Apple ได้เปิดตัว Apple Watch Series 3 ที่เพิ่มระบบเซลลูลาร์ในตัวลงสู่นาฬิกาอันดับหนึ่งของโลก ไม่ว่าผู้ใช้จะออกไปวิ่ง ว่ายน้ำ หรือเพียงแค่พยายามเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน Apple Watch Series 3 ที่มีระบบเซลลูลาร์ก็จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถต่อติด โทรออก รับข้อความ และทำสิ่งอื่นๆ อีกมากมายได้ แม้ไม่มี iPhone อยู่ใกล้ตัว ซึ่ง Apple Watch รุ่นที่ 3 เป็นคู่หูด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติการฝึกสอนอัจฉริยะ ความสามารถในการทนน้ำที่ 50 เมตร และเครื่องวัดระดับความสูงสัมพัทธ์จากความกดอากาศ โดย Apple Watch Series 3 มีสองรุ่นด้วยกัน มีรุ่นแรกที่มาพร้อม GPS และระบบเซลลูลาร์ และอีกรุ่นหนึ่งที่มาพร้อม GPS เพียงอย่างเดียว ซึ่งทั้งสองรุ่นนั้นมีโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ที่เร็วขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์และชิพไร้สายใหม่
“เราเชื่อว่าการเพิ่มระบบเซลลูลาร์จะเปลี่ยนโฉมวิธีการใช้งาน Apple Watch ของผู้คน โดยมอบอิสระรูปแบบใหม่ที่ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับต่อติดกับทุกสิ่งได้ไม่ว่าจะมี iPhone ติดตัวหรือไม่ก็ตาม” Jeff Williams ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Apple กล่าว “การผนึกกำลังกันของ Apple Watch Series 3 กับ watchOS 4 ทำให้อุปกรณ์นี้ลงตัวที่สุดสำหรับวิถีชีวิตคนรักสุขภาพ”
ในเร็วๆ นี้ ด้วยระบบเซลลูลาร์และ watchOS 4 จะทำให้ผู้ใช้ Apple Music สามารถสตรีมเพลง 40 ล้านเพลงโดยตรงจากข้อมือได้ โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 กันยายน เป็นต้นไป Apple Watch Series 3 (GPS + เซลลูลาร์) จะเปิดให้สั่งซื้อใน 10 ประเทศและภูมิภาค และ Apple Watch Series 3 (GPS) จะเปิดให้สั่งซื้อใน 28 ประเทศและภูมิภาค และทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายในร้านค้าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 กันยายน เป็นต้นไป
เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
Apple Watch Series 3 (GPS + เซลลูลาร์) มาพร้อมระบบวิทยุเซลลูลาร์ LTE และ UMTS เต็มรูปแบบ โดยจะสลับไปใช้ระบบเซลลูลาร์อย่างราบรื่นเมื่ออยู่ห่างจาก iPhone ซึ่งนาฬิกาจะใช้หมายเลขเดียวกับ iPhone ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องบอกหมายเลขเพิ่มเติมกับครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่เข้าร่วมรายการยังมีแผนบริการข้อมูลเซลลูลาร์เบื้องต้นพิเศษในช่วงเปิดตัวอีกด้วย เพื่อช่วยให้ลูกค้าเริ่มต้นใช้งานได้ ลูกค้าจะสามารถโทรออกผ่านระบบเซลลูลาร์ได้โดยตรงด้วย Apple Watch Series 3 (GPS + เซลลูลาร์) และยังสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ไร้สายเต็มรูปแบบที่ไม่สะดุดได้เมื่อใช้ร่วมกับ AirPods ทั้งนี้ Apple ยังบุกเบิกดีไซน์เสาอากาศแรกของอุตสาหกรรมที่ใช้จอภาพเป็นตัวรับส่งสัญญาณ LTE และ UMTS ในขณะเดียวกันก็เปิดตัว eSIM ในตัวที่มีขนาดเล็กกว่าซิมการ์ดปกติถึงหนึ่งในร้อย ทำให้การเปิดใช้งานผ่านระบบไร้สายเป็นไปได้โดยใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อย
หัวใจหลักของ Apple Watch Series 3 ก็คือ S3 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมรุ่นที่ 3 ของ Apple ที่มีโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ที่เร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้สามารถเปิดแอพได้เร็วขึ้นและมีกราฟิกลื่นไหลยิ่งขึ้น และยังทำให้ Siri สามารถพูดด้วยลำโพงในตัวได้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ Apple ได้ออกแบบชิพไร้สายใหม่โดยเฉพาะที่เรียกว่า W2 ซึ่งทำให้ Wi-Fi เร็วขึ้น 85 เปอร์เซ็นต์ และทำให้ Bluetooth และ Wi-Fi ประหยัดพลังงานขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ยังคงมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ตลอดทั้งวันและมีขนาดเท่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้น Apple Watch Series 3 ยังมีเครื่องวัดระดับความสูงจากความกดอากาศอีกด้วย ซึ่งช่วยในเรื่องของการติดตามกิจกรรม จำนวนขั้นบันใดที่ขึ้น และการออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของระดับความสูง
watchOS 4
watchOS 4 มีแอพอัตราการเต้นของหัวใจที่ได้รับการอัพเดทใหม่ ซึ่งให้ข้อมูลที่ละเอียดขึ้นเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แก่ การวัดระหว่างการพัก การออกกำลังกาย การฟื้นตัว การเดิน และขณะใช้แอพหายใจ นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกที่จะรับการแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่าเกณฑ์ที่ระบุในขณะที่ไม่ได้ใช้งานได้เช่นกัน ส่วนคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมอื่นๆ ของ watchOS 4 ประกอบด้วยหน้าปัดนาฬิกา Siri ที่จะแสดงข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุดตลอดทั้งวัน แอพออกกำลังกายที่ได้รับการปรับปรุงด้วยอินเตอร์เฟซใหม่ ประเภทการออกกำลังแบบเข้มข้นสลับช้าเร็ว (HIIT) แบบกำหนดเอง และการนับเซ็ตโดยอัตโนมัติสำหรับการว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ และด้วย GymKit ในเร็วๆ นี้ ผู้ใช้ก็จะได้ลองใช้ความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์คาร์ดิโอเครื่องโปรดของพวกเขา และสัมผัสกับการซิงโครไนซ์ข้อมูลแบบสองทางด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ซึ่งส่งผลให้มีข้อมูลแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แอพ Music ที่ออกแบบใหม่จะซิงค์เพลย์ลิสต์ เช่น เพลงใหม่ล่าสุด และเพลงโปรดโดยอัตโนมัติ พร้อมกับเพลงที่ผู้ใช้ฟังบ่อยที่สุด เร็วๆ นี้ Apple Watch Series 3 (GPS + เซลลูลาร์) จะสามารถสตรีมเพลงได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทุกเพลงจาก Apple Music โดยตรงจากข้อมือได้ ทั้งนี้แอพ Radio ใหม่ยังเปิดให้ผู้ฟังฟัง Beats 1 แบบสดๆ หรือสถานีวิทยุ Apple Music ใดๆ ก็ได้ แม้จะไม่มี iPhone หรือ Wi-Fi
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple Watch
Apple Watch Series 3 (GPS) มีราคาเริ่มต้นที่ 11,900 บาท มีการอัพเกรดใหม่ๆ อย่างเช่นโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core และชิพไร้สายที่เร็วขึ้น รวมทั้งเครื่องวัดระดับความสูงจากความกดอากาศ นอกจากนี้ Apple Watch Series 3 (GPS + เซลลูลาร์) ยังเปิดตัวพร้อมกับ Digital Crown สีแดงสุดพิเศษ และหน้าปัดนาฬิกา “Explorer” ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษซึ่งแสดงการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์ผ่านดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร ส่วน Series 1 จะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นใหม่ที่ 8,900 บาท ซึ่งเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าที่เคย
นอกเหนือจากตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์แล้ว Apple Watch Series 3 จะวางจำหน่ายพร้อมตัวเรือนอะลูมิเนียมสีทองอันหรูหรา พร้อมกับตัวเรือนสแตนเลสสตีลสีเงินหรือสีดำสเปซแบล็ค ซึ่งล้วนเข้ากันได้ดีกับสีสันและสไตล์ใหม่ๆ ของสาย นอกจากนี้สายแบบ Woven Nylon ยังได้รับการอัพเดตด้วยลวดลายใหม่ และสายแบบ Sport Loop ที่เบาอย่างน่าทึ่งก็สามารถปรับให้พอดีกับข้อมือได้ง่ายดายเพื่อให้สวมใส่สบายไร้ที่ติ ส่วน Apple Watch Edition ก็มีตัวเรือนเซรามิคสีเทาเข้มอันสวยงามที่เข้ากันได้ดีกับสายแบบ Sport Band สีทูโทนใหม่
Apple Watch Nike+ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และภายในปีนี้ ความร่วมมือยังนี้คงดำเนินต่อไปด้วยการเปิดตัวของ Series 3 ทั้งสองรุ่นที่มาคู่กับสาย Nike Sport Band หรือสายแบบ Sport Loop สี Pure Platinum/Black ในสีสันสุดพิเศษ แอพ Nike Run Club ได้รับการอัพเดตด้วยคุณสมบัติใหม่อันน่าตื่นเต้น ได้แก่ Audio Guided Run ที่จะให้การฝึกสอนระดับโลกและคำกระตุ้นแรงจูงใจจากโค้ช นักกีฬา และนักแสดงชั้นนำจาก Nike ในขณะเดียวกันคุณสมบัติ Cheer ก็จะช่วยให้การวิ่งของคุณสนุกยิ่งขึ้น โดยทำให้เพื่อนๆ ของคุณสามารถส่งกำลังใจด้วยเสียงมากระตุ้นคุณในขณะที่วิ่ง ในขณะที่ Just Do It Sunday ยังคงให้แรงบันดาลใจและรางวัลจากการมีส่วนร่วมในชุมชนนักวิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกต่อไป ส่วน Apple Watch Hermès นั้นก็มาพร้อมกับระบบเซลลูลาร์ในตัวและยังมาคู่กับคอลเลกชั่นสายแบบใหม่ที่สวยสะดุดตา ได้แก่ สายแบบ Single Tour Rallye ในหนังวัวอ่อนกาล่าเจาะรู ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากถุงมือขับรถสุดคลาสสิกของ Hermès และสายแบบ Single Tour Eperon d’Or ในหนังวัวอ่อนกาล่าพิมพ์ลาย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายผ้่าพันคอนักขี่ม้าที่ออกแบบโดย Henri d’Origny ในปี 1974 และหน้าปัดนาฬิกาแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกา Carrick Hermès ซึ่งออกแบบโดย Henri d’Origny เช่นเดียวกันในปี 1993 จะช่วยเติมเต็มตัวเลือกหน้าปัดนาฬิกา Hermès
ราคาและการวางจำหน่าย
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.apple.com วันที่ : 13 กันยายน 2560
รีวิว OPPO Enco Air4 สัมผัสเสียงที่ชัดเจนและไร้สิ่งรบกวน พร้อมฟีเจอร์ ANC
Belkin BoostCharge Pro แท่นชาร์จไร้สายแบบ 2-in-1 สาวก Apple ต้องมีติดไว้
รีวิว Apple Watch 10 เลือกแกร่งแบบไทเทเนียมได้ เครื่องบางขึ้น หน้าจอ OLED มุมมองกว้าง มองมุมไหนก็ชัด
รีวิว PICO 4 Ultra มาท่องโลกใหม่ที่คุณไม่เคยสัมผัส ผสมผสาน VR และ MR เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์
รีวิว Tronsmart Sounfii Q20 หูฟังบลูทูธ โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) คุณภาพเสียงเกินราคา
พรีวิว Apple Watch Ultra 2 สีใหม่ไทเทเนียมดำ เพิ่มความดุดันเต็มอัตรา!
iQOO Neo 10 Series สเปคเทพ กล้องสวย ดีไซน์โดนใจ เปิดตัว 29 พฤศจิกายนนี้
LAVA Yuva 4 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ราคาประหยัด สเปคคุ้มค่าเกินราคา
ลือ! iPhone 17 และ iPhone 17 Air ยังไม่มีซูม Optical 5x ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะรุ่น Pro
สรุปจุดเด่นและสเปค OPPO Pad 3 Pro หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ลำโพง 8 ตัว แบตฯ 9510mAh
ทำความรู้จัก TECNO SPARK 30C หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP54 ลำโพงสเตอริโอ มีชาร์จเร็ว