สกู๊ปพิเศษ! เอาใจคนชอบหน้าจอใหญ่ Wiko View Series ราคาประหยัด สเปกแจ่ม วางขายในงาน TME 2017

ต้องบอกว่างาน Thailand Mobile Expo 2017 รอบสุดท้ายของปีนี้ มีสมาร์ทโฟนขนทัพมากมายโดยหนึ่งในคือแบรนด์ Wiko ที่ขนขุนพล View Series มาวางจำหน่ายในราคาสบายกระเป๋า ได้แก่ Wiko View, Wiko View XL และ Wiko View Prime ดังนั้นในบทความนี้จึงจะโฟกัสเฉพาะสามรุ่นนี้เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชื่นชอบจอใหญ่เป็นพิเศษ รายละเอียดมีดังนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิวแท็บเล็ตโทรได้ Alldocube iPlay 50 mini ดูคอนเทนต์สตรีมมิ่งคมชัด HD ใส่ได้สองซิมการ์ด สแตนบาย 4G ค้าขาย หรือใช้งาน หรืออ่านเว็บตูน ตอบโจทย์ราคาสบายกระเป๋า
• 
  Circular Ring 2 เปิดตัวแล้ว! สมาร์ทริงสุดล้ำ ติดตามสุขภาพได้แม่นยำ ใช้ได้นานถึง 8 วัน

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

สำหรับจุดเด่นที่เหมือนกันของ Wiko View Series ทั้งสามคือ..

เริ่มจากดีไซน์ที่เรียกว่าถอดแบบกันมาเลย ซึ่งมีขนาดตัวเครื่องที่ไม่แตกต่างกันมากประมาณไม่เกิน 9 มิลลิเมตร บอดี้ทำจากพลาสติกเล่นลวดลายโลหะมีทั้งหมด 4 เฉดสีอาทิ Black, Gold, Deep Bleen, Cherry Red ด้านหลังตัวเครื่องมีปุ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือโดยรองรับการใช้งานสองซิมการ์ดและเครือข่ายความเร็วสูง 4G LTE อัตราดาวน์โหลดสูงสุด 150Mbps ระบบปฏิบัติการขับเคลื่อนด้วยแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1 (Nougat) มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.2, OTG, Micro USB 2.0 และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร กับมีฟังก์ชั่น FM Radio เอาไว้ฟังเพลงตามคลื่นสถานีวิทยุได้ตลอดเวลา

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือขนาดหน้าจอใหญ่เต็มตากันไปเลยกับอัตราส่วน 18:9 แบ่งเป็น 5.7 นิ้ว / 5.99 นิ้ว / 5.7 นิ้ว (Wiko View, Wiko View XL และ Wiko View Prime) ซึ่งทั้งหมดจะใช้หน้าจอประเภท IPS+Full Lamination ครอบทับกระจกขอบโค้ง 2.5D รองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชสูงสุด 5 จุด

อย่างไรก็ตามทุกรุ่นจะมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ ได้แก่ 

App Shortcuts : แอปฯ จะมีเมนูย่อยขึ้นมาเพื่อลดขั้นตอนการเข้าใช้งาน

Smart Left Page : เมื่อปัดซ้ายหน้าจอหลักจะเข้าสู่หน้ารวมคอนเทนต์ที่เราใช้งานบ่อย เช่นเดียวกับแอปฯ ต่างๆ ด้วย

เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่เป็นมากกว่าระบบความปลอดภัย : นอกจากมีไว้สำหรับล็อคเครื่องก็ยังสามารถใช้งานเป็นเข้าใช้งานแอปฯ เมนูได้เร็ว หรือ Quick Start เพียงสแกนนิ้วตามที่ตั้งค่าไว้ ซึ่งยังเอาไว้ล็อคแอปฯ ได้ด้วยเพื่อป้องกันคนอื่นแอบเข้ามาส่องข้อมูล

ระบบกล้อง : มีซอฟต์แวร์ป้องกันภาพสั่นไหวขณะการบันทึกวิดีโอและตรวจจับสภาพแสงอัตโนมัติ เช่น โหมดกลางคืนหรือ HDR รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมแก่การถ่าย Portrait พร้อมเลือกจุดเบลอได้ดั่งใจใน Live Portrait blur หรือปรับเปลี่ยนฟิลเตอร์แบบเรียลไทม์ สุดท้ายคือการปรับแต่งผิว (Face Beauty)

สรุปสเปกทั้งหมดของสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่น

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับทั้งสามรุ่นที่หยิบมาแนะนำกัน ต้องบอกว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว และใครที่เน้นดูภาพยนตร์ เล่นเกม หรืออ่าน E-Book รับรองว่าตอบโจทย์แน่นอน สำหรับในงาน TME 2017 ก็มีโปรโมชั่นจากทางแบรนด์อยู่แล้ว อย่าลืมแวะเวียนไปเดินที่บูธได้ ส่วนรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมรอติดตามได้จากทีมงาน siamphone.com