Linksys เปิดตัว 'Velop' สุดยอดระบบ Wi-Fi แบบ Mesh เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดภายในบ้าน

Linksys ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เราเตอร์สำหรับบ้านแบรนด์แรกที่สร้างยอดขายเราเตอร์ได้สูงถึง 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ประกาศเปิดตัว “Velop” ผลิตภัณฑ์เราเตอร์กระจายสัญญาณสำหรับบ้านรุ่นแรกที่ติดตั้งโดยใช้ระบบ Wi-Fi แบบ Tri-Band ที่รองรับระบบ Mesh เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึง Wi-Fi ภายในบ้าน การันตีคุณภาพสัญญาณอินเทอร์เน็ตเต็ม 100% ครอบคลุมทุกส่วนของตัวบ้าน

การออกแบบของ “Velop” นั้น ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพและความโดดเด่นด้านการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด สามารถวางได้ในทุกพื้นที่ พร้อมรูปลักษณ์ที่เรียบหรูอย่างมีดีไซน์ ดึงดูดทุกสายตา แต่ละ Node ของ Velop คือเครื่อง Tri-Band AC2200 อันทรงประสิทธิภาพ ทำหน้าที่เป็นทั้งเราเตอร์ ตัวขยายสัญญาณ จุด access point และ bridge ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ใช้ได้มีเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตเมื่อจำนวนของอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายในบ้านมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

การติดตั้งแต่ละ Node สามารถทำได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน Linksys (รองรับการใช้งานทั้งระบบ iOS และ Android) ซึ่งมี interface ที่เรียบง่าย และใช้งานได้สะดวกที่สุดในปัจจุบัน หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว แอปพลิเคชัน Linksys จะทำหน้าที่เป็นตัวจัดการ Wi-Fi ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกับการตั้งค่าที่หลากหลาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน อาทิ การเปิดใช้งานให้ผู้ใช้ภายนอก (guest access), การจัดการการใช้งานโดยผู้ปกครอง (parental control) และการจัดลำดับความสำคัญของอุปกรณ์ (device prioritization)

“Linksys มุ่งมั่นคิดค้นและบุกเบิกนวัตกรรมสำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายภายในบ้านอยู่เสมอ และกำลังคิดค้นโซลูชันใหม่ๆ ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมอุปกรณ์รุ่นต่อๆ ไปเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้อินเตอร์เน็ตเครือข่ายภายในบ้านที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้อีกด้วย” กล่าวโดย Jenny Ng, Vice President for Linksys APAC “

Velop ได้รับการพัฒนาโดยคำนึงถึงการผสานประสิทธิภาพ ความโดดเด่นด้านการออกแบบ และความสะดวกในการใช้งานเป็นสำคัญ ซึ่งจะสร้างการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ไร้รอยต่อ และมั่นใจได้ในประสิทธิภาพไม่ว่าจะใช้งานในบริเวณใดภายในบ้าน”

ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น: การผสมผสานระหว่าง Tri-Band และระบบ Mesh

Linksys เป็นแบรนด์แรกที่นำประสิทธิภาพจากการใช้คลื่น Wi-Fi ทั้งสามคลื่นความถี่ รวมเข้ากับศักยภาพสูงสุดของ Mesh เพื่อส่งมอบความเร็วอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เต็ม 100% แก่ผู้ใช้งาน โดยต่างจากเราเตอร์แบรนด์อื่นที่จะใช้เพียงเราเตอร์และชุดขยายสัญญาณ หรือที่เรียกว่าระบบ Mesh แบบแยกส่วน (dual-band modular mesh systems) ซึ่งจะส่งผลให้ความเร็วในการเชื่อมต่อ Wi-Fi ลดลงครึ่งหนึ่งจากจุดเชื่อมต่อหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ส่งผลให้เกิดคอขวด “bottlenecking effect” ทำให้ผู้ใช้งานที่เชื่อมต่ออยู่ที่ปลายเครือข่ายได้รับสัญญาณที่ไม่เต็มประสิทธิภาพของความเร็วบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเท่านั้น

Velop ใช้สามคลื่นความถี่แบบไดนามิก เพื่อกำหนดเส้นทางสัญญาณที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อกันของแต่ละ Node เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ความเร็วที่สูงที่สุดสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสัญญาณทั้งหมด (client) โดยไม่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะเชื่อมต่ออยู่กับ Node ใดก็ตาม ระบบของ Velop จะจดจำการสแกนช่องสัญญาณเพื่อประเมินแต่ละสภาวการณ์ของเครือข่ายไร้สาย (unique condition of wireless environment) และเลือกคลื่นความถี่ที่ดีที่สุด (อาจเป็นช่อง 2.4 GHz หรือเป็นวิทยุคลื่นความถี่ 5 GHz on-board) รวมทั้งยังประเมินช่องสัญญาณภายในแต่ละ band เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพระหว่าง Node และอุปกรณ์ client

หากเป็นระบบ Tri-Band modular อื่นๆ เมื่อนำมาใช้งานในสภาวะที่ Mesh มีการตั้งค่าหลายแบบ จะเกิดสภาวะคอขวด เนื่องจากมีการส่งสัญญาณกลับ (back haul) แบบคงที่ ซึ่งก็คือการที่มีคลื่นความถี่เพียงช่องทางเดียวถูกกำหนดไว้สำหรับการสื่อสารระหว่าง Node ทำให้ศักยภาพของ Mesh ลดลง แต่ Velop สามารถทำงานได้ทุกเงื่อนไขของ Mesh และสามารถใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ทั้ง 3 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสำหรับการสื่อสารระหว่าง Node และการสื่อสารกับ client

Velop ยังสามารถใช้การเชื่อมต่อ Ethernet สำหรับการสื่อสารระหว่าง Node เพื่อให้ทั้ง 3 คลื่นความถี่สามารถสื่อสารกับ client และช่วยให้ Wi-Fi เข้าถึงสถานที่ห่างไกลได้ เช่น ห้องใต้ดิน หรือโรงรถ การหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของเทคโนโลยี Tri-Band แบบไดนามิก และการกำหนดค่า Mesh ที่เที่ยงตรง (true mesh configuration) ช่วยให้ Velop มีระบบ Modular Whole Home Wi-Fi ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สามารถให้ความเร็ว 100% แม้จะอยู่ที่ขอบของเครือข่าย

การออกแบบ: ผลิตภัณฑ์ Wi-Fi ที่ได้รับการยอมรับด้านดีไซน์ในระดับโลก

ทีมงานด้านประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ (product experience) ของ Linksys ที่มีรางวัลการันตี ได้ร่วมมือกับทีมพัฒนาฮาร์ดแวร์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มากคุณค่าด้านดีไซน์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้าน

• Velop ได้รับรางวัลนวัตกรรม CES Innovation Award ประจำปี 2017 และเป็น 1 ใน 11 แบรนด์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเพื่อพิชิตรางวัล CES Last Gadgets Standing Awards ประจำปี 2017
• แต่ละ Node ของ Velop ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม ในรูปแบบแนวตั้ง ภายใต้ความสูงเพียง 7 นิ้ว ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดพื้นที่ในการวางถึง 88% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของเราเตอร์โดยทั่วไป ตัวเครื่องสีขาวช่วยให้อุปกรณ์สามารถผสมผสานเข้ากับทุกพื้นที่ของบ้าน ไม่ว่าจะนำไปติดตั้งไว้ส่วนใดในบ้าน
• ตัวเครื่องมาพร้อมเสากระจายสัญญาณง 6 ต้น ซึ่งกระจายอยู่ทั้งด้านบนและส่วนกลางของอุปกรณ์ เสาบางต้นจะกระจายสัญญาณไปยังด้านบนและด้านล่าง และเสาที่เหลือจะช่วยกระจายสัญญาณไปทางซ้ายและขวา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการกระจายสัญญาณ Wi-Fi จาก Velop ทั้งการใช้งานในบ้านแบบชั้นเดียวและบ้านที่มีหลายชั้นได้เป็นอย่างดี
• ฐานของเครื่องถูกออกแบบมาให้มีช่องเก็บสายไฟ และสายเชื่อมต่อสัญญาณ โดยมีช่องจัดเก็บและแถบยางขนาดเล็กเพื่อจัดระเบียบสายเคเบิลอย่างเป็นระเบียบ เพื่อความสวยงามในการวางไว้เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน

สะดวกต่อการใช้งาน: ทำให้การเชื่อมต่อและการใช้งาน Interface ของ Wi-Fi ง่ายยิ่งขึ้น

แอปพลิเคชัน Linksys (มีชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า Linksys Smart Wi-Fi) ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดและรวมเอานวัตกรรมกระบวนการติดตั้งแอปพลิเคชันแบบ app-led ที่เป็นนวัตกรรมเฉพาะของ Velop โดยการตั้งค่าทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายในแอปพลิเคชันและใช้บลูทูธ เพื่อสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ไร้สายและ Node ได้อย่างปลอดภัย

• เมื่อผู้ใช้ปรับเปลี่ยนชื่อเครือข่าย แอปพลิเคชันจะยังคงรักษาการเชื่อมต่อกับ Velop และไม่บังคับให้ผู้ใช้ต้องออกจากแอปพลิเคชัน หรือต้องเชื่อมต่อใหม่ และ/หรือเปลี่ยนการตั้งค่า Wi-Fi บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การดำเนินการนี้จะช่วยแก้ปัญหาที่สำคัญในการติดตั้งเครือข่าย Wi-Fi ใดๆ ก็ตามภายในบ้านใหม่
• แอปพลิเคชันจะนำเสนอภาพเคลื่อนไหว และคำแนะนำในการแก้ไขปัญหา (troubleshooting) อย่างละเอียดเพื่อแนะนำผู้ใช้ Wi-Fi ที่แม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถถอนการติดตั้งฮาร์ดแวร์ของเครือข่ายได้ และสามารถติดตั้ง Node หลักของ Velop ได้ด้วย
• หลังจากตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้จะถูกนำทางไปที่แดชบอร์ดหลักของแอปพลิเคชัน Linksys ซึ่งผู้ใช้จะสามารถยืนยันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและดูจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ Velop ได้
• ที่แดชบอร์ด ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงการตั้งค่า Wi-Fi ต่างๆ เช่น การเปิดใช้งานให้ผู้ใช้ภายนอก (guest access) การควบคุมการใช้คอมพิวเตอร์โดยผู้ปกครอง (parental control) และการจัดลำดับความสำคัญของอุปกรณ์ (device prioritization) ได้อย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชัน Linksys สามารถใช้งานได้บน iOS และ Android และทำงานได้บนผลิตภัณฑ์ที่รองรับแอปพลิเคชันทั้งหมดของ Linksys รวมทั้งเราเตอร์ตระกูล Max-Stream

ราคาและช่องทางจำหน่าย:

Velop มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี การบริการติดตั้งที่บ้านลูกค้า (ในพื้นที่ที่กำหนด) รวมถึงทีมงานบริการให้คำปรึกษาลูกค้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจ โดย Velop มีการวางจำหน่ายใน 3 รูปแบบ ดังนี้

• (แพ็ค 1 ตัวกระจายสัญญาณ) WHW0301 ราคา 7,990 บาท
• (แพ็ค 2 ตัวกระจายสัญญาณ) WHW0302 ราคา 12,990 บาท
• (แพ็ค 3 ตัวกระจายสัญญาณ) WHW0303 ราคา 17,990 บาท

พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ Velop แพ็ค 3 ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2561 สามารถลงทะเบียน ผ่านช่องทาง Facebook Linksys Thailand เพื่อรับบัตรสมนาคุณ Starbuck มูลค่า 500.- ฟรีทันที

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  เป็นเจ้าของ iPhone 16 ก่อนใคร ผ่อน 0% ด้วยบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด KTC
• 
  ถูกใจคนขี้เกียจ! ญี่ปุ่นคิดค้นเครื่องอาบน้ำ AI อาบพร้อมซักแห้ง ภายใน 15 นาที

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่