รีวิว Moto Z ดีไซน์ที่บางเบากับรูปทรงเอกลักษณ์ มีสเปกอัดแน่นและแอนดรอยด์ที่ไหลลื่น พร้อมเพิ่มสีสันการใช้งานด้วย Moto Mods

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Moto Z - โมโต

Moto Z รุ่น Flagship ของแบรนด์ในปีนี้ ที่การออกแบบในทุกรายละเอียด ยังคงคอนเซ็ปต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโมโตไว้ ส่วนวัสดุตัวเครื่องก็มีความแข็งแรงทนทาน ด้วยการใช้อลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในการผลิตอากาศยานและสแตนเลส พร้อมเคลือบสารกันนํ้า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เช่น นํ้ากระเด็นหรือว่าฝนตก (ไม่สามารถใช้งานใต้นํ้าได้) ขณะที่ระบบหน่วยประมวลผลจัดเต็ม อาทิ Snapdragon 820 + RAM 4GB, แอนดรอยด์ 6.0 ที่มีปรับแต่งเล็กน้อย รวมถึงมีระบบการเชื่อมต่อที่ครบครัน ถึ่งแม้ว่ารุ่นนี้จะไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร มาให้ แต่ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์แปลงจาก USB Type-C เป็นพอร์ต 3.5 มาให้ทดแทน

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Moto Z มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ที่ไม่เหมือนใคร และต้องบอกว่ารูปลักษณ์นั้นมีความบาง รวมถึงนํ้าหนักเบา แต่สิ่งที่อาจไม่เข้ากับดีไซน์ที่เพรียวบางนั่นคือโมดูลกล้องที่ยื่นนูนออกมาจากตัวเครื่องด้านหลัง ถ้าไม่ใส่ฝาหลังที่เป็น Moto Mods ตัวโมดูลกล้องอาจเสียหายได้ ทั้งนี้ภายในกล่องจะให้มาหนึ่งชิ้น

ขนาดตัวเครื่องและนํ้าหนักของ Moto Z คือ 153.3 × 75.3 × 5.19 มิลลิเมตร กับ 136 กรัม ตามลำดับ

ด้านหน้าจอได้ออกแบบขอบจอแทบมองไม่เห็นหากไม่สังเกตดีๆ ซึ่งเรียกได้ว่าขอบกลมกลืนไปกับหน้าจอ โดยใช้จอประเภท AMOLED มีขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (~535PPI) ครอบทับกระจก Corning Corilla Glass 4 สามารถรองรับการทัชสกรีนสูงสุด 10 จุด ทั้งนี้ปุ่มควบคุมก็จะอยู่ในหน้าจอเช่นกันทั้ง 3 แบบ ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App

เหนือหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash มีโหมดหน้าสวย 7 ระดับ และก็รองรับการบันทึกวิดีโอ FullHD เซ็นเซอร์ Proximity & Ambient Light บริเวณตรงกลางมีลำโพงทั้งสนทนาและการใช้งานทั่วไป

ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ทำหน้าที่สแกนเท่านั้น สามารถใช้การสแกนเพื่อปลดล็อคหน้าหรือล็อคหน้าจอได้

ส่วนด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน เส้นสัญญาณเสาอากาศ และช่องใส่ซิมการ์ดกับ MicroSD Card โดยผู้ใช้ต้องเลือกว่าจะใส่แบบ SIM 1 + MicroSD Card หรือ SIM 1 + SIM 2

** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **

ด้านล่างมีพอร์ต USB Type - C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูล

มาดูฝั่งซ้ายกันบ้างปรากฏว่าไม่มีปุ่มหรือช่องเชื่อมต่อ มีเพียงขอบเครื่องเท่านั้น

ขณะที่ฝั่งขวาเรียงจากบนสุดมาล่าง ปุ่มเพิ่มเสียง / ปุ่มลดเสียง / ปุ่ม Power สามารถกดสองครั้งติดต่อกันเพื่อเข้าสู่โหมดกล้อง (ต้องเปิดการใช้งานที่การตั้งค่า < การแสดงผล < เปิดการใช้งาน)

ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว และการจับโฟกัสด้วย Laser + ไฟแฟลชคู่แบบ Color Correlated Temperature รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K@30fps

ถัดลงมาจากกล้องจะมีขั้วแม่เหล็กสำหรับติดเพื่อใช้งาน Moto Mods โดยผู้ใช้งานเพียงแค่นำอุปกรณ์เสริมประกบติดกับตัวขั้วแม่เหล็กเท่านั้น

อุปกรณ์ภายในกล่องของ Moto Z

Moto Z
Moto Mods (เคส)
เคส Bumper
หูฟัง
ตัวแปลง USB Type C เป็นพอร์ต 3.5
จิ้มซิมการ์ด
อะแดปเตอร์
สาย USB Type - C
คู่มือการใช้งาน

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Moto Z เมื่อถือใช้งานในมือของผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Moto Z กับไม้บรรทัด

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ระบบปฏิบัติการ

Moto Z ขับเคลื่อนด้วยแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0.1 (Pure Android)

หน้าจอล็อค

สามารถตั้งรูปแบบการล็อค 6 รูปแบบ อาทิ ไม่มี, เลื่อน, รูปแบบ, PIN, ลายนิ้วมือ และรหัสผ่าน โดยแต่ละอย่างมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ไม่มี : หมายถึงการที่เมื่อเรากดปุ่มล็อคหน้าจอ และเมื่อต้องการใช้งานอีกครั้งหนึ่ง ก็เพียงแค่กดปุ่มเดิม โดยวิธีดังกล่าวไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือการปัดใดๆ
เลื่อน : หมายถึงผู้ใช้จะต้องปัดไปทางซ้ายหรือปัดขวาทางใดทางหนึ่ง เพื่อปลดล็อค
รูปแบบ : หมายถึงการใช้สัญลักษณ์ในการปลดล็อค ด้วยการวาดเส้นตามจุดที่กำหนดให้ในรูปแบบใดก็ได้
รหัสผ่าน : กล่าวคือผู้ใช้ต้องรหัสผ่านอย่างน้อย 4 ตัวอักษรและต้องใช้ทั้งตัวเลขและตัวอักษร
PIN : หมายถึงการตั้งรหัสผ่านเป็นตัวเลข 4 ตัว
ลายนิ้วมือ : การปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ

หน้าจอหลัก

ไม่มีฟีเจอร์อะไรพิเศษ โดยมีลักษณะการใช้งานเหมือนดีไวซ์ทั่วไปที่สามารถเพิ่มวิดเจ็ต หรือโยกย้ายแอพพิลเคชั่นได้ อย่างไรก็ตามหากต้องการเพิ่มหน้าจอหลักต้องนำแอพฯ มาวาง ไม่มีเครื่องหมายให้กดเพิ่มหน้าจอ

หน้า Notification

สามารถเปิดการตั้งค่าด่วนและอ่านการแจ้งเตือนต่างๆ ได้จากการปัดเลื่อนลงมาด้านล่างหน้าจอ และที่มุมขวาจะมีไอคอนรูปเฟื่องกดเพื่อเข้าหน้าการตั้งค่า

หน้าแอพพลิเคชั่น

จะเป็นหน้ารวมแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ในเครื่องทั้งหมด โดยเรียงลำดับตามตัวอักษร ทั้งนี้ 4 ไอคอนแอพฯ ด้านบนหมายถึงแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานล่าสุด และถ้ากดค้างที่แอพฯ ใด หมายถึงการนำไปวางไว้บนหน้าจอ

วิธีการบันทึกภาพหน้าจอ

กดปุ่มลดเสียงและปุ่ม Power พร้อมกัน

หน้าการตั้งค่า (Setting)

การโทร/ข้อความ/นาฬิกา/ปฏิทิน/สภาพอากาศ/เครื่องคิดเลข/ตัวจำกัดไฟล์

รายละเอียดสเปกสมาร์ทโฟนรุ่น Moto Z มีดังต่อไปนี้

หน้าจอแสดงผล : AMOLED ขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล ให้ความหนาแน่นต่อพิกเซล 535ppi
CPU : Qualcomm Snapdragon 820
GPU : Adreno 530
RAM : 4 GB
ROM : 64 GB (UFS)
MicroSD Card : สูงสุด 2TB
กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด : 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว และการจับโฟกัสด้วย Laser + ไฟแฟลชคู่แบบ Color Correlated Temperature รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K@30fps
กล้องหน้าความละเอียด : เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับ f/2.2 + ไฟแฟลช และซอฟต์แวร์ปรับหน้าสวย
ระบบปฏิบัติการ : แอนดรอยด์ 6.0 Marshmallow
รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด
รองรับการเชื่อมต่อ : 3G, 4G, Wi-Fi 802.11b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, GPS, A-GPS, Glonass, Bluetooth, USB Type - C
แบตเตอรี่ขนาดความจุ : 2600 mAh เทคโนโลยีชาร์จเร็ว TurboPower ชาร์จ 15 นาที สแตนบายได้อีก 8 ชั่วโมง

พื้นที่เก็บข้อมูลภายในและ Ram

สำหรับ Moto Z มีพื้นที่หน่วยความจำภายใน 64 GB สามารถใช้ได้จริง 52.37GB ขณะที่แรมมีว่างให้ใช้อยู่ประมาณ 2.3 GB จากสเปกเครื่อง 4 GB

สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟน Moto Z ในการทำงานด้วยผลคะแนน Benchmark

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Antutu Benchmark ได้ 128643 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย BaseMark OSII ได้ 2299 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอด้วย Multitouch สูงสุด 10 จุด
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 60.5 เฟรม/วินาที
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ CPU ด้วย Geekbench 4

Single Core ได้ 1479 คะแนน
Multi Core ได้ 3969 คะแนน

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor ตรวจวัดความเอียง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

Moto Mods

อีกหนึ่งสีสันที่เหล่าสาวก moto รู้จักกันดี โดยจะมีเหล่าอุปกรณ์เสริมช่วยยกระดับการใช้งานแก่สมาร์ทโฟนของโมโตให้ดียิ่งขึ้นอีก แบ่งเป็น 5 ประเภท ดังนี้

1. Hasselblad True Zoom หนึ่งอุปกรณ์สำหรับผู้รักการถ่ายภาพ โดยก็ถูกออกแบบให้จับถือสะดวก ส่วนคุณสมบัติก็ไม่ธรรมดามาพร้อมระบบกันสั่นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ สามารถถ่ายภาพแบบ RAW และมีโหมด Pro รวมถึงโหมดอื่นๆ ให้เลือกใช้แตกต่างกันที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.3 นิ้วจุดพิกเซล 1.55 um รูรับแสง f 3.5 - 6.5 รองรับการซูมภาพแบบออปติคอลถึง 10 เท่า / ดิจิตอล 4 เท่า ระยะการถ่ายภาพอยู่ที่ 25 – 250 มิลลิเมตร และไฟแฟลชแบบ Xenon สามารถบันทึกวิดีโอระดับสูงสุด FullHD / 30fps : ราคาวางจำหน่าย 9,990 บาท

2. Moto Insta Share Projector : แปลงภาพที่แสดงผลบนหน้าจอของเรา ให้สามารถฉายภาพสู่ภายนอกเสมือนว่ามีโปรเจคเตอร์ไว้ใช้งาน ในขนาดกว้าง 70 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480 พิกเซลโดยออกแบบให้มีขาตั้งเพื่อปรับตั้งตามต้องการและแบตเตอรี่จุ 1,100 mAh ซึ่งจะใช้งานได้ประมาณ 1 ชั่วโมง : ราคาวางจำหน่าย 12,990 บาท

3. JBL Soundboost Speaker : เอาใจคนรักการฟังเพลงด้วยระบบเสียงจาก JBL สามารถใช้งานต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมง ด้วยความจุแบตเตอรี่ 1000 mAh กับลำโพงสองตัวขนาด 27 มิลลิเมตร ให้ความดังสูงสุด 80 dBSPL ในช่วงคลื่นความถี่ 200 Hz—20 kHz : ราคาวางจำหน่าย 3,990 บาท

4. Incipio Offgrid Power pack : มีลักษณะทำงานคล้ายกับแบตเตอรี่สำรองเพียงแต่ไม่ต้องใช้สายในการชาร์จแต่อย่างใด แค่ติดอุปกรณ์เข้ากับสมาร์ทโฟนบริเวณขั้ว เท่านี้ก็จะสามารถชาร์จแบตฯ ได้แล้ว โดยมีความจุ 2200 mAh เพิ่มระยะเวลาการใช้งานประมาณ 22 ชั่วโมง : ราคาวางจำหน่าย 3,990 บาท

5. Moto Style Shell : ปรับรูปแบบเดิมๆ ให้มีความไม่จำเจ ด้วยทางเลือกการเปลี่ยนฝาหลัง

โหมดสี

แน่นอนว่าแต่ละคนชอบการแสดงผลของเฉดสีไม่เหมือนกัน โดยเราสามารถปรับเปลี่ยนได้สองแบบคือ มาตรฐานและสดใส เข้าไปตั้งค่า < การแสดงผล < โหมดสี

โหมดประหยัดพลังงาน

ยืดระยะเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนของเราให้ออกไปอีก หาก ณ ตอนนั้นแบตเตอรี่ใกล้หมด ทำให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร เข้าไปตั้งค่า < แบตเตอรี่ < โหมดประหยัดแบตเตอรี่

การย่อขยาย

ย่อหรือขยายรายละเอียดต่างๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ เข้าไปตั้งค่า < การเข้าถึง < ใช้นิ้วในการย่อขยาย

ระบบ Gesture

เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน แค่เพียงแสดงท่าทางตามที่ระบบกำหนดไว้ สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่แอพฯ ที่ชื่อว่า Moto < เลือกการทำงาน

Moto Display

ช่วยรายงานการแจ้งเตือนต่างๆ โดยที่ไม่สิ้นเปลืองแบตเตอรี่ วิธีคือ หาก Moto Z วางอยู่ ถ้าเราหยิบขึ้นมาระบบจะแสดงคอนเทนต์การแจ้งเตือนทั้งหมดที่เราตั้งค่าไว้

ทดสอบการเล่นเกมเป็นอย่างไร

จากที่ลองทดสอบหลายๆ เกม ปรากฏว่าเล่นเกมได้โดยไม่มีอาการหน่วงใดๆ ให้เห็น แต่เรื่องความร้อนสัมผัสได้ ทว่าไม่ถึงกับร้อนจัด อุ่นๆ ซึ่งพบความร้อนได้หลังจากใช้ระยะเวลาเล่นติดต่อกันแบบสลับเกมกัน

จุดเด่นของ Moto Z มีดังต่อไปนี้

ระบบมีความไหลลื่นและเสถียร (Pure Android)
มีคุณสมบัติการชาร์จเร็ว
กล้องถ่ายรูปด้านหลัง มีรูรับแสงกว้าง f/1.8 ถ่ายภาพพื้นที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
ระบบการเชื่อมต่อที่ครบครัน อาทิ OTG, NFC, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 GHz + 5 GHz พร้อม MIMO

ประเด็นที่ผู้ใช้งานจะต้องพิจารณาเพิ่มของ Moto Z มีดังต่อไปนี้

มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ทำได้เพียงกับล็อค/ปลดล็อคเครื่อง
ความสวยงามของเมนู หรือลูกเล่นต่างๆ มีน้อย เนื่องจากเป็น Pure Android
ถ้าไม่ใส่ Moto Style Shell ตัวโมดูลกล้องอาจเกิดความเสียหายหรือเป็นรอยได้จากอุบัติเหตุ เพราะลักษณะที่นูนออกมา
ต้องมี Moto Mods ที่จะทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีลูกเล่นพิเศษเพิ่มเติม
ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

กล้องดิจิตอล

กล้องถ่ายรูปด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว และการจับโฟกัสด้วย Laser + ไฟแฟลชคู่แบบ Color Correlated Temperature รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K@30fps ขณะที่ด้านหน้าเป็นเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 + ไฟแฟลช และซอฟต์แวร์ปรับหน้าสวย