NEWS

OPPO เปิดตัว R9s และ R9s Plus ชูจุดเด่นกล้องหน้ากล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อม VOOC Rapid Charging

สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 20 ตุลาคม 2559

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

แชร์

ก็เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว R9s และ R9s Plus สองสมาร์ทโฟนรุ่นสานต่อความสำเร็จในซีรีย์ R9 ของ OPPO โดยยังคงเน้นจุดเด่นด้านกล้องเช่นเคย ซึ่งมาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซลที่ด้านหน้าและด้านหลัง รายละเอียดเพิ่มเติมมีดังต่อไปนี้

ด้านดีไซน์

ทั้งสองรุ่นยังคงมีดีไซน์ที่ไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ เส้นรับสัญญาณที่ด้านหลังตัวเครื่องจะมีความเรียบเนียนกับตัวเครื่อง แต่จะแยกออกกันเป็น 3 เส้น ซึ่งมีเฉดสีเดียวกันทำให้มองดูสะอาดตาและออปโป้ยังเคลมอีกว่าจะรับสัญญาณ Wi-Fi ได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมส่วนปุ่มโฮมก็ยังทำหน้าที่สแกนลายนิ้วมือเช่นเคย

ด้านหน้าจอและขนาดตัวเครื่อง

OPPO R9s : ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว มีความละเอียด FullHD (1080p) ครอบทับกระจก Gorilla Glass 5 แบบ 2.5D โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 153 x 74.3 x 6.58 มิลลิเมตร นํ้าหนัก 145 กรัม

OPPO R9s Plus หน้าจอจะใหญ่ขึ้นเป็น 6 นิ้ว กับความละเอียด FullHD ประเภทหน้าจอ AMOLED ครอบทับกระจก Gorilla Glass 5 แบบ 2.5D จะมีขนาดตัวเครื่อง 163.63 x 80.8 x 7.35 มม. นํ้าหนัก 185 กรัม

ด้านสเปกของทั้งสองรุ่นเป็นอย่างไร

	OPPO R9s	OPPO R9s Plus
ระบบปฏิบัติการ	Color OS 3.0 พื้นฐานแอนดรอยด์ 6.0.1	Color OS 3.0 พื้นฐานแอนดรอยด์ 6.0.1
หน่วยประมวลผล	Qualcomm Snapdragon 625	Qualcomm Snapdragon 653
GPU	Adreno 506	Adreno 510
RAM	4GB	6GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM)	64GB	64GB
MicroSD Card	รองรับสูงสุด 128GB	รองรับสูงสุด 128GB
แบตเตอรี่	3,010 mAh พร้อมคุณสมบัติ VOOC fast charge	4,000 mAh พร้อมคุณสมบัติ VOOC fast charge

ด้านกล้องดิจิตอล

สำหรับคู่หูจะมาพร้อมกล้องหน้าหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลมีเซ็นเซอร์ Sony IMX398 ในการประมวลผลภาพ โดยมี dual-focus เคลมว่าสามารถจับโฟกัสได้เร็วกว่าระบบ PDAF ถึง 40% โดยในส่วนด้านหลังจะมีรูรับแสงกว้างถึง f/1.7 ด้านหน้ารูรับแสง f/2.0 และสามารถบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K

ทั้งนี้ OPPO R9s Plus ก็จะเพิ่มระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่กล้องหลัง (OIS) กับไฟแฟลชคู่ ขณะที่รุ่นน้อง R9s ก็จะมีในส่วนของซอฟต์แวร์ (EIS) แทน

ด้านเฉดสีและราคาวางจำหน่าย

ทั้งสองมีเฉดสี ได้แก่ สีทอง, สีโรสโกลด์ และสีดำ โดยรุ่นเล็กจะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 28 ตุลาคม ซึ่งอีกหนึ่งรุ่นจะมีให้จับจองเดือนธันวาคมในประเทศจีนก่อนเป็นที่แรก