Apple เปิดตัวสายนาฬิกา Apple Watch มาพร้อมสีสันและสไตล์ของฤดูใบไม้ผลิ

Apple เปิดตัวสายคอลเลกชั่น Spring ที่มาพร้อมสีสันสดใสและการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ การอัพเดทประจำฤดูกาลนี้ประกอบด้วย สายแบบ Woven Nylon ที่มาพร้อมแถบสีสดใสที่สลับสีขาวกับสีต่างๆ เพื่อรูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยวและสะอาดตา สาย Nike รุ่นพิเศษที่มาในสีเข้ากันกับรองเท้าวิ่งรุ่นล่าสุดของ Nike และสาย Apple Watch Hermès ในสีสันทันสมัยที่โดดเด่นสะดุดตา ในช่วงปลายเดือนนี้ สายรุ่นใหม่ทั้งหมดจะเปิดให้สั่งซื้อได้ทาง apple.com และซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายบางแห่ง

Apple Watch

• สายแบบ Woven Nylon มีลายทางโฉมใหม่แล้ว
• สายแบบ Sport Band สี Denim Blue สี Lemonade และสี Red Raspberry
• สายแบบ Woven Nylon สี Black Stripe สี Blue Stripe สี Gray Stripe และสี Pink Stripe
• สายแบบ Sport Loop สี Flash Light สี Hot Pink สี Marine Green และสี Tahoe Blue
• สายแบบ Classic Buckle สี Spring Yellow สี Electric Blue และสี Soft Pink

Apple Watch Series 3 (รุ่น GPS + Cellular) จะมีรุ่นตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเทาสเปซเกรย์ขนาด 38 มม. และ 42 มม. พร้อมสายแบบ Sport Loop สีดำ

Apple Watch Nike+

ตอนนี้ สาย Nike Sport Loop จะวางจำหน่ายแยกต่างหาก ซึ่งมาพร้อมสี Nike Sport Band ใหม่:

• สาย Nike Sport สี Barely Rose/Pearl Pink สี Black/White และสี Cargo Khaki/Black
• สาย Nike Sport Loop สี Black/Pure Platinum สี Bright Crimson/Black สี
• Cargo Khaki สี Midnight Fog และสี Pearl Pink

Apple Watch Nike+ (รุ่น GPS + Cellular) จะมีรุ่นตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเทาสเปซเกรย์ขนาด 38 มม. และ 42 มม. พร้อมสาย Nike Sport Loop สี Midnight Fog

Apple Watch Hermès

สายแบบ Single Tour Rallye และ Double Tour ตอนนี้โดดเด่นด้วยรายละเอียดสีสันที่ตัดกัน:

• แบบ Double Tour ขนาด 38 มม. สี Indigo พร้อมขอบสายสีแดง
• แบบ Double Tour ขนาด 38 มม. สี Blanc พร้อมขอบสายสีแดง
• แบบ Single Tour Rallye ขนาด 42 มม. สี Indigo พร้อมขอบสายสีแดง
• แบบ Single Tour Rallye ขนาด 42 มม. สี Blanc พร้อมขอบสายสีแดง

ราคาและการวางจำหน่าย

Apple Watch มีขนาดตัวเรือนสองขนาด ได้แก่ 38 มม. และ 42 มม. Apple Watch Series 1 จะวางจำหน่ายในตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเงินหรือสีเทาสเปซเกรย์ คู่กับสายแบบ Sport Band ในราคาเริ่มต้นเพียง 8,900 บาท และ Apple Watch Series 3 (GPS) จะวางจำหน่ายในตัวเรือนอะลูมิเนียมสีทอง สีเงิน หรือสีเทาสเปซเกรย์ พร้อมสายแบบ Sport Band โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ 11,900 บาทที่ apple.com และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายบางแห่ง Apple Watch Nike+ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 11,900 บาท

Apple Watch รุ่นใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อได้ที่ apple.com ในช่วงปลายเดือนนี้ในออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, สวิตเซอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

สาย Apple Watch จะเปิดให้สั่งซื้อได้ที่ apple.com ในช่วงปลายเดือนนี้ในออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, บราซิล, แคนาดา, สาธารณรัฐเช็ก, จีน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ฮังการี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, มาเลเซีย, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, รัสเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, ไทย, ตุรกี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา สายแบบ Sport Band, Sport Loop และ Woven Nylon มีราคาอยู่ที่ 1,900 บาท และแบบ Classic Buckle มีราคาอยู่ที่ 5,900 บาท

Apple Watch Nike+ รุ่นใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อได้ที่ apple.com และ nike.com ในช่วงปลายเดือนนี้ในออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, สวิตเซอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

Nike Sport Band และ Sport Loop ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อได้ที่ apple.com และ nike.com ในช่วงปลายเดือนนี้ในออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, บราซิล, แคนาดา, สาธารณรัฐเช็ก, จีน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ฮังการี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, มาเลเซีย, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, รัสเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, ไทย, ตุรกี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา สาย Nike Sport Band และ Sport Loop มีราคาอยู่ที่ 1,900 บาท

Apple Watch Hermès ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อได้ที่ apple.com และ Hermes.com ในช่วงปลายเดือนนี้ในออสเตรเลีย, เบลเยียม, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, รัสเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, สเปน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, ตุรกี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา แบบ Single Tour Rallye มีราคาอยู่ที่ $439 (สหรัฐอเมริกา) และแบบ Double Tour มีราคาอยู่ที่ $489 (สหรัฐอเมริกา)

สาย Apple Watch, Apple Watch Nike+ และ Apple Watch Hermès ใหม่จะวางจำหน่ายที่ Apple Galaxy Macau ในช่วงปลายเดือนนี้

Apple Watch Series 3 (รุ่น GPS + Cellular) ต้องทำงานร่วมกับ iPhone 6 หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 11 หรือใหม่กว่า Apple Watch Series 3 (รุ่น GPS) ต้องทำงานร่วมกับ iPhone 5s หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 11 หรือใหม่กว่า, Apple Watch Series 1 ต้องทำงานร่วมกับ iPhone 5s หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 11 หรือใหม่กว่า คุณสมบัติบางประเภทไม่สามารถใช้ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา

ลูกค้าทุกคนที่ซื้อ Apple Watch จาก Apple จะได้รับบริการตั้งค่าแบบส่วนตัวในร้านหรือทางออนไลน์ฟรี เพื่อช่วยตั้งค่าและปรับแต่ง Apple Watch ใหม่ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย ทั้งในส่วนปฏิทิน การแจ้งเตือน แอพ และอีกมากมาย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Apple AirPods 4 เสียงดีที่สุด แม้ไม่ใช่รุ่น Pro ดีไซน์สวมใส่สบายมากขึ้น อัปเกรดชิปเสียงใหม่
• 
  ทำความรู้จัก Infinix HOT 50 หน้าจอ 120Hz มีฟีเจอร์ Infinix AI ชิปเซ็ต Helio G100 เข้าไทยแน่!

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่