รีวิว Asus Zenfone Max Plus (M1) สมาร์ทโฟนหน้าจอ Full View ตัวแรกจากค่าย Asus

รีวิวโทรศัพท์มือถือ ASUS ZenFone Max Plus (M1) - เอซุส

ได้ฤกษ์กันแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอแสดงผลแบบ Full View อัตราส่วน 18:9 รุ่นแรกจากค่าย Asus โดยจะมาในชื่อรุ่นว่า Asus Zenfone Max Plus (M1) ซึ่งนอกจากจะมีจุดเด่นที่หน้าจอแสดงผลแล้ว เรื่องของกล้องหลังยังเป็นแบบกล้องคู่ ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล พร้อมขยายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ใหญ่ถึง 4130 mAh ใช้งานในโหมด Standby สัญญาณ 4G ได้ถึง 26 วัน และเล่นวิดีโอนานต่อเนื่องถึง 13 ชั่วโมง

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Asus Zenfone Max Plus (M1) มีการออกแบบตัวเครื่องเป็นแบบ Unibody และตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะชั้นดีในการผลิต โดยตัวเครื่องจะมีขนาด 152.6x73x8.8 มิลลิเมตร น้ำหนักตัว 160 กรัม

หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Full View อัตราส่วน 18:9 ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440x720 พิกเซล มีการครอบทับด้วยกระจกแก้ว 2.5D แบบโค้ง และยังมีเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้า เพื่อการถนอมสายตา

ข้างบนหน้าจอจะมีไฟบอกสถานะอยู่ทางซ้ายสุด ถัดมาเป็นกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และมีช่องลำโพงสำหรับการสนทนาอยู่ตรงกลาง

ด้านล่างหน้าจอจะไม่มีปุ่มใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนเหล่าปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ และอยู่ภายในหน้าจอ

มาในส่วนด้านล่างตัวเครื่อง จะมีช่องพอร์ต Micro USB อยู่ตรงกลาง และขนาบข้างด้วยลำโพงเสียงทั้ง 2 ฝั่ง

ส่วนด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรอยู่ทางซ้าย และรูตัดสัญญาณรบกวนอยู่ทางขวา

ขยับมาทางด้านซ้าย จะมีช่องใส่ซิมการ์ดคู่ (nano SIM) และ Micro SD รองรับความจุสูงสุด 256GB ซึ่งทั้งหมดจะรวมกันในถาดเดียว สามารถใส่ได้ทั้ง 3 อย่างพร้อมกัน

** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **

ฝั่งขวาจะมีปุ่มเพิ่มและลดเสียงอยู่ด้านบน ถัดลงมาข้างล่างจะเป็นปุ่มเพาเวอร์

มาในส่วนสุดท้ายตรงด้านหลัง มีกล้องคู่ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล อยู่บนซ้ายสุด ถัดมาเป็นไฟแฟลชแบบ LED และในส่วนสแกนลายนิ้วมือจะอยู่ตรงกลาง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

สมาร์ทโฟน Asus Zenfone Max Plus (M1)
หูฟัง
ยางหูฟังสำรอง
อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
อะแดปเตอร์
สาย USB
สาย OTG
คู่มือการใช้งาน
ในรับประกันสินค้า

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Asus Zenfone Max Plus (M1) เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Asus Zenfone Max Plus (M1) กับไม้บรรทัด

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคเครื่อง Asus Zenfone Max Plus (M1)

หน้าจอแสดงผล : ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1440x720 พิกเซล) ครอบทับด้วยกระจกแก้ว 2.5D ขอบโค้ง
หน่วยประมวลผล : MT6750 Octa-core Processor
RAM : 4GB
ROM : 32GB/64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 256 GB
กล้องหลังคู่ : เลนส์หลัก ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, เลนส์เสริม ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีไฟแฟลช LED
กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 แฟลชจากหน้าจอ
ระบบปฎิบัติการ : Android 7.0 (Nougat)
เครือข่าย
รองรับ 2 ซิม แบบ Nano SIM
- GSM 850/900/1800/1900 MHz
- WCDMA 1,2,5,8
- LTE Bands 1/2/3/5/7/8/20
เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
- 3G: HSPA UL 5.76 / DL 42Mbps
- 4G: LTE UL 5.75 / DL 42Mbps
การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.0, Micro USB 2.0, ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, OTG
แบตเตอรี่ : 4130 mAh

หน้าจอหลัก/หน้าแอพพลิเคชั่น

รูปแบบอินเตอร์เฟส จะมีหน้าตาตามฉบับ Zen UI และจะมาพร้อมแอพพลิเคชั่นจากโรงงานบางส่วน

แอพพลิเคชั่นพื้นฐาน

แถบการแจ้งเตือน / แอพฯ ใช้งานด่วน

โทรศัพท์/ข้อความ/คีย์บอร์ด

การเปลี่ยนธีม และวิดเจ็ต

สามารถเปลี่ยนธีมด้วยการเข้าไปที่แอพพลิเคชั่น ธีม ซึ่งเป็นแอพฯ จากโรงงานที่มาพร้อมกับ Zen UI

การทดสอบความเร็ว และการแสดงผลของเครื่อง

ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 38,833 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core 607 และ Multi-Core 2371
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 5 จุด
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3D Marks (Sling Shot Extreme) 303 คะแนน

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor ตรวจวัดความเอียง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หน้าจอ Full View อัตราส่วน 18:9

ถือว่า Asus Zenfone Max Plus (M1) เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกจากทาง Asus ที่มาพร้อมหน้าจอแบบ Full View อัตราส่วน 18:9 ทำให้วิสัยทัศน์ของหน้าจอมีความกว้างขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเครื่องยังมีขนาดจับถนัดมือตามเดิม ส่วนหน้าจอจะมีขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดของหน้าจอ HD+ 1440x720 พิกเซล

ถาดซิมแบบ 3 ใน 1

ในเรื่องการใส่ซิม Asus Zenfone Max Plus (M1) มีการรองรับแบบซิมคู่ แถมถาดใส่ซิมยังเป็นแบบ 3 ใน 1 คือสามารถใส่ 2 ซิม พร้อมกับ Micro SD (รองรับความจุสูงสุด 256GB) ได้ในถาดเดียวกันทั้งหมด

** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **

แบตเตอรี่ขนาด 4130mAh

นอกจากจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4130mAh ที่สามารถใช้งานแบบสแตนด์บายโหมดได้ 26 วัน (แบบ 4G) ยังมีชุดแอพพลิเคชั่นอัจฉริยะในการจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในระยะ รวมไปถึงมั่นใจในด้านความปลอดภัย ด้วยแอพพลิเคชั่น PowerMaster นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยี Fast Charging ด้วยกำลังไฟ 10 วัตต์ โดยจะชาร์จเต็มด้วยเวลาเพียง 3 ชั่วโมง หรือชาร์จเพียง 15 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 3 ชั่วโมง

ชาร์จไฟให้เครื่องอื่น ผ่านสาย OTG

ในตัวกล่องจะมีสาย OTG แถมมาให้ด้วย นั้นหมายความว่า Asus Zenfone Max Plus (M1) จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับโทรศัพท์เครื่องอื่นได้ เนื่องจากมีขนาดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4130mAh จึงสามารถนำไปแบ่งพลังงานให้เครื่องอื่นได้ โดยยังมีแบตเตอรี่เหลือๆ ใช้งานต่อไป

สแกนใบหน้า

ถือว่าคุ้มเอาสุดๆ เพราะ Asus Zenfone Max Plus (M1) จะมาพร้อมเทคโนโลยีปลดล็อกด้วยใบหน้า ในราคาเพียง 6,990 บาท เท่านั้น และด้านการใช้งาน ยังมีความเร็วและแม่นยำพอสมควร แม้ว่าไม่ได้ตั้งใบหน้าให้ตรงก็ยังสามารถปลดล็อกเข้าใช้งานเครื่องได้ตามปกติ

สแกนลายนิ้วมือ

ตัวสแกนลายนิ้วมือ จะอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งทาง Asus เคลมไว้ว่า ใช้เวลาปลดล็อกเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น และพอนำมาใช้จริงๆ ก็มีความรวดเร็วและแม่นยำในการปลดล็อกตามที่ Asus ได้เคลมเอาไว้ และที่สำคัญ สามารถปลดล็อกเข้าใช้งานได้ทันที โดยที่ไม่ต้องกดปุ่มเพาเวอร์เพื่อปลุกเครื่องให้ตื่นก่อน

ทดสอบการเล่นเกม

ในการทดสอบเล่นเกม (ROV) ปรากฏว่าทำเฟรมเรตได้เฉลี่ย 30fps ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ทั้งนี้ Asus Zenfone Max Plus (M1) ยังมาพร้อมระบบเกมโหมด สามารถเร่งความเร็วให้กับตัวเครื่อง และบันทึกวิดีโอพร้อมสตีมสดได้โดยไม่ต้องโหลดแอพพลิเคชั่นเสริมมาใช้

โหมดพิเศษ

ในส่วนนี้จะเป็นโหมดพิเศษ ซึ่งจะมีให้เลือกใช้งาน 2 โหมด อย่างแรกคือโหมดง่าย โดยจะเป็นการปรับเปลี่ยนหน้าตาอินเตอร์เฟสให้มีการใช้งานง่ายขึ้น อย่างที่สองคือโหมดเด็ก ในโหมดนี้จะเป็นการกำหนดการใช้งานต่างๆ ภายในเครื่อง เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมได้ว่า แอพพลิเคชั่นไหนเด็กสามารถใช้ได้ รวมถึงมีการกำหนดเวลาได้ด้วยว่าให้เล่นได้นานเท่าไหร่

ฟิลเตอร์กรองแสงหน้าจอ

เป็นโหมดเพื่อถนอมสายตาของผู้ใช้งาน ซึ่งจะเป็นการลดแสงสีฟ้าในหน้าจอแสดงผล และสามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > ตัวกรองแสงสีฟ้า (กดสองครั้ง)

โหมดใช้งานมือเดียว

ในโหมดนี้จะเป็นการลดขนาดของหน้าจอลง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานเพียงมือเดียว โดยเริ่มการใช้งานได้จากแผงแอพพลิเคชั่นด่วน ทางด้านบน

ประสิทธิภาพกล้องถ่ายรูป

ในส่วนของกล้อง ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นสำคัญของ Asus Zenfone Max Plus (M1) โดยจะมาพร้อมกล้องหลังคู่ ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล (กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล) สามารถถ่ายมุมกว้างได้มากขึ้นถึง 120 องศา และมีระบบ PixelMaster ช่วยให้โฟกัสภาพแบบอัตโนมัติได้แม่นยำเพียง 0.03 วินาที ส่วนกล้องหน้าก็ไม่น้อยหน้า มาด้วยความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เซลฟี่มุมกว้างได้มากขึ้นถึง 140 องศา

แอพฯ SelfieMaster

ในแอพพลิเคชั่นจะมีการใช้งานให้เลือกถึง 5 แบบ โดยจะเป็นการใช้งานบันทึกวิดีโอและถ่ายภาพนิ่ง พร้อมกับใช้ปรับแต่งใบหน้าให้สวยงาม รวมไปถึงนำภาพมาตัดแปะและทำสไลด์โชว์ แต่ไฮไลท์ที่สำคัญจะอยู่ที่ BeautyLive ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถทำการ Live แบบปรับหน้าสวยได้ในเวลาเดียวกัน

โหมดหน้าชัดหลังเบลอ

ยุคนี้เป็นยุคของการถ่ายรูปแบบหน้าชัดหลังเบลออย่างแท้จริง โดย Asus Zenfone Max Plus (M1) สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย

ถ่ายภาพในมุมกว้าง

แถบไม่ต้องเป็นห่วงเลย หากคุณต้องการเก็บรายละเอียดของสิ่งที่จะถ่ายให้ครบทุกองค์ประกอบ เพราะ Asus Zenfone Max Plus (M1) มีกล้องหลังขยายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา พร้อมจะเก็บความรายละเอียดต่างๆ ได้ภายในรูปเดียว ด้านกล้องหน้าก็สามารถถ่ายเซลฟี่ได้พร้อมกันหลายๆ คน เนื่องจากมีมุมกล้องกว้าง 140 องศา

โหมดแต่งสวย

มาต่อกันที่โหมดแต่งสวย ซึ่งมีให้เลือกปรับแต่งใบหน้าถึง 5 แบบ ทั้ง ผิวเนียน, ผิวขาว, ตาโต, แก้มบาง และ แบบอัตโนมัติ สามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

เพิ่มความละเอียดภาพพิเศษสูงสุด 64 ล้านพิกเซล

ในโหมดนี้เป็นการใช้งานประสิทธิภาพของกล้องในระดับสูงพิเศษ ซึ่งจะเพิ่มความละเอียดของกล้องเป็น 64 ล้านพิกเซล ให้ความละเอียดที่มากกว่าปกติ (ใช้ได้เฉพาะกล้องหลัง)

ปรับฟิลเตอร์ได้ถึง 8 แบบ

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหลัง : 9216x6912, 4608x3456, 4608x2592, 3456x3456, 3264x2448, 3264x1840, 3264x1632, 2448x2448, 1920x1080 พิกเซล
ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหน้า : 4608x3456, 4608x2592, 3456x3456, 4608x2304 พิกเซล
แฟลช : ไฟฉาย, ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
ตัวตั้งเวลา : ปิด, 2, 5, 10 วินาที
โหมดภาพบุคคล : ปิด, เปิด
อัตราส่วนภาพถ่าย : 18:9, 16:9, 4:3, 1:1
เลนส์มุมกว้าง : ปกติ, เปิด
โหมดถ่ายรูป : อัตโนมัติ, แต่งสวย, มือโปร, ความละเอียดสูงสุด, GIF แอนนิเมชั่น, พาโนรามา, ไทม์แลปส์
เอฟเฟกต์ : โทนสีเทา, โทนสีอุ่น, ฮิปเตอร์, เรโทร, ไม่มี, ซีดจาง, ภาพเก่า, สีสดใส, แดงชมพู
ประทับเวลา : ปิด, เปิด
ชัตเตอร์สัมผัส : ปิด, ปิด
โหมดโฟกัส : โฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง, ระยะอนันต์
เส้นกริด : ปิด, เปิด
เสียงกล้อง : ปิด, เปิด
บริการระบุตำแหน่งที่ตั้ง : ปิด, เปิด
การป้องกันการกะพริบ : 50, 60Hz
ตั้งค่าแป้นปรับระดับเสียง : ย่อ/ขยาย, ชัตเตอร์
คืนค่าเป็นการตั้งค่าเริ่มต้น