สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 28 ธันวาคม 2560

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ใกล้ผ่านพ้นปี 2017 ไปแล้ว ต้องบอกว่าวงการสมาร์ทโฟนในปีนี้มีเรื่องราวมากมายให้แปลกใจและก็ต้องร้องว้าวอีกเช่นเคย เนื่องจากมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากเมื่อปีที่แล้วดูเหมือนว่าจะตันๆ แล้วสำหรับอุตสาหกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตามปีหน้าเราอาจได้เห็นฟีเจอร์ใหม่ที่เผยโฉมในปีนี้ถูกนำมาใช้งานรวมถึงต่อยอดแน่นอน แต่ไม่ใช่แค่ประเด็นการพัฒนาเท่านั้นเพราะมีไฮไลท์ที่น่าสนใจคือการกลับมาลุยตลาดสมาร์ทโฟนอย่างจริงจังของ Nokia ดังนั้นเราจะมาวิเคราะห์กันว่าในปีนี้ทำการบ้านผ่านหรือไม่ และปีหน้าจะเป็นเช่นใดต่อไป

 

เท้าความกันนิด Nokia เริ่มเดินหมากในวงการสมาร์ทโฟนอย่างไร

เริ่มจากบทความ : [บทวิเคราะห์] ทำการบ้านผ่านไหม? Nokia 6 แอนดรอยด์โฟนรุ่นแรกภายใต้ HMD Global พร้อมสรุปฟีเจอร์เด่น จะเห็นว่าหลังจากเผยโฉมรุ่นแรกของแบรนด์ก็ตามมาด้วยรุ่นอื่นๆ ในงาน MWC 2017 คือ Nokia 3 และ Nokia 5 ก็กลายเป็นว่าทำเอาหลายคนตั้งข้อสงสัยกันไปเลย เพราะโนเกียดันไม่เปิดตัวรุ่นท็อปแต่อย่างใด ซึ่งทั้งสองรุ่นจะเป็นรุ่นกลางกับรุ่นเล็ก

 

แต่ภายใต้ความหวังในการเฝ้ารอรุ่นท็อป HMD Global ได้ประกาศยุทธศาสตร์เพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน นั่นคือนอกจากใช้ระบบเพียวแอนดรอยด์แล้ว เราจะทำการอัปเดตเวอร์ชั่น OS จนกว่าดีไวซ์ไม่รองรับ โดยล่าสุดเองรุ่นน้อง Nokia 3 ก็คอนเฟิร์มแล้วว่ารอกิน Android Oreo ได้เลย อ่านข่าวย้อนหลัง 

ในเดือนเดียวกัน HMD Global ก็ได้ชุปชีวิตโทรศัพท์มือถือในตำนานอย่าง Nokia 3310 ในเวอร์ชั่น 2017 โดยเปลี่ยนทั้งดีไซน์และอัดสเปกให้ทันสมัยตามสไตล์ฟีเจอร์โฟน พร้อมเกมตำนานสุดมันส์ที่ไม่มีใครไม่รู้จักนั่นคือเกมงู (อ่านข่าวเปิดตัว)

 

หลังจากนั้นโนเกียก็ไม่ได้เปิดตัวรุ่นใดๆ เพิ่มเติมเลย เหมือนกับว่ารอตั้งหลักดูทิศทางของตลาดเฉกเช่นเดียวกับการกระจายสินค้าสู่กลุ่มเป้าหมาย ทว่ามีเสียงบ่นมาเล็กน้อยว่าสินค้าวางจำหน่ายช้าตามประเทศต่างๆ เข้าสู่ช่วงกลางเดือน Google ประกาศเปิดตัว Android Oreo อย่างเป็นทางการแบรนด์โนเกียก็ไม่รีรอออกมาคอนเฟิร์มเลยว่าทุกรุ่นสามพี่น้องได้ไปต่อแน่นอน สอดคล้องกับการดูแลลูกค้าตามที่ได้ระบุไว้

ผ่านพ้นครึ่งปีโนเกียก็เดินหน้าเปิดตัวรุ่นใหม่ต่อ แต่คราวนี้เป็นฟีเจอร์โฟนและดูเหมือนว่ามีลุ้นหรือไม่ คงต้องติดตามกันว่าจะนำเหล่ารุ่นเก่าๆ มาดีไซน์ใหม่ โดยเปิดตัวฟีเจอร์โฟน Nokia 105 และ Nokia 130 ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 บาท เข้าสู่ช่วงสิงหาคมทางแบรนด์ได้ฤกษ์เปิดตัวรุ่นท็อปเสียทีทว่าดูเหมือน Nokia 8 ก็ยังมีจุดเด่นต่างๆ ไม่มากนักเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น

 

ผ่านพ้นมาสองเดือน เข้าสู่เดือนตุลาคมทางโนเกียก็ได้เผยโฉมสมาร์ทโฟนสองรุ่น ได้แก่ Nokia 2 และ Nokia 7 โดยเป็นรุ่นประหยัดและรุ่นกลางตามลำดับ ซึ่งรุ่นแรกเคาะราคาขายในบ้านเราอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนอีกหนึ่งรุ่นคาดว่าจะไม่นำเข้ามาวางขาย 

 

จะเห็นว่าในปี 2017 ดูเหมือนว่า Nokia จะเน้นเปิดตัวสมาร์ทโฟนแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อดูทิศทางของตลาดและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การแข่งขันอันดุเดือด หรือพูดง่ายๆ ว่าหากเราได้ลงสนามแข่งใหม่หลังจากร้างเวทีไปนานพร้อมกับทีมใหม่ การดำเนินงานแบบรัดกุมจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ดังนั้นในปีต่อไปบททดสอบที่แท้จริงของโนเกียได้เริ่มขึ้นแล้ว เพราะเคยเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงความคาดหวังย่อมมากขึ้น เนื่องจากในปีนี้อย่างที่เกริ่นข้างต้นไม่มีความว้าวแต่อย่างใด ทว่าประเด็นที่ต้องยกย่อง คือนโยบายดูแลลูกค้าและดูเหมือนไม่กั๊กสเปก เช่น การอัปเดตให้ต่อเนื่อง หรือการที่ใส่ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ในสมาร์ทโฟนระดับกลางราคาไม่ถึง 15,000 บาท ซึ่งไม่มีแบรนด์ใดยัดให้เลย ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งข้อสังเกตว่าโนเกียอาจไม่กั๊กสเปก

บททดสอบสำคัญที่น่าจับตามองของ Nokia ในปี 2018

1. หน้าจอเทรนด์ใหม่ FullView Display : เป็นประเด็นน่าสนใจเลยว่าโนเกียจะสามารถทำได้ดีขนาดไหนในด้านของดีไซน์และคุณภาพ เพราะคงปฏฺิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์ดังกล่าวคืออนาคตของสมาร์ทโฟน ดังนั้นต้องมาลุ้นกันว่ารุ่นแรกของแบรนด์ที่จะใช้อัตราส่วน 18:9 นั้นจะเป็นรุ่นใด โดยตามข่าวดูเหมือนว่าจะเป็น Nokia 6 (2018) ที่เป็นรุ่นแรกและอาจเปิดตัวช่วงเดือนมกราคม 2561

2. จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ : ยังคงต้องค้นหาต่อไปสำหรับจุดเด่นที่เมื่อเห็นแล้วเรารู้เลยว่าเป็นของแบรนด์ Nokia นอกจากโหมดถ่ายภาพและวิดีโอ Bothie อาจไม่ตอบโจทย์ชัดเจนมากนัก ดังนั้นเราก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าในปีหน้าจะเป็นเช่นใด

3. ระบบปัญญาประดิษฐ์ : คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปีนี้เทรนด์ดังกล่าวมาแรงเลยทีเดียวมีหลากหลายแบรนด์ต่างนำมาใช้เป็นจุดขายเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้กับสมาร์ทโฟนของตนเอง และในปีหน้ากระแสก็ยังเติบโตต่อเนื่องทั้งเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ด้วย ทว่าแบรนด์โนเกียจะมีลูกเล่นนี้ด้วยหรือไม่ในปีหน้า เราจึงต้องรอชม

 

4. ระบบกล้อง : เป็นประเด็นที่ทุกแบรนด์ต้องให้ความสำคัญเพราะการถ่ายภาพกับวิดีโอตามสถานที่หรือช่วงโมเมนต์ต่างๆ คือไลฟ์สไตล์ของทุกคนไปแล้วแน่นอนว่าอย่างที่ทราบกันโนเกียได้ร่วมมือกับ Zeiss แบรนด์กล้องชื่อดังที่ทุกคนรู้จักและเคยเป็นพาร์ทเนอร์กับโทรศัพท์มือถือ Nokia ในอดีต

5. รุ่นท็อปสุดของค่าย : ในปีนี้มีแต่รุ่นประหยัดและรุ่นกลาง โดยยังคงไร้เงารุ่นเรือธงของค่าย หากติดตามความเคลื่อนไหวกันจะมีข่าวเกี่ยวกับรุ่น Nokia 9 อยู่เสมอซึ่งกระแสก็ต่างระบุว่าเตรียมเปิดตัวในปีนี้ ทว่าดูเหมือนน่าจะยังไม่มีการเผยโฉม คาดอาจเป็นช่วงต้นปีหน้าในงาน MWC 2018 ดังนั้นเราต้องรอติดตามกันต่อไปว่า Flagship ชองแบรนด์จะเป็นเช่นใด 

ถือว่าเป็นบททดสอบสำคัญเลยในปี 2018 สำหรับ Nokia เพราะปีนี้ดูเหมือนว่าทางแบรนด์ และเหล่าพันธมิตรอาจหยั่งเชิงพร้อมดูทิศทางของตลาดว่าจะเป็นเช่นใด ดังนั้นปีหน้าจึงเป็นข้อสอบหนักหน่วงเพราะแบรนด์ใหญ่แบรนด์เล็กต่างงัดกลยุทธ์มาแข่งขันเต็มที่ และมีพวกเทคโนโลยีกับนวัตกรรมที่ยังดูเหมือนว่าตามหลังแบรนด์อื่นๆ อยู่ แต่ก็ไม่แน่ว่าบางทีอาจมีไพ่เด็ดรอให้เราได้ยลโฉมกันปี 2018

เราลองมาแชร์ความคิดเห็นกันว่าโนเกียจะเป็นเช่นใดหรืออยากให้มีอะไรบ้าง นำรุ่นเก่าแต่เก๋าในอดีตใดมาปรับโฉมอีกหรือไม่ และถ้ามีการ Remake จริง ต้องการรุ่นใดเอ่ย ?

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่