รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้! ส่อง 10 เทรนด์ E-Commerce มาแรงที่ต้องจับตา เรียนรู้ และปรับตัว

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงสองสามปีที่ผ่านมา การซื้อขายของผ่านระบบออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสินค้าตั้งแต่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปจนถึงชิ้นใหญ่อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า จนท้ายที่สุดกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคโดยปริยาย โดยในปีนี้เองหลายคน คงทราบข่าวว่ากลุ่มธุรกิจต่างๆ เริ่มให้ความสำคัญด้าน E-Commerce มากเป็นอันดับแรก หรือหากไม่เกี่ยวก็พยายามปรับตัวเพื่อใช้ข้อดี มาพัฒนาศักยภาพของตนเอง ดังนั้นเรามาส่อง 10 เทรนด์มาแรงที่ต้องจับตา เรียนรู้ และปรับตัว!

1. สกุลเงินดิจิทัล : คงปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นนี้ก็เป็นข้อกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากความทันสมัยของระบบยังทำได้ไม่ดีพอในการตรวจสอบ และตรวจเช็คทั้งย้อนหลัง หรือเมื่อใช้จ่ายไปแล้ว ทว่าในทางกลับกันสกุลเงินกับเริ่มเป็นที่ยอมรับขึ้นเรื่อยๆ แม้ยังไม่แพร่หลาย แต่หลายหน่วยงานก็เริ่มให้การยอมรับ และความสำคัญแล้ว ดังนั้นในอนาคตจึงต้องจับตามอง เพื่อปรับตัวเองให้ทันสร้างทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค 

2. แอปพลิเคชั่น : กลายเป็นว่าเว็บไซต์ความนิยมเริ่มลดลงเรื่อยๆ จึงไม่แปลกใจที่ผู้ขายหลายรายได้อัดโปรโมชั่นต่างๆ ผ่านช่องทางนี้ เพื่อเพิ่มการเข้าถึง แน่นอนวิธีนี้ยังได้ผลอยู่ แต่การเข้าถึงก็ยังผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก เพราะฉะนั้นแอปพลิเคชั่นจึงเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้ามและต้องพัฒนาไปควบคู่กัน ซึ่งประโยคที่ว่า "ใครเริ่มก่อนได้เปรียบ" ดูเหมือนว่าจะตอบคำถามได้เลย!

3. ระบบปัญญาประดิษฐ์ : นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก AI แม้ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาเราได้เห็นเกือบทุกแขนงธุรกิจต่างนำข้อดีของเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ อย่างไรก็ดีด้านอุปสรรคสำคัญคือความพร้อมเป็นหลัก โดยผู้ที่สามารถจะใช้จุดเด่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบจึงต้องมีทรัพยากรทั้งเงินทุน, บุคคล, ข้อมูล, ปัจจัยภายนอก นั่นหมายความว่าคุณต้องเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในระดับหนึ่ง ทว่าปัจจุบันใช่ว่าเราจำต้องลงมือเอง ซึ่งสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญภายนอกได้ แน่นอนว่าเป็นทางเลือกหนึ่งทำให้เราได้เข้าใจ และทันโลกใหม่ๆ ได้ด้วย  

4. ข้อมูล : แม้ว่าไม่มี AI คอยช่วยเหลือ แต่ถ้ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มซึ่งสามารถเป็นประโยชน์ต่อการพยากรณ์ในแง่ต่างๆ ได้ไม่มากก็น้อย นั่นหมายความว่าทำให้เราทราบช่วงเวลาการซื้อ, โปรโมชั่น, การบริการหลังการขาย หรือแม้แต่สินค้าขายคล่องขายดี โดยจะเป็นประโยชน์ด้านการตลาดต่อไป

5. การติดต่อสื่อสาร REAL TIME : การติดต่อสื่อสารสามารถสร้างสรรค์โอกาสที่มีความหมายได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายของออนไลน์ คุณลองนึกภาพ มี 100 คนที่ลักษณะนิสัยแตกต่างกัน เข้ามาถามไถ่สินค้าแต่ละชิ้นแตกต่างกันอีก ดังนั้นคำตอบที่เราจะให้นั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากว่าจะตอบโจทย์ผู้ถามได้หรือไม่ นอกจากนี้หากคุณไม่สามารถดูแลลูกค้าได้ถึง 50% นั่นหมายความว่าคุณสูญเสียโอกาสการขายไปถึง 50% เช่นกัน แต่นัยสำคัญคือกลุ่มที่หายไปอาจทำให้ธุรกิจของคุณ Boom ก็เป็นได้ 

ดังนั้นการติดต่อสื่อสารจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งธุรกิจของคุณเล็กการพูดคุยกันเองกับลูกค้าอาจกลายเป็น Key to Success ของคุณได้ในอนาคต โดยในปัจจุบันหลากหลายกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ต่างนำระบบปัญญาประดิษฐ์ และข้อมูลพัฒนาต่อยอดให้ AI สามารถตอบคำถามได้อย่างตรงจุด ทั้งลดต้นทุนกำลังคนที่ดูแลส่วนนี้ไปได้มาก

6. ไม่ต้องเยอะ : ในปัจจุบันยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้วเราเข้าสู่อุปกรณ์ไร้สาย ถ้าจะให้อ่านอะไรเยอะแยะ กดปิดซะดีกว่า ยิ่งแอปพลิเคชั่นเป็นส่วนสำคัญ การทำ Content จึงต้องการความเรียบง่ายเพียงใช้ Infographic หรือคลิปวิดีโอสั้นก็พอแล้ว

7. Social Media : เป็นประเด็นต่อเนื่องจากข้อก่อนหน้าใช้ Socia Media ให้เกิด engagement ก็ต้องทำให้เนื้อหามีความน่าสนใจ ไม่ต้องเยอะ แต่ตรงจุด ดังนั้นความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นเรื่องสำคัญ 

8. เทคโนโลยี AR/VR : เรียกได้ว่าเป็นส่วนเสริมทำให้การขายออนไลน์ สร้างความแตกต่างอย่างน่าสนใจ เช่น คุณดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ลูกค้าสามารถเข้าแอปพลิเคชั่นเพื่อทดลองจัดวางตกแต่ง ณ สถานที่จริงได้ดั่งใจจึงทำให้เพิ่มโอกาสการซื้อมากขึ้น หรืออยากดูหนังแบบ VR ก็รับชมคลิปวิดีีโอตัวอย่าง และสั่งซื้อได้เลย ซึ่งรูปแบบของ Virtual Reality จะมุ่งเน้นภาพสมจริงมากกว่าจึงทำให้เราเห็นรายละเอียดของสินค้าอย่างชัดเจน ลดความกังวลต่างๆ มากขึ้น 

9. ความคล่องตัวในการรับสินค้า : เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว สามารถจะสร้างความแตกต่างได้ แม้ว่าประเทศไทยยังไม่แพร่หลายมากนัก ทว่าในต่างประเทศการจัดส่งสินค้ามีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่หุ่นยนต์เดินไปส่งในระยะใกล้ หรือหุ่นโดรนบินไปส่งในพื้นที่ระยะไกลที่ต้องการสินค้าด่วน รวมถึงการให้ผู้ขายส่งสินค้าตามจุดให้บริการต่างๆ เป็นต้น นั่นหมายความว่าผู้รับสินค้าอย่างเราจะมีตัวเลือกมากขึ้นในความต้องการที่แตกต่างกัน ส่วนผู้ขายก็ได้รับความไว้วางใจกับความรู้สึกประทับใจจึงทำให้เกิด Customer loyalty ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญของ E-commerce

10. การวิเคราะห์พฤติกรรม : แม้บริการจากเราจะดีเลิศขนาดไหน แต่ถ้าไม่ตอบโจทย์ผู้ซื้อบางทีธุรกิจของคุณก็อาจไม่ปังได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องรู้ว่าสินค้าที่ขายนั้นสำหรับกลุ่มเป้าหมายช่วงอายุใด เพศไหน หรือเทรนด์ลักษณะอย่างไรคือความชอบของพวกเขา และยิ่งไปกว่านั้นหากสินค้าของคุณเกี่ยวข้องกับวัยรุ่นจำต้องให้สำคัญ เพราะกลุ่มนี้คืออยากลอง สั่งซื้อง่าย และชื่นชอบเทคโนโลยี

จากที่กล่าวมาทั้งหมด 10 ข้อเป็นเพียงปัจจัยหลักแต่ยังต้องอาศัยปัจจัยรองต่างๆ ประกอบกันไปด้วย ดังนั้นการทำ E-Commerce ให้ประสบความสำเร็จ การเริ่มต้นง่ายที่สุดคือต้องติดตามข่าวสาร เรียนรู้ และปรับตัว อย่ายึดติด เพราะมีตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม "อนาคตก็สามารถลบเลือนอดีตได้"

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Redmi Band 3 สมาร์ทแบนด์ใช้งานนาน 18 วัน ดีไซน์ยังเหมือนเดิม
• 
  รีวิว HONOR Magic V3 สมาร์ทโฟนจอพับ บางที่สุดในโลก 9.2 มม. หน้าจอสุดแกร่ง มี HONOR AI และแบตเตอรี่ขั้นสูง พร้อมลุยทั้งวัน

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่