Google Pixel 2 XL สมาร์ทโฟนที่ขึ้นชื่อว่ามีกล้องถ่ายภาพที่สวยและดีที่สุดในโลกเมื่อปี 2017 ชูคุณสมบัติเด่นด้วยกล้องหลังเดี่ยวความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8 และระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS+EIS) พร้อมด้วยหน้าจอไร้ขอบ P-OLED กว้าง 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Snapdragon 835 และ RAM 4GB ทั้งยังเพิ่มความฉลาดด้วยผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Google Assistant
Google Pixel 2 XL มีดีไซน์สวยงามตามสไตล์ Google Pixel รุ่นแรก โดยวัสดุที่ผลิตในด้านหลังจะเป็นโลหะ-กระจกแบบ Unibody ขณะที่ด้านหน้าจะเป็นจอโค้งที่ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
Google Pixel 2 XL มาพร้อมหน้าจอโค้งแบบ P-OLED คมชัดระดับ QHD+ (2880 x 1440 พิกเซล) ที่มีอัตราส่วน 18:9 และถึงแม้ว่าจะเป็นจอโค้ง แต่การแสดงผลยังคงเป็นแบบปกติอยู่ (ไม่โค้งตามหน้าจอ) ทั้งยังครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5 เพิ่มความทนทาน แถมด้วยฟีเจอร์ Always-on display
เหนือหน้าจอแสดงผลเริ่มจากซ้ายมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ตรงกลางมีลำโพงตัวที่ 2 ขณะที่ด้านล่างใต้ลำโพงจะมีระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ซ่อนอยู่ และด้านขวาสุดจะมีไฟ LED แจ้งเตือนสถานะ
ข้างล่างหน้าจอแสดงผลมีลำโพงตัวหลักที่ซ่อนไมโครโฟนตัวที่ 1 อยู่ ขณะปุ่มนำทางต่างๆ จะอยู่ภายในหน้าจอ
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 1 ช่อง
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มสีส้มสะดุดตาสำหรับล็อค-ปิดเครื่อง ถัดลงมามีปุ่มสำหรับเพิ่ม-ลดเสียง
ที่ด้านล่างตัวเครื่องมีเพียงช่องสำหรับชาร์จหรือเชื่อมต่อข้อมูลแบบ USB Type-C
ส่วนด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
สุดท้ายที่ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องหลังความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Dual LED และถัดลงมากลางตัวเครื่องมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สรุปสเปคของ Google Pixel 2 XL
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
Google Assistant
ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนตระกูล Google Pixel ทาง Google Pixel 2 XL ก็จะไม่พูดถึงผู้ช่วยอย่าง Google Assistant ก็คงจะไม่ได้ เพราะถือเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายด้วยคำเสียงของเราอย่างง่ายดาย แต่ก่อนอื่น เราต้องเปลี่ยนเครื่องเป็นภาษาอังกฤษ (English) ก่อน โดยให้ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > ภาษาและการป้อนข้อมูล > ภาษา > เพิ่มภาษา จากนั้นเลือก English และเลื่อนภาษาอังกฤษขึ้นมาเป็นภาษาที่ 1
สำหรับการใช้งาน Google Assistant ก็สามารถเรียกได้ง่ายๆ เพียงแค่พูดว่า “OK Google” หน้าต่างของ Google Assistant ก็จะเด้งขึ้นมาในทันที
Edge Sense
หลายคนคงจะเคยได้ยินฟีเจอร์นี้กันมาบ้างแล้ว กับ Edge Sense หรือการบีบด้านข้างตัวเครื่องเพื่อสั่งการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Google Assistant และบีบเพื่อให้ปิดเงียบในทันที เป็นต้น โดยการเปิดส่วนนี้ให้เราไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > ท่าทางสัมผัส และเลือก Active Edge
Google Lens
Google Lens หรือฟีเจอร์ที่เรียกง่ายๆ คือ การบ่งบอกว่าสิ่งที่อยู่ในรูปภาพของเราคืออะไร ซึ่งการใช้ก็สามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่
จำเสียงเพลงโดยอัตโนมัติ
อีกหนึ่งฟีเจอร์อีกเหมือนจะแอบซ่อนไว้ใน Google Pixel 2 XL เครื่องนี้ คือ ระบบการค้นหาเพลงแบบอัตโนมัติเมื่อมีเสียงดนตรีอยู่รอบข้าง ยกตัวอย่างเพลง Feels Great ที่เราเปิดลำโพงไว้ เพียงแค่เรานำสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ไปไว้ในระแวกนั้น ระบบก็จะรู้เลยว่าเพลงๆ นั้นคือเพลงอะไร ซึ่งก็จะแสดงในหน้าจอล็อคหรือการแผงการแจ้งเตือน
อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ก็มีความพิเศษที่ต่างไปจากแอพฯ ช่วยเหลืออื่นๆ ก็คือ ไม่ต้องมีการใช้อินเทอร์เน็ตใดๆ ก็สามารถใช้งานได้ปกติ
ลำโพงสเตอริโอ
สำหรับ Google Pixel 2 XL ก็มาพร้อมกับลำโพงคู่หน้า ที่จะทำงานจากลำโพง Stereo 2 ตัวบริเวณหน้าจอทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้ได้รับอรรถรสในการรับชมวิดีโอที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ระบบความปลอดภัย
อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับระบบความปลอดภัย คือ Pixel Imprint หรือระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่ Google Pixel 2 XL เครื่องนี้สามารถทำได้เป็นอย่างดีและรวดเร็วมาก ทั้งนี้ ก็ยังมีการล็อดหน้าจอแบบอื่นอีก ได้แก่ รูปแบบ, PIN และรหัสผ่าน
กล้อง
จุดเด่นอย่างสุดท้าย คือ กล้องหน้าที่มาพร้อมกับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ส่วนกล้องหลังเดี่ยวขั้นเทพก็มีความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล ที่ทำงานได้ไม่ต่างจากกล้องคู่ของแบรนด์อื่นๆ เลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่
ขอขอบคุณสินค้าจาก :
ทั้งนี้ Google Pixel 2 XL จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีดำล้วน (Black) และสีขาว/ดำ (Black & White) ในราคา 27,900 บาท (ความจุ 64GB) และราคา 32,000 บาท (ความจุ 128GB)
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.linkmobilembk.com วันที่ : 20 มีนาคม 2561
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว
OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิปพลัง AI ซูมไกล 120 เท่า ด้วย AI Telescope Zoom
Redmi A4 5G หน้าจอ 120Hz ดีไซน์พรีเมียมมากขึ้น ชิปเซ็ต Snapdragon 4s Gen 2 เล่นเกมเพลิน