เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับสองสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปอันร้อนแรงที่สุด ณ ตอนนี้ในบ้านเรา ระหว่าง Asus ZenFone 3 Deluxe รุ่น Ram 6GB/256GB UFS 2.0 กับ Samsung Galaxy Note 7 โดยต้องบอกว่าทั้งสองอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ซึ่งมีไฮไลท์ที่แตกต่างกันไป และเจาะกลุ่มลูกค้าไม่เหมือนกันด้วย ทว่าในส่วนของราคาก็เคาะมาที่ใกล้เคียงกัน ได้แก่ รุ่น Deluxe เคาะมาที่ 28,990 บาท ส่วน Note 7 อยู่ที่ 28,900 บาท เท่ากับว่าต่างกันแค่ 90 บาท เพราะฉะนั้นบทความนี้จึงขอพาไปทำความรู้จักให้มากขึ้น พร้อมเปรียบเทียบรายละเอียดทั้งหมดให้ทราบ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ สำหรับผู้ที่ต้องการจับจองเป็นเจ้าของ
สงสัยกันไหม Universal Flash Storage 2.0 คืออะไร และมีดีกว่าอย่างไร
อาจกลายเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟนในอนาคตก็เป็นได้ โดย UFS 2.0 เป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำ คิดค้นโดยบริษัท Samsung ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว พร้อมระบุว่ามีอัตราการเขียนและอ่านข้อมูล รวมถึงประหยัดพลังงานกว่าแบบ eMMC 5.1 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และอย่างที่กล่าวไปครับว่าในอนาคตอาจเห็นได้บ่อยขึ้น เพราะซัมซุงเองก็เผยโฉมสล็อตอ่านการ์ดแบบใหม่ที่รองรับทั้ง UFS และ MicroSD Card แล้ว
ภาพเปรียบเทียบความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลของมาตรฐานต่างๆ
การเชื่อมต่อแบบ 4G LTE แบบ 3CA คืออะไร มาทำความรู้จักกัน
โดยคำว่า CA ย่อมาจาก Carrier Aggregation หมายถึงการรวมย่านคลื่นความถี่ทั้งหมดเข้าด้วยกัน หรือพูดง่ายๆ ว่าคือการใช้ความถี่หลายย่าน (band) ส่งข้อมูลพร้อมกัน เพื่อขยายแบนด์วิดท์ของการส่งข้อมูลหนึ่งครั้ง เปรียบเหมือนกับภาพ .... ทำให้ได้ความเร็วมากกว่าเดิมจากที่มีหลายช่องทาง ส่งข้อมูล ซึ่งเลข 3 ข้างหน้าก็หมายความ มี 3 คลื่นความถี่นำมารวมกัน เช่น 900/1800/2100 แต่ถ้ามีแค่ 2 คลื่น ก็จะเรียกแค่ 2CA ส่วนคลื่นเดียวเรียกแค่ LTE ธรรมดาครับ .... โดยดีไวซ์ทั้งสองรุ่นนี้ก็รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE แบบ 3CA ครับ
ก่อนจะเปรียบเทียบด้านสเปก เรามาดูกันก่อนว่าแต่ละรุ่นมีจุดเด่นอะไรบ้าง...?
เริ่มกันที่ Asus ZenFone 3 Deluxe ถือเป็นรุ่นท็อปสุดในบรรดาครอบครัว ZenFone 3 โดยก็มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวเครื่องเป็นวัสดุโลหะ แต่ถูกออกแบบให้ไร้เสาสัญญาณอากาศทำให้เมื่อมองดูแล้วมีความสวยงาม (Invisible Antenna) ส่วน Ram ก็มีมากถึง 6GB ประเภท LPDDR4 เช่นเดียวกับพื้นที่หน่วยความจำภายใน (Rom) จุข้อมูลได้สูงสุด 256GB และยังเป็นประเภท Universal Flash Storage 2.0 ที่มีผลทดสอบดังตารางข้างต้นว่าเร็วกว่าเทคโนโลยี eMMC 5.1 อีกทั้งยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา จดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 แบบ
นอกจากนี้ทางเอซุสบอกว่า ZenFone 3 Deluxe มีขั้นตอนการผลิตกว่า 240 ขั้นตอน เพื่อสร้างให้ดีไวซ์ตัวนี้มีความสมบูรณ์แบบที่สุด ส่วนระบบการเชื่อมต่อเองก็มีอย่างครบครันและที่สำคัญเครือข่าย 4G LTE ก็ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ 3CA ด้วย ทำให้มีอัตราการดาวน์โหลดและอัพโหลดเร็วขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 821 รุ่นแรกของโลกอีกด้วย
สำหรับ ZenFone 3 Deluxe ยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB Type-C ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิมและใช้งานสะดวก อีกทั้งรองรับชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 โดยชาร์จแบตเตอรี่ในระยะเวลา 39 นาที ได้ 60%
ขณะที่ความบันเทิงก็ไม่น้อยหน้า โดยก็มาพร้อมชิปประมวลผลภาพระดับ 4K UHD TV (Tru2Life+) ทำให้การแสดงผลของภาพเรียกได้ว่ามีความคมชัดกันไปเลย และยังมีระบบเสียง SonicMaster 3.0 กับการรองไฟล์เสียงแบบ Hi-res (24-bit/192kHz)
ระบบเกม Game Genie จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมในการปรับระบบให้เหมาะสมต่อการเล่นเกมนั้นๆ และยังสามารถถ่ายทอดสดการเล่นเกม (Live) ผ่าน YouTube หรือ Twitch ได้ด้วย
สุดท้ายระบบกล้องดิจิตอล สำหรับ ZenFone 3 Deluxe มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 318 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยประกอบไปด้วยเลนส์ 6 ชิ้น รูรับแสง f/2.0 ระบบกันสั่นของภาพนิ่ง 4 แกน และก็ส่วนของวิดีโออีก 3 แกน มีฝาครอบเลนส์ด้วยวัสดุแซฟไฟร์ และระบบจับโฟกัสเทคโนโลยี TriTech autofocus...?
โดยเทคโนโลยี TriTech autofocus จะเป็นการโฟกัส 3 ประเภท คือ PDAF (สำหรับโฟกัสภายนอกอาคาร หรือ Outdoor), Laser AF (สำหรับโฟกัสภายในอาคารและพื้นที่แสงน้อย หรือ Indoor) และ ContinuousAF (โฟกัสต่อเนื่องเมื่อถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหว หรือ Movement Tracking ซึ่งในทุกระบบการจับโฟกัสจะใช้ระยะเวลาเพียง 0.03 วินาทีเท่านั้น
ต่อด้วย Samsung Galaxy Note 7 กันบ้าง เรามาดูจุดเด่นของรุ่นนี้กัน...?
1. สแกนม่านตา โดยถือเป็นดีไวซ์รุ่นแรกของแบรนด์ที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการยืนยันตัวตน ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าเพื่อเป็นวิธีในการปลดล็อคเครื่องได้ รวมถึงการตั้งให้ทุกครั้งก่อนเข้าใช้งานโฟลเดอร์หรือแอพพลิเคชั่นก็ให้สแกนม่านตาก่อนทุกครั้ง
อย่างไรก็ดีจากการทดสอบก็พบว่า ระบบสแกนม่านตาก็สามารถทำได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในที่มีแสงน้อย, ใส่แว่นตา หรือใส่แว่นตาพร้อมกับแสงที่อยู่บริเวณนั้นน้อยอยู่ ก็สแกนได้เป็นปกติ ดังนั้นในอนาคตซีรีย์ S รุ่นที่ 8 อาจมาพร้อมฟีเจอร์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ประเด็นที่ 2 : คุณสมบัติกกันนํ้าของดีไวซ์และปากกา S-Pen ถือเป็นมิติใหม่เลย ในเรื่องของปากกาว่าสามารถกันนํ้าได้อย่างไร โดยทั้งสองอย่างนั้นป้องกันตามมาตรฐาน IP68 ในนํ้าสะอาด และระยะเวลาที่ไม่เกิน 30 นาที คลิกอ่านเรื่องราวของปากกาเพิ่มเติม ว่าพัฒนาอย่างไร มีฟีเจอร์อะไร
หมายเหตุ : ปากกาไม่สามารถใส่กลับด้านได้แล้ว หลังที่ Galaxy Note 5 มีปัญหาเรื่องนี้ ทางซัมซุงได้แก้ไขแล้ว
ประเด็นที่ 3 : Galaxy Note 7 มีขอบโค้งของหน้าจอทั้งสองด้าน นั่นหมายความว่าผู้ใช้จะสามารถเพลิดเพลิน หรืออำนวยความสะดวกได้ด้วยฟังก์ชั่น edge Screen ที่ UX ออกแบบใหม่ให้ใช้งานง่ายกว่าเดิม
ประเด็นที่ 4 : Note 7 เป็นุร่นแรกของโลกที่ใช้กระจก Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับเคลมว่า "ตกพื้นระยะความสูง 1.6 เมตร ไม่แตก" แต่ทางที่ดีอย่าทดสอบเลยครับ
ประเด็นที่ 5 : กล้องดิจิตอลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จะถูกยกมาจาก Samsung Galaxy S7 โดยจุดเด่นอยู่ที่ีูรับแสงกว้างถึง f/1.7 มาพร้อมโหมดโปรให้ปรับตั้งค่าตามต้องการอาทิ โหมดโฟกัส, โหมดความเร็วชัตเตอร์, โหมด ISO, โหมดการรับแสง, โหมดสมดุลสีขาว, โหมดความยาวโฟกัส และเช่นเดิมสามารถบันทึกวิดีโอระดับสูงุสด 4K
ประเด็นที่ 6 : Galaxy Note 7 มาพร้อมหน่วยความจำภายใน 64GB กับเทคโนโลยี UFS 2.0 รองรับหน่วยความจำภายนอกอีก 256GB ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อ
ประเด็นที่ 7 : รองรับเทคโนโลยี Vulkan APIs สำหรับผู้ที่รักการเล่นเกม ด้วยการเปลี่ยนกราฟฟิกให้สวยงามมากขึ้นไปอีก แต่ตัวเกมต้องรองรับเทคโนโลยีนี้ด้วยนะครับ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของการแสดงผลที่เปลี่ยนไป
ลำดับต่อไปมาดูในเรื่องของสเปกกันบ้างว่าทั้งสองรุ่นต่างกันอย่างไร
ZenFone 3 Deluxe | Glaxy Note 7 | |
ขนาดตัวเครื่อง | 156.4 x 77.4 x 7.5 มม. | 153.5 x 73.9 x 7.9 มม. |
นํ้าหนัก | 172 กรัม | 169 กรัม |
ระบบปฏิบัติการ | แอนดรอยด์ 6.0 ครอบทับ ZenUI 3.0 | แอนดรอยด์ 6.0 ครอบทับ TouchWIZ |
หน้าจอ | Super AMOLED + Tru2Life กว้าง 5.7 นิ้ว ความละเอียด FullHD ครอบทับกระจก Gorilla Glass 4 ขอบจอบาง 1.3 มิลลิเมตร พร้อมฟีเจอร์ตัดแสงสีฟ้า และ Always-on | Super AMOLED ขอบโค้งทั้งสองด้าน ขนาดกว้าง 5.7 ความละเอียด QuadHD มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 517ppi ครอบทับด้วย Gorilla Glass 5 พร้อมฟีเจอร์ Always-On และตัดแสงสีฟ้า |
หน่วยประมวลผล | Snapdragon 821 | Exynos 8890 |
GPU | Adreno 530 | Mali T880MP12 |
Ram | 6GB | 4GB |
Rom | 256GB UFS 2.0 | 64GB UFS 2.0 |
MicroSD Card | สูงสุด 128GB | สูงสุด 256GB |
สแกนลายนิ้วมือ | รองรับ | รองรับ |
สแกนม่านตา | ไม่รองรับ | รองรับ |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | USB Type-C | USB Type-C |
ระบบเชื่อมต่อ | WiFi 802.11a/b/g/n/ac 5 Ghz 2x2 MIMO Support, Bluetooth V4.2 + A2DP + EDR, GPS/A-GPS/GLONASS/BDSS, NFC | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz) + MIMO(2×2), Bluetooth v4.2 LE+ ANT+, NFC, GPS, Glonass, Beidou |
4G LTE : 3CA | รองรับ | รองรับ |
แบตเตอรี่ | 3,000 | 3,500 |
รองรับการชาร์จเร็ว | รองรับ | รองรับ และสามารถชาร์จไร้สายได้ |
สเปกด้านกล้องดิจิตอลเป็นอย่างไร
เริ่มกันที่ ZenFone 3 Deluxe มาพร้อม 23 ล้านพิกเซล ประกอบด้วยเลนส์ 6 ชิ้น มีรูรับแสง f/2.0 และเซ็นเซอร์ Sony IMX 318 กับระบบออโต้โฟกัส TriTech AF เพียง 0.03 วินาที และระบบป้องกันภาพสั่นไหวเช่นเดียวกับวิดีโอด้วย 4 แกน (OIS) และ 3 แกน (EIS) ตามลำดับ สามารถบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K โดยตัวเลนส์ครอบทับด้วยกระจกแซฟไฟร์ ขณะที่กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และมีระบบออโต้โฟกัส ให้มุมมองถ่ายภาพ 85 องศา พร้อมโหมดหน้าสวย
โหมดกล้องของทั้งสามรุ่นจะมีเหมือนกันดังต่อไปนี้
ส่วน Galaxy Note 7 อย่างที่เกริ่นข้างต้นว่ายกสเปกกล้องของ Samsung Galaxy S7 มาเลย โดยมีกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 ไฟแฟลชหนึ่งดวง และระบบป้องกันภาพสั่นไหวมาพร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel สามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K กับโหมด Time lapse และ Slow motion
ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซลมีรูรับแสง f/1.7 สามารถบันทึกวิดีโอระดับ 2K ได้
ราคาและเฉดสีของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมีอะไรบ้าง
สำหรับ ZenFone 3 Deluxe มีราคาวางจำหน่าย 28,990 บาท โดยมี 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ สีทอง, สีขาว และสีดำ
ขณะที่ Samsung Galaxy Note 7 มี 4 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ สีดำ, สีเงิน, สีนํ้าเงิน และสีทอง ซึ่งวางจำหน่ายในราคา 28,900 บาท
สรุปจุดเด่นของทั้งสองรุ่นมีอะไรบ้าง
Asus ZenFone 3 Deluxe
Samsung Galaxy Note 7
เลือกรุ่นไหนดีระหว่าง Asus ZenFone 3 Deluxe และ Samsung Galaxy Note 7
ซึ่งคงต้องบอกว่าในด้านสเปกก็มีความแตกต่างกันอยู่เหมือนกันครับ แต่โดยรวมต้องบอกว่าเกินความจำเป็นทั้งคู่ ทว่าหากเราซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่งก็สามารถการันตีใช้งานได้ในระยะยาว และใช้งานในระดับสูงได้สบาย เช่น กราฟฟิก, แอพฯ สเปกสูง หรือการบันทึกวิดีโอระดับ 4K
แต่สิ่งที่จะนำมาเป็นข้อตัดสินใจคือ ต้องถามก่อนว่าเราเน้นใช้งานแบบใด เนื่องจากมีข้อแตกต่างคือปากกา S-Pen ของ Note 7 หากซื้อรุ่นนี้ไปแล้วไม่ได้ใช้งานเลย คงน่าเสียดาย เพราะมีราคาแพงแต่ใช้งานไม่ครบฟังก์ชั่น
ฟันธง : คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบ และลักษณะการใช้งานครับ เพราะสเปกและฟีเจอร์มีดีทั้งคู่ ตัดทิ้งเรื่องราคาไปเลย เพราะต่างกันแค่ 90 บาท
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 3 สิงหาคม 2559
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
Samsung Galaxy S25 Slim สุดยอดกล้องระดับไฮเอนด์ในตัวเครื่องที่บางเฉียบ
Samsung Galaxy A16 จอ FHD+ Super AMOLED ใหญ่ชัดเสมือนจริง กล้อง Triple camera แบตยาวนานขึ้น
Samsung Galaxy S25 Ultra มาแน่! พร้อมตัวเลือกสีสุดอลังการถึง 7 เฉด
Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนพับรุ่นพิเศษ Galaxy W25 และ W25 Flip ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคระดับพรีเมียมใ...
ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A16 5G อัปเดต OS นาน 6 ปี นานที่สุดที่เคยมีมา เคาะราคาไทยแล้ว!
LAVA Yuva 4 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ราคาประหยัด สเปคคุ้มค่าเกินราคา
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
สรุปจุดเด่นและสเปค OPPO Pad 3 Pro หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ลำโพง 8 ตัว แบตฯ 9510mAh
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra