ซอฟต์แวร์ (Software) | วันที่ : 25 กันยายน 2560
หลังจากที่ผู้ใช้งาน iPhone หลายๆ คนได้ลองทำการอัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการเป็น iOS 11 กันแล้วนั้น ก็คงจะรู้สึกถึงการใช้การใช้งานแบตเตอรี่ที่มากพอสมควรหรืออาจจะมีปัญหาเครื่องร้อนเลยก็เป็นได้ ในวันนี้เราก็มี 10 วิธีง่ายๆ เกี่ยวกับการตั้งค่าให้ยืดระยะการใช้งานไอโฟนให้นานขึ้นไปอีกขั้น ดังนี้
1. เช็คแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานแบตเตอรี่สูงที่สุด
ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบรายการแอพพลิเคชั่นที่ส่งผลในเรื่องของการกินแบตเตอรี่เป็นจำนวนมากได้ โดยการกด ตั้งค่า>แบตเตอรี่ จากนั้นก็จะปรากฏแอพฯ ต่างๆ ที่เรียงลำดับตามการใช้งานที่กินแบตเตอรี่ภายใน 24 ชั่วโมงหรือ 7 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถกดสัญลักษณ์นาฬิการูปเล็กๆ เพื่อให้แสดงเวลาการใช้งานแอพพลิเคชั่นนั้นๆ ได้ด้วยเช่นกัน
2. ปรับความสว่างหน้าจอให้น้อยลง
หนึ่งในเหตุผลหลักๆ ของการเจอปัญหาแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว คือ การใช้เปิดแสงสว่างหน้าจอที่มากเกินไป ดังนั้น เราจึงแนะนำให้ผู้ใช้งานปรับความสว่างจากแผงควบคุม (Control Center)
นอกจากนี้ เราจะเห็นฟีเจอร์การปรับความสว่างอัตโนมัติ ซึ่งก็แนะนำให้เปิดในช่วงที่ใช้งานตอนกลางคืนหรือในที่ที่มีแสงน้อยมากกว่าเปิดไว้ทั้งวัน เนื่องจากการเปิดฟีเจอร์นี้ อาจจะทำให้หน้าจอมีความสว่างเกือบสูงสุด ส่งผลให้เกิดการกินแบตเตอรี่ไปอย่างรวดเร็ว โดยสามารถปรับหรือตั้งค่าต่างๆ ได้ด้วยการไปที่ ตั้งค่า>ทั่วไป>การช่วยการเข้าถึง>การช่วยเหลือจอแสดงผล
3. ปรับความสว่างไฟฉายให้น้อยลง
ในข้อนี้ จะเหมือนกับการปรับความสว่างหน้าจอ ซึ่งใน iOS 11 นั้น ระดับความสว่างไฟฉายจะมีอยู่ 4 ระดับ และหากคุณชอบใช้ไฟฉายบนไอโฟนมากกว่าไฟฉายปกติ เราก็แนะนำให้ปรับระดับความสว่างลงมานิดหน่อยเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้นนั่นเอง โดยวิธีการทำ คือ ให้ไปที่ แผงควบคุม (Control Center) หรือกดปุ่มไฟฉาย และปรับระดับความสว่างได้ทันที
4. ใช้โหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode)
โหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode) ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่กลับมีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งจะช่วยลดหรือปิดการใช้งานในต่างๆ ของระบบที่ไม่จำเป็น ดังนี้
ทั้งนี้ เมื่อไอโฟนมีแบตเตอรี่ลดเหลือ 20% ก็จะมีการขึ้นแจ้งเตือนให้คุณเปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ อย่างไรก็ตาม เราก็สามารถกดเปิดโหมดนี้ได้เอง ด้วยการไปที่ ตั้งค่า>แบตเตอรี่
5. ลาก่อน "สวัสดี Siri"
มีการถกเถียงกันอยู่บ้างสำหรับเรื่องการเปิดใช้งานระบบการฟัง "สวัสดี Siri" ว่ามีการใช้งานแบตเตอรี่ไปมากเท่าไหร่ ซึ่งผู้ใช้งานหลายๆ คนก็ทำการปิดไปเนื่องจากปัญหาความเป็นส่วนตัว เพราะเมื่อไอโฟนของคุณเปิดฟีเจอร์นี้ ระบบก็จะใช้พลังงานในการฟังเสียงตลอดเวลา โดยผู้ใช้งานสามารถทำการปิดได้โดยไปที่ ตั้งค่า>Siri และการค้นหา และกดปุ่มปิด ฟัง"สวัสดี Siri"
6. จำนวนการทำงานแอพพลิเคชั่นเบื้องหลังและการดาวน์โหลดอัตโนมัติ
เมื่อคุณเปิดทำการฟีเจอร์นี้ บางแอพฯ อาจทำการรีเฟรชตัวเองแม้คุณจะไม่ได้ใช้งานก็ตาม ดังนั้น คุณก็จะสะดวกในการไม่จำเป็นต้องมาดึงลงเพื่อทำการรีเฟรชเอง อย่างไรก็ตาม ก็ต้องแลกมาด้วยการกินแบตเตอรี่ไปบางส่วน และหากใครที่ต้องการปิดฟีเจอร์นี้ ก็ให้ไปที่ ตั้งค่า>ทั่วไป>เบื้องหลัง และกดปิดแอพพลิเคชั่นเบื้องหลัง หรือเลือกแอพฯ แบบเฉพาะได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังสามารถปิดดาวน์โหลดการอัพเดตแอพฯ อัตโนมัติจาก App Store ได้โดยการไปที่ ตั้งค่า>iTunes & App Store และกดปิดการอัพเดตอัตโนมัติ
7. ปิดการใช้งานเอฟเฟ็คบางส่วน
ขั้นแรกให้ผู้ใช้งานไปที่ ตั้งค่า>ทั่วไป>การเข้าถึง>ลดการเคลื่อนไหว และกดเปิด "ลดการเคลื่อนไหว" ต่อมาให้ผู้ใช้งานกลับมาที่หน้า "การเข้าถึง" กดหัวข้อที่อยู่เหนือ Reduce Motion นั่นคือ "เพิ่มความต่างระดับสี" และกดเปิด "ลบความโปร่งใส"
8. ลดระยะเวลาในการปิดหน้าจออัตโนมัติ
ในข้อ 2. เราได้บอกไปว่าหน้าจอคือส่วนหนึ่งของการกินแบตเตอรี่สูง ดังนั้น เพื่อให้หน้าจอไอโฟนของคุณใช้งานน้อยที่สุด นั่นก็คือการปรับระยะการล็อคหน้าจออัตโนมัติหลังไม่มีการใช้งานใดๆ ซึ่งเราสามารถปรับได้ต่ำสุดที่ 30 วินาที โดยสามารถตั้งค่าได้ที่ ตั้งค่า>หน้าจอและความสว่าง>ตั้งล็อคโดยอัตโนมัติ
9. ตรวจสอบว่าแอพฯ ไหนใช้ตำแหน่งของเราอยู่
บน iOS 11 ทาง Apple ได้ให้ผู้งานสามารถปรับแอพฯ ที่เข้าถึงตำแหน่งของผู้ใช้งานได้มากขึ้น โดยมีตัวเลือกที่เพิ่มมาอีก 1 อย่าง คือ "ในระหว่างใช้งานแอพ" โดยคุณสามารถเข้าไปเลือกดได้โดยกด ตั้งค่า>ความเป็นส่วนตัว>บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง เพื่อปรับตำแหน่งสำหรับแอพฯ ต่างๆ
10. จำกัดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น
อาจจะมีการแจ้งเตือนจำนวนมากที่รบกวนคุณพร้อมกับการกินแบตเตอรี่ไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้ไอโฟนของคุณต้องทำงานตลอดเวลา ดังนั้น ให้คุณเข้าไปที่ ตั้งค่า>การแจ้งเตือน และให้ทำการเลือกแอพฯ ที่ต้องการเปิดการแจ้งเตือน และปิดอันที่ไม่จำเป็นไป ส่วนตัวเลือกด้านบนอย่าง "แสดงตัวอย่าง" ก็ให้เลือกเป็น "เมื่อไม่ได้ล็อค"
และนี่ก็เป็น 10 วิธีง่ายๆ ที่หวังว่าจะช่วยให้ผู้ใช้งานที่ทำการอัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 11 ได้ยืดระยะการใช้งานระหว่างวันได้นานขึ้น โดยก็คงต้องรอทาง Apple ออกมาอัพเดตการปรับแก้เฟิร์มแวร์อีกครั้งในเร็วๆ นี้
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.cnet.com วันที่ : 25 กันยายน 2560
ฉลองสงกรานต์กับ CASETiFY สาดสีสันความสนุก แบบไร้กังวล! โปรแรงลดสูงสุด 20%
ลือ! iPad mini รุ่นถัดไป เตรียมอัปเกรดหน้าจอเป็น OLED ในปี 2026
Mark Gurman เผย Apple ยุติแผนพัฒนา iPhone รุ่น mini อย่างถาวร
ลือ! iPhone 17 อาจเป็นรุ่นแรกที่รองรับวิดีโอ 8K หลัง Android ทำได้นานแล้ว
ภาพหลุดล่าสุด! เปรียบเทียบความบาง iPhone 17 Air กับ iPhone 17 Pro บางเฉียบจนน่าตกใจ
สรุปฟีเจอร์ใหม่น่าใช้ใน iOS 19 พร้อมรายชื่อ iPhone ที่คาดว่าจะได้รับการอัปเดต
realme Narzo 80 Pro 5G สมาร์ทโฟนชิปเซ็ต Dimensity 7400 จอสว่างวาบ 4500nits
แบตอึดสะใจ! vivo T4 5G ยืนยันแบตเตอรี่ 7300mAh พร้อมชาร์จเร็ว 90W
ทำความรู้จัก POCO M7 Pro 5G หน้าจอ 120Hz รองรับ HDR10+ กล้องหลัง 50MP พร้อม RAM 24GB
HP เปิดตัวแล็ปท็อปเกมมิ่ง OMEN 16 Slim พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5070!
Samsung จดสิทธิบัตรนวัตกรรมจอพับ 360 องศา พับได้ทั้งด้านในและด้านนอก
หลุดสเปค OnePlus 13s Snapdragon 8 Series, กล้อง 3 ตัว, ชาร์จไร้สาย 50W
Moto pad 60 PRO หน้าจอ 12.7 นิ้ว คมชัด 3K 144Hz พร้อมลำโพง JBL 4 ตัว21 ชั่วโมงที่แล้ว