[เล่าสู่กันฟัง] ถ้ามีงบซื้อสมาร์ทโฟนไม่เกิน 4,000 บาท แต่จะดีกว่าไหมควรเก็บเงินอีกนิดเพื่อซื้อรุ่น 5,990 บาท

ต้องบอกว่ากลายเป็นยุคทองของสมาร์ทโฟนในบ้านเราจริงๆ เนื่องจากมีตัวเลือกหลากหลายรุ่นให้ได้จับจองกันมากมาย และด้วยเหตุนั้นทางแบรนด์ จึงตั้งช่วงราคาต่างกันไป ตามคุณสมบัติของแต่ละรุ่นไล่ตั้งแต่รุ่นไม่ถึงหนึ่งพันบาทไปจนถึงเกือบ 40,000 บาท ทว่าด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ที่ยังไม่คล่องตัวในบ้านเราอาจมีปัญหาเรื่องงบประมาณหากจะจับจองดีไวซ์ดีๆ สักเครื่องหนึ่งเพราะฉะนั้นหลายคนจึงตั้งเป้าไว้แค่ไม่เกิน 4,000 บาท ดังนั้นแล้วขอมาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับว่าจะดีกว่าไหม ถ้าออมเงินอีกนิดเพื่อมองหารุ่นที่ดีกว่าในราคาไม่เกิน 5,990 บาท มาดูเหตุผลกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น....?

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  HMD Arc สมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก ระบบปฏิบัติการ Android 14 Go แบตเตอรี่ 5,000mAh
• 
  HMD Arc มือถือระบบ Android 14 (Go edition) ดีไซน์สวย ทนทาน ทรงประสิทธิภาพ

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

ทำไมถึงบอกว่าสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 4,000 บาท ไม่น่าสนใจ

1. ระบบปฏิบัติการจะไม่ใช่แอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เช่นเดียวกับแพทช์ความปลอดภัย หรือระบบฟีเจอร์ต่างๆ 

หลายรุ่นในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ายังคงเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 5.1 หรือ Lollipop เท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้อย่างเราไม่สามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น ความไหลลื่น, ฟีเจอร์ หรือแม้แต่แอพพลิเคชั่นที่ในอนาคตดูเหมือนว่า จะเริ่มต้นที่แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 ขึ้นไปเท่านั้น และยังสุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยจากพวกมัลแวร์อีกด้วยดังข่าวคราวที่เราได้เห็น

2. วัสดุตัวเครื่องอะไรๆ ก็พลาสติก 

เรื่องนี้อาจขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล หรือรสนิยมกับความพอใจของ ทว่าคงปฏิเสธไม่ได้ว่า บอดี้ตัวเครื่องที่เป็นโลหะจะให้ความรู้สึกในการสัมผัสที่ดีกว่า และจับถือง่ายกว่าด้วย อีกทั้งบางรุ่นยังมีกระบวนการผลิตที่หลายขั้นตอน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเครื่อง

3. คุณภาพฮาร์ดแวร์จะกระโดดขึ้นไปอีก เพิ่มเงินไม่เกิน 2,000 บาท

ยกตัวอย่างเช่น หน้าจอ, หน่วยประมวลผล, Ram, พื้นที่เก็บข้อมูลภายในแค่ 4 อย่างข้างต้นหากไม่มีประสิทธิภาพมากพอ อาจเกิดความคิดว่าเสียดายตังที่ซื้อมา เช่น หน้าจอไม่คมชัด, การทำงานติดขัด เครื่องค้าง หรือมีความกังวลในการบริหารจัดการข้อมูลต่างๆ ภายในเครื่อง เพราะพื้นที่จัดเก็บนั้นมีไม่เพียงพอ ยังไม่นับกล้องดิจิตอลที่ความคมชัดก็แตกต่างจากรุ่นเล็กอย่างเห็นได้ชัด

4. เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

อีกหนึ่งระบบความเป็นส่วนตัวที่ดีกว่าพวกรหัสผ่าน 4 หลัก เพราะถ้าพูดง่ายๆ หากคนอื่นรู้รหัส ก็ไม่มีความเป็นส่วนตัวอีกต่อไป ดังนั้นการยืนยันตัวเข้าใช้งานสมาร์ทโฟนของเรา ผ่านการสแกนลายนิ้วมือ จึงเป็นทางเลือกใหม่ และเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น "แค่แตะ ก็ปลดล็อค"

5. หนึ่งฟีเจอร์พิเศษ เสมือนใช้รุ่นท็อปในราคาถูกกว่า

ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้หลากหลายแบรนด์ใจปลํ้าไม่น้อยเลย นำจุดขายของรุ่นท็อปมาไว้ในรุ่นที่ใครหลายคนจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเสียง, ระบบกล้อง เป็นต้น 

จ่ายเงินทั้งที่ควรเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเองในราคาที่คุ้มค่า!!!

จริงอยู่บางคนอาจมีงบไม่พอ ทว่าอยากให้ลองมองในแง่ ซื้อครั้งหนึ่งทั้งทีจะดีกว่าไหมถ้าได้ของที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการเพิ่มเงินไม่เกิน 2,000 บาท อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นมามักกีส่วนลดต่างๆ ดังนั้นจึงสามารถจับจองสมาร์ทโฟนได้ในราคาถูกกว่าเดิม

ทำไมถึงบอกว่าสมาร์ทโฟนราคา 5,990 บาท นั้นดีกว่ารุ่นที่ราคาตํ่ากว่า

1. ส่วนใหญ่เป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 แล้ว นั่นหมายความว่า เราจะสามารถใช้งานได้ปลอดภัยขึ้น ไหลลื่นขึ้น ไม่ต้องจ่ายราคาสูงอีกต่อไป และยังรองรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ในอนาคตอีกปีสองปี 

2. ถึงเวลาหน้าจอ HD ได้แล้ว อย่างน้อย ให้การดูวิดีโอบนโลกโซเชียล หรือว่ารับชมภาพยนตร์ต่างๆ รวมถึงการเล่นเกมผ่านแอพพลิเคชั่นเป็นเลือกที่สนุกมากขึ้น

3. ระบบแอนดรอยด์ต้อง Ram 2GB ถึงจะใช้งานได้ไม่ติดขัดมากนัก รุ่นท็อป 4GB ยังมีติดขัดแล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่รุ่นเล็กจะไหลลื่นพอ ดังนั้นถ้าไม่อยากปวดใจกับเรื่องค้างเลิกมองหาแรมน้อยกว่าข้างต้นเถอะครับ

4. เพิ่มเงินอีกนิดมีได้เล่น Pokemon Go ได้ไหลลื่นด้วยนะ อย่างที่บอกไปถึงยุค HD แล้ว และเกมดังกล่าวก็จะต้องการความละเอียดหน้าจอขั้นตํ่า 720p เช่นเดียวกับสเปกของฮาร์ดแวร์อีกทั้งบางรุ่นยังมีเซ็นเซอร์ Gyroscope เพื่อเล่นโหมด AR ด้วย

หลังจากพอรู้ข้อดีข้อเสียถึงความแตกต่างกัน ดังนั้นลองมาส่องสมาร์ทโฟนในราคา 4,500 - 5,990 บาท โดยจะขอแนะนำรุ่นปี 2016 และเป็นแอนดรอยด์ 6.0, Ram 2GB, Rom 16GB

1. Flash Plus 2 : มีสองรุ่นราคาแตกต่างกัน เวอร์ชั่น 2GB ราคา 4,990 บาท และรุ่น 3GB มีราคาอยู่ที่ 5,990 บาท ส่วนความสามารถคลิกอ่านบทความ : Siamphone.com

หมายเหตุ : คลิกอ่านรีวิว Siamphone.com

2. Huawei Y6II อีกหนึ่งรุ่นเล็กใหม่ล่าสุด มาพร้อมดีไซน์โลหะลวดลายเมทัลลิกบนตัวเครื่องกว่า 5,176 เส้น และขอบโค้งของด้านหลังตัวเครื่องช่วยจับถือสะดวกมือ ประมสลผล CPU Octa-core มี Ram 2GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 128GB สามารถทำความรู้จัก : Siamphone.com

หมายเหตุ : ราคาวางจำหน่าย 5,990 บาท

3. Lenovo VIBE K5 & K5 Plus : สองพี่น้องระบบเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ Dolby ATMOS ซึ่งจะรองรับการทำงานร่วมกับ Lenovo TheaterMax ทำงานโดยเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) ที่มอบประสบการณ์ภาพและเสียงเหมือนอยู่ในโรงภาพยนต์เมื่อใช้งานร่วมกับหูฟัง VR อีกทั้งก็ยังมีเซ็นเซอร์ Gyroscope สามารถเล่น Pokemon go ได้สนุกกว่าเดิม

หมายเหตุ : ราคาวางจำหน่าย 5,290 บาท และ 5,990 บาท

คลิกอ่านรีวิว Lenovo VIBE K5 Plus : Siamphone.com

4. U FEEL Lite  และ Wiko U FEEL : สองสมาร์ทโฟนแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสมาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และรองรับการใช้งาน 4G LTE

หมายเหตุ : ราคาวางจำหน่าย 4,590 บาท และ 5,990 บาท

5. ZTE Blade V7 Lite : สมาร์ทโฟนบอดี้โลหะ รองรับการทำงาน 4G LTE มีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายได้ทั้งแบบอัตโนมัติและโหมดโปรที่ปรับค่าได้ตามต้องการ โดยมีโหมด HDR, พาโนรามา, บิวตี้, ยิ้ม, รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 720p โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 2,500 mAh กับโหมดประหยัดพลังงาน

หมายเหตุ : ราคาวางจำหน่าย 4,990 บาท

คลิกอ่านรีวิว ZTE Blade V7 Lite : Siamphone.com

อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ปัจจัยหลักที่เป็นตัวกำหนดคือเรื่องเงินดังนั้นหากว่าเพิ่มเติมยอดเดิมที่กำหนดไว้ได้อีกหน่อย ก็จะได้สมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพขึ้นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรที่จะจับจองเป็นเจ้าของอย่างไม่เดือดร้อนนะครับ และก็ในเมื่อมีงบประมาณจำกัด การซื้อทั้งทีจึงควรใช้งานได้ในระยะยาว เสมือน อดเปรี้ยวกินหวาน