Microsoft สานต่อพันธกิจการเสริมศักยภาพธุรกิจในการปฏิรูปการทำงานสู่ยุคดิจิทัลด้วยการประกาศเปิดตัว SQL Server 2017 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของโซลูชั่นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำของโลก นอกจากประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่เหนือกว่าคู่แข่ง และคุณสมบัติขั้นสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว SQL Server 2017 ยังเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลรุ่นแรกของไมโครซอฟท์ที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการลินุกซ์และด็อกเกอร์ ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มวินโดวส์ จึงทำให้ลูกค้าสามารถดึงศักยภาพของ SQL Server ออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่บนแพลตฟอร์มใดก็ได้
Charn Ariyakul “เป้าหมายของไมโครซอฟท์คือการหนุนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในยุคของการปฏิรูปธุรกิจสู่โลกดิจิทัล และนวัตกรรม Internet of Things ด้วยเทคโนโลยี บิ๊ก ดาต้า คลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรค้นพบข้อมูลหรือมุมมองใหม่ๆ ที่อาจนำไปสู่วิถีทางการทำงานที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ การตัดสินใจที่รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยมุมมองและความเข้าใจใหม่ๆ ที่ทุกคนเข้าถึงได้ หรือแม้แต่การลดต้นทุนผ่านทางระบบประเมินความต้องการสินค้าล่วงหน้า เป็นต้น” คุณชาญ อาริยะกุล ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจคลาวด์และโซลูชั่นสำหรับองค์กร บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“ไม่ว่าจะเป็นระบบข้อมูลแบบ on-premises หรือบนคลาวด์ เราเข้าใจดีว่าลูกค้าทุกรายต่างให้ความสนใจในโซลูชั่นที่รองรับแพลตฟอร์มได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ตรงกับระบบข้อมูลที่แตกต่างกันไปของแต่ละราย ด้วยเหตุนี้เอง ไมโครซอฟท์จึงได้พัฒนา SQL Server 2017 ให้รองรับทั้งวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ และแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สต่างๆ ทั้ง Red Hat Enterprise Linux, SUSE Enterprise Linux Server, Ubuntu และด็อกเกอร์ คอนเทนเนอร์ บนลินุกซ์และแมค”
นอกจากนี้ SQL Server 2017 ในรุ่น Community Technical Preview ที่สามารถดาวน์โหลดไปทดลองใช้งานได้แล้วนั้น ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่อันชาญฉลาด ด้วยการผสานนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบฐานข้อมูล ระบบจัดเก็บข้อมูลดิบ (data lake) และระบบคลาวด์ จึงถือได้ว่าเป็นระบบบริหารจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (RDBMS) รายแรกที่มี AI ในตัว ส่วนบริการใหม่อย่าง Microsoft Machine Learning Services ก็ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลสามารถทำงานกับสคริปต์ภาษาไพธอนและ R ได้ด้วยตนเอง ทั้งยังรองรับการใช้หน่วยประมวลผลกราฟฟิกของ NVIDIA ในการทำงานเชิงวิเคราะห์และเรียนรู้ขั้นสูง ทั้งกับข้อมูลในรูปแบบภาพ ข้อความ และข้อมูลที่ไร้โครงสร้าง
“ผลสำรวจของ McKinsey & Company เผยว่าธุรกิจที่ใช้งานระบบวิเคราะห์ข้อมูลกันอย่างกว้างขวางภายในองค์กร จะมีโอกาสทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งถึงสองเท่าตัว ทั้งในด้านยอดขาย ผลกำไร การเติบโต และผลตอบแทนจากการลงทุน” คุณชาญกล่าวเสริม “SQL Server 2017 จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น การผนึกเอาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ SQL Server ส่งผลให้แพลตฟอร์มข้อมูลของเรามีความปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงด้านการรั่วไหลของข้อมูล และลดความซับซ้อนในเชิงกฎหมายลง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลไปยังระบบวิเคราะห์อีกต่อไป”
SQL Server รุ่นล่าสุดนี้ เป็นระบบบริหารจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แพลตฟอร์มแรกที่รองรับข้อมูลแบบกราฟ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลแบบไร้โครงสร้างมาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์และมุมมองใหม่ๆ อันเป็นประโยชน์ได้ นอกจากนี้ SQL Server 2017 ยังมีตัวเชือมต่อ (connector) ที่ครบครันและทันสมัย ใช้งานได้กับแหล่งข้อมูลจำนวนมาก เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในหน่วยความจำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ส่วนในด้านประสิทธิภาพ SQL Server 2017 ยังพัฒนาต่อยอดความเป็นผู้นำเชิงสมรรถนะด้วยการประมวลผลข้อมูลแบบ row-based in-memory OLTP และการบีบอัดข้อมูลแบบ ColumnStore ซึ่งทำให้ระบบสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ส่วนในด้านระบบคลังข้อมูลนั้น SQL Server 2017 ยังเป็นผู้นำด้านความคุ้มค่า ด้วยสมรรถนะและราคาที่โดดเด่นที่สุดจากการทดสอบประมวลผลข้อมูล TPC-H 1TB, 10TB และ 30TB แบบ non-clustered
SQL Server 2017 ได้รับเลือกให้เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงสุดโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) สหรัฐอเมริกา จึงพร้อมปกป้องข้อมูลของคุณในทุกขณะด้วยคุณสมบัติ Always Encrypted ที่เข้ารหัสข้อมูลในทุกขั้นตอนภายในแอพพลิเคชัน โดยไม่เปิดเผยกุญแจรหัสให้ระบบฐานข้อมูลนำไปใช้งาน ส่วนฟังก์ชันอย่าง Dynamic Data Masking และ Row-Level Security ก็ปกป้องข้อมูลของคุณด้วยการรักษาสิทธิ์การเข้าถึงสำหรับผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น
การรองรับระบบปฏิบัติการลินุกซ์ของ SQL Server 2017 ยังรวมถึงโครงสร้างระบบ HA (High Availability) ที่มีความยืดหยุ่นสูงขึ้น เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถวางระบบ Always On ที่ผสมผสานเซิร์ฟเวอร์ลินุกซ์และวินโดวส์ไว้ด้วยกัน พร้อมทำงานทดแทนกันเพื่อให้แพลตฟอร์มข้อมูลพร้อมใช้งานอยู่เสมอ แม้ในกรณีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยมีระบบสำรองที่พร้อมทำงานตั้งแต่ระดับระบบปฏิบัติการ ส่วนในด้านความปลอดภัย SQL Server บนลินุกซ์ ก็มีคุณสมบัติครบครัน ทั้งยังมอบทั้งความปลอดภัยมาตรฐานระดับองค์กร พร้อมด้วยสมรรถนะและความคุ้มค่าสูงสุดเช่นเดียวกับบนวินโดวส์
ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.microsoft.com/en-us/sql-server หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 02 263 6888
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.microsoft.com วันที่ : 30 พฤษภาคม 2560
พลิกโฉมการทำงานด้วย AI Copilot บน Microsoft 365 Personal และ Family
Microsoft พลิกโฉม Paint และ Notepad ด้วย AI สร้างสรรค์และปรับแต่งได้ดั่งใจ
ใช้ชีวิตสมาร์ทๆ กับ Xiaomi 14T และ Xiaomi 14T Pro สมาร์ทโฟนที่คุณต้องมี!!
Caviar ปล่อย HUAWEI Mate XT Ultimate รุ่นพิเศษ ตัวเครื่องทองคำ 18K น้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัม ราคาทะ...
HONOR Pad V9 แท็บเล็ตจอ 11.5 นิ้ว รีเฟรช 144Hz ชิปเซ็ต Dimensity 8350
OPPO A5 Pro เน้นทนทาน IP69 จอ AMOLED 120Hz และชิปเซ็ต Dimensity 7300
5 อันดับสมาร์ทโฟนยอดนิยม มีคนดูมากที่สุดบนเว็บไซต์ Siamphone.com ในปี 2024
iQOO Z9 Turbo เวอร์ชั่นแบตฯ ความจุสูง 6400mAh ขุมพลัง Snapdragon 8s Gen 3 เตรียมเปิดตัวมกราคมนี้
รีวิว iQOO 13 5G สมาร์ทโฟนตัวแรง ดีไซน์สวย ที่มาพร้อมลูกเล่นไฟ Monster Halo