นอกจาก Huawei จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Mate 10 ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วยังมีอีก 2 รุ่น คือ Mate 10 Pro ซึ่งเป็นรุ่นหน้าจอไร้ขอบอัตราส่วน 18:9 และ Mate 10 Porsche Design ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมี่ยมที่มีสเปกสูงกว่ารุ่นปกติ
Huawei Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design มีจอแสดงผล AMOLED ขนาดกว้าง 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ซึ่งทำให้ส่วนของหน้าจอกว้างขึ้นกว่าในรุ่น Mate 10 แต่ก็ต้องย้ายเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปไว้ด้านหลังเครื่องแทน นอกจากนี้ความละเอียดหน้าจอในรุ่น Mate 10 Pro คือ FHD+ 2160x1080 พิกเซล ซึ่งน้อยกว่ารุ่น Mate 9 Pro ของปีที่แล้วที่มีความละเอียด QuadHD 2560x1440 พิกเซล
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ได้มาก็คือหน้าจอดีไซน์ไร้ขอบด้านข้างซึ่ง Huawei เรียกว่า "แทบจะไม่มีขอบด้านข้าง" นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผล HDR10 และครอบคลุมช่วงสี NTSC ได้ถึง 112% เพื่อประสบการณ์รับชมภาพที่ยอดเยี่ยม
การออกแบบตัวเครื่องของ Mate 10 Pro เป็นแบบใช้กระจกนำ (The new all-glass design) ซึ่งเน้นความสมมาตรทุกสัดส่วนยกเว้นบริเวณแถบสะท้อนแสงที่ครอบส่วนโมดูลกล้องหลังเลนส์คู่ Leica รุ่นใหม่ไว้
กล้องหลังคู่ Leica ประกอบด้วยเซ็นเซอร์รับภาพสีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและเซ็นเซอร์รับภาพขาวดำความละเอียด 20 ล้านพิกเซล กล้องหลังคู่มีรูรับแสงกว้าง f/1.6 เพื่อการรับภาพในที่แสงน้อยได้สว่างขึ้นพร้อมระบบกันสั่น OIS และโฟกัสอัตโนมัติ Laser + Phase detection Autofocus
Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design มาพร้อมกับชิปเซ็ต Kirin 970 และตัวเร่งความเร็วการทำงานของ AI ซึ่งสามารถตรวจจับและแยกแยะรายละเอียดของวัตถุในภาพได้แบบรีลไทม์ นอกจากนี้ AI ยังถูกนำมาใช้งานร่วมกับการซูมดิจิตอลและการจับวัตถุที่เคลื่อนไหวด้วย
Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design เป็นรุ่นแรกที่ใช้งานชิปเซ็ตประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72 MP12 ซึ่ง ARM ยืนยันว่าชิปรุ่นนี้มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นเก่าอย่าง G71 ถึง 40% ภายใต้กระบวนการผลิตระดับ 10 นาโนเมตร
Huawei Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design รัน EMUI 8.0 (based on Android 8.0 Oreo) ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน 2 แอพบนหน้าจอพร้อมกันและการเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นเครื่องพีซีเมื่อเชื่อมต่อพอร์ต USB Type-C เข้ากับจอแสดงผลภายนอกผ่าน DisplayPort
Huawei Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design มีแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge ซึ่งได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยจาก TÜV ชาร์จแบตเตอรี่เพียง 20 นาทีก็สามารถใช้งานได้เต็มวัน
Huawei Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP67 (กันน้ำได้ที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในเวลา 30 นาที) ซึ่งเป็นรุ่นแรกในตระกูล Mate series ที่กันน้ำได้ แต่ก็ต้องแลกกับการถอดช่องเสียบพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรออกไป
Huawei Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design มาพร้อม RAM 6GB, รองรับช่องเสียบ microSD card, รองรับการใช้งาน 2 ซิม (hybrid Dual SIM slot)
Huawei Mate 10 Pro มีพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 128GB ส่วนรุ่น Mate 10 Porsche Design มีพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 256GB
ทั้งสองรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในบางประเทศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดย Mate 10 Pro มีราคาเปิดตัวที่ยุโรป €800 (ประมาณ 31,190 บาท) ส่วน Mate 10 Porsche Design มีราคาเปิดตัว €1,400 (ประมาณ 54,580 บาท)
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.gsmarena.com วันที่ : 17 ตุลาคม 2560
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra
ทำความรู้จัก TECNO SPARK 30C หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP54 ลำโพงสเตอริโอ มีชาร์จเร็ว
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!
Redmi ฉลอง 11 ปี ปล่อยโลโก้ใหม่! พร้อมเปิดตัว Redmi K80 เรือธงสเปคจัดเต็ม
iQOO Neo 10 Series สเปคเทพ กล้องสวย ดีไซน์โดนใจ เปิดตัว 29 พฤศจิกายนนี้