92 คะแนน
ความสว่างและความต่างของสี Xiaomi Mi 8 ทำคะแนนออกได้ได้ดีมากๆ โดยในการทดสอบไปถ่ายที่ใต้สะพาน (มีความต่างค่อนข้างมาก) ซึ่งในส่วนที่มืดก็ยังเห็นรายละเอียดชัดเจน และส่วนรายละเอียดนอกสะพานที่มีแสงมากก็มีรายละเอียดปรากฏตามปกติ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนตัวท็อปอย่าง iPhone X และ Google Pixel 2 ก็สู่สีกันทีเดียว
Xiaomi Mi 8 Google Pixel 2 iPhone X
นอกจากนี้ยังถ่ายในที่มีแสงน้อยเพียง 5 lux ได้น่าพอใจอีกด้วย ทั้งแสงและการเห็นสิ่งของยังมีความชัดเจน ดูได้จากภาพทางด้านล่างที่ถ่ายในสตูดิโอ
Color (สี) 86 คะแนน
นี่เป็นอีกจุดที่ของกล้อง Xiaomi Mi 8 ทำออกมาได้ดี คงต้องขอบคุณกล้องตัวหลักเลนส์กว้าง ที่ให้ค่า White Balance กำลังดี โดยสีมีความคมชัด และหลังจากเรนเดอร์ออกมาก็ทำได้อย่างดีเช่นกัน ซึ่งเห็นได้ชัดเลยเมื่อนำไปเทียบกับ iPhone X และ Google Pixel 2 ทั้งสีขาวของตึกและสีของใบไม้ มีความสวยงามเป็นธรรมชาติกว่าเห็นๆ
Xiaomi Mi 8 Google Pixel 2 iPhone X
โฟกัสอัตโนมัติ 98 คะแนน
หาก 2 ข้อข้างบนมีผลลัพธ์ที่ออกมาประทับใจแล้ว ต้องบอกว่าระบบโฟกัสอัตโนมัติจะทำให้คุณว้าวไปอีกต่อ ด้วยการที่ Xiaomi Mi 8 มีระบบออโต้โฟกัสแบบ Phase detection ทำให้การทำงานมีความรวดเร็วและแม่นยำ โดยการทดสอบจะทำให้กล้องไม่โฟกัสก่อน จากนั้นรอให้กล้องกลับมาโฟกัส ซึ่งสั่นที่สุดใช้เวลา 500 มิลลิวินาที และนานที่สุด 2000 มิลลิวินาที แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแสงที่มีค่า Lux เพียง 20 ก็ตาม แค่นี้ก็ไม่ต้องบอกอะไรมาก เพราะการทำงานเกือบจะเทียบเท่า HTC U12+ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการออโต้โฟกัสอยู่แล้ว
รายละเอียดบนรูปภาพ 70 คะแนน
รายละเอียดส่วนต่างๆ ของภาพทำออกมาได้ดีเยี่ยม และเกือบดีเทียบเท่ากับเหล่าสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปจากแบรนด์อื่นๆ เลยทีเดียว โดยการทดสอบมีแพ้แบบเห็นได้ชัดมีเพียง Huawei P20 เท่านั้น เนื่องจากมีเลนส์ช่วยอย่าง Monochrome นั้นเอง แต่อย่างไรก็ตาม Xiaomi Mi 8 ยังต่อกรกับ iPhone X ได้อย่างสบายๆ ในสภาวะที่ 20 lux และ 1000 lux
Xiaomi Mi 8 1000 lux Huawei P20 1000 lux iPhone X 1000 lux
Xiaomi Mi 8 20 lux Huawei P20 20 lux iPhone X 20 lux
นอกจากนี้เมื่อนำไปเทียบกับ Xiaomi Mi Mix 2S ที่มีการพัฒนาเรื่องกล้องขึ้นมาอย่างมาก แต่ Xiaomi Mi 8 ก็ยังมีการพัฒนาที่ดีกว่าไปอีก หากดูใกล้ๆ คุณภาพของรูปที่ถ่ายในสถาวะแสง 20 lux รูปของ Xiaomi Mi 8 จะมีรายละเอียดที่ดีกว่าเล็กน้อย
Xiaomi Mi 8 1000 lux Xiaomi Mi Mix 2S 1000 lux
Xiaomi Mi 8 20 lux Xiaomi Mi Mix 2S 20 lux
Noise 72 คะแนน
ตามปกติข้อเสียของกล้องถ่ายรูป เมื่อเพิ่มค่า ISO ในที่แสงน้อยจะยิ่งทำให้เกิด Noise มากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงจุดนี้ Xiaomi Mi 8 ดูจะทำได้แย่กว่า Xiaomi Mi Mix 2S พอสมควร แต่ภาพรวมก็ยังออกมาได้ดี เมื่อนำไปเทียบกับ Huawei P20 และ iPhone X ในที่สภาวะแสง 100 lux และ 20 lux
Xiaomi Mi 8 100 lux Huawei P20 100 lux iPhone X 100 lux
Xiaomi Mi 8 20 lux Huawei P20 20 lux iPhone X 20 lux
ไฟแฟลช 85 คะแนน
ในเรื่องของไฟแฟลช ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำคะแนนออกมาได้ดี ก็ต้องขอบคุณความแม่นยำและความต่อเนื่องของ Exposure ในแบบเฟรมต่อเฟรม และด้วยการเป็นไฟแบบ LED ทำให้รายละเอียดของภาพไม่ว่าจะเป็นสีหรือเงา มีการเก็บรายละเอียดที่ดี แถม White balance ยังมีความแม่นยำชนิดไม่ต้องใช้ไฟเสริมช่วยเลย ในขณะที่ Noise บนภาพก็ถูกลบออกไปมากทีเดียวในทุกๆ ภาพที่ถ่าย
ซูม 47 คะแนน
แม้ว่าคะแนนจะออกมาน้อย แต่ก็เป็นคะแนนที่ดีสำหรับการซูมบนกล้องสมาร์ทโฟน ก็ตามภาพทางด้านล่าง เมื่อใช้การซูม 2x ในสภาวะแสง 20 lux, 100 lux และ 1000 lux เห็นได้ชัดว่ารายละเอียดและสีของภาพยังออกมาดีอยู่ แต่สีอาจจะไม่สดเท่า iPhone X
Xiaomi Mi 8 ซูม 2x 1000 lux iPhone X ซูม 2x 1000 lux
Xiaomi Mi 8 ซูม 2x 100 lux iPhone X ซูม 2x 100 lux
Xiaomi Mi 8 ซูม 2x 20 lux iPhone X ซูม 2x 20 lux
หน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh) 50 คะแนน
ก็ถือว่ายังเป็นคะแนนที่ดีในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ โดยภาพที่เรนเดอร์ออกมาดูสมจริง และมีการจัดการการสิ่งของที่อยู่ด้านหน้า พร้อมเบลอพื้นหลังได้อย่างแม่นยำ แต่ก็ยังมีจุดบกพร้องเล็กน้อย ดูได้จากรูที่ยกนิ้วทั้ง 5 ขึ้นมา ระหว่างนิ้วยังเก็บรายละเอียดได้ไม่ดี
จากทั้งหมดที่ได้ทดสอบ ปรากฏว่าคะแนนรวมได้ไปถึง 105 คะแนน ซึ่งสามารถนำไปเทียบกับกล้องในระดับท็อปๆ จากแบรนด์อื่นได้อย่างสบาย และราคาก็น่าสนใจเอามากๆ โดยราคาเปิดตัวเริ่มต้นอยู่ประมาณ 13,480 บาท เท่านั้น และเมื่อเข้าประเทศไทยราคาอาจจะไม่หนีกันมาก ซึ่งทางเราจะมีการอัปเดตให้ทราบกัน
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.dxomark.com วันที่ : 1 มิถุนายน 2561
Samsung Galaxy A16 จอ FHD+ Super AMOLED ใหญ่ชัดเสมือนจริง กล้อง Triple camera แบตยาวนานขึ้น
เปิดตัว Xiaomi 15 Series ก้าวใหม่แห่งนวัตกรรมสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2024
แรงเกินต้าน! Snapdragon 8 Elite ใน Xiaomi 15 ทำคะแนน Multi-core ทะลุหมื่นแซงหน้า iPhone 16 Pro
Xiaomi 15 ถูกพบการทดสอบบน Geekbench แรงจัดคาดใช้ชิป Snapdragon 8 Elite
รีวิว iPhone 16 ยกระดับความแรงชิป A18 ได้ใช้ Camera Control เหมือนกัน
Redmi ฉลอง 11 ปี ปล่อยโลโก้ใหม่! พร้อมเปิดตัว Redmi K80 เรือธงสเปคจัดเต็ม
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น
OPPO Enco Air4 และ OPPO Pad 3 Pro คู่หูอุปกรณ์ IoT สุดล้ำที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging