สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 1 ธันวาคม 2558
หัวเว่ยโชว์วิสัยทัศน์ทางด้านการพัฒนานวัตกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ และวิธีที่ “ซูเปอร์โฟน (Superphone)” โทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคหน้า จะนำพามนุษย์เข้าใกล้สู่โลกที่ความจริงทางกายภาพและดิจิทัลผสานเข้าเป็นสิ่งเดียวกันมากขึ้น
ด้วยพันธกิจการสร้างโลกที่เชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้ดียิ่งขึ้น หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าผ่านนวัตกรรมต่างๆ โดยการถือกำเนิดขึ้นของ “ซูเปอร์โฟน” จะช่วยสร้างโลกที่ทุกสิ่งล้วนเป็นดิจิทัล สามารถเชื่อมต่อกัน ตลอดจนผสานและผนวกรวมอัจฉริยภาพของกันและกันได้อย่างไร้รอยต่อ
เมื่อมองย้อนไปถึงวิวัฒนาการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มธุรกิจคอนซูมเมอร์ ของหัวเว่ย ได้ข้อสรุปว่า ทุกอย่างเริ่มจากโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกของโมโตโรล่าที่ออกสู่ตลาดในปี 2538 และได้พลิกโฉมวิธีการสื่อสารของผู้คนไปโดยสิ้นเชิง ต่อมาในปี 2550 โทรศัพท์ไอโฟนจึงได้ถือกำเนิดขึ้น และตามมาด้วยโทรศัพท์แอนดรอยด์ในอีกหนึ่งปีหลังจากนั้น หัวเว่ยเชื่อว่า หลังจากปี 2550 เป็นต้นมา เราจะได้เห็นการกำเนิดของโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคใหม่ในรอบวัฏจักรทุกๆ 12 ปี จึงคาดการณ์ว่า “ซูเปอร์โฟน” โทรศัพท์ยุคอนาคตจะเกิดขึ้นในราวปี 2563 ซึ่งนับเป็นการเปิดโลกยุคใหม่ โลกที่ความจริงทางกายภาพที่สัมผัสได้จะผสมผสานไปกับความจริงแห่งโลกดิจิทัล
“ซูเปอร์โฟน” คืออะไร
“ด้วยแรงบันดาลใจจากวิวัฒนาการด้านชีววิทยา โทรศัพท์มือถือที่เรารู้จักในปัจจุบันจะกลายมาเป็น “ซูเปอร์โฟน” มร. เส้า หยาง ประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดกลยุทธ์ กลุ่มธุรกิจคอนซูมเมอร์ ของหัวเว่ย กล่าว “ความสามารถของ “ซูเปอร์โฟน” จะมีวิวัฒนาการและพัฒนาตัวมันเองไปสู่ความเป็นอัจฉริยะด้านดิจิทัล และสามารถช่วยให้เราสื่อสารกับโลกได้ดียิ่งขึ้น ผ่านวิวัฒนาการและการปรับตัว “ซูเปอร์โฟน” จะยิ่งอัจฉริยะมากขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มระดับ หรือแม้กระทั่งปรับเปลี่ยนการรับรู้ของเรา และช่วยให้มนุษย์ก้าวไปได้ไกลมากกว่าที่เคยเป็นมา”
แล้ว “ซูเปอร์โฟน” จะพาเราไปถึงไหน
ด้วยความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า การวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัล และคลาวด์ เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ “All-Things-Digital” หรือทุกสิ่งคือดิจิทัล “ซูเปอร์โฟน” จะมีบทบาทสำคัญในการประสานอัจฉริยภาพของดิจิทัลเข้ากับของมนุษย์ และทำให้เกิดอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (Internet of Things) ที่จะปฏิรูปวิธีการสื่อสารแลกเปลี่ยนของมนุษย์กับโลกใบนี้ไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยวิวัฒนาการและการปรับเปลี่ยนของ “ซูเปอร์โฟน” โลกแห่งความจริงจะเกิดโครงสร้างใหม่ที่กลายเป็นดิจิทัลมากชึ้น
เพื่อเป็นการรองรับยุคใหม่นี้ หัวเว่ยได้ลงทุนศึกษาความเป็นไปได้ของยานยนต์อัจฉริยะ โดยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์รถยนต์ใหญ่ๆ ในปี 2558 อาทิ โวล์คสวาเกน เมอร์เซเดส-เบนซ์ และออดี้ ซึ่งสองรายหลังได้มอบหมายซัพพลายเออร์ของพวกเขาให้ใช้โมดูลสื่อสาร 4G ของหัวเว่ยสำหรับติดตั้งในรถยนต์ ในอุปกรณ์เครือข่ายรถยนต์ในอนาคตของแบรนด์เหล่านี้ด้วย
ด้วยการผสานคุณสมบัติเครือข่าย 4G และ 5G รวมถึงบิ๊กดาต้า และเทคโนโลยีคลาวด์ หัวเว่ยได้มุ่งมั่นพัฒนาบริการคลาวด์อย่างจริงจังมาโดยตลอด เห็นได้จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นคลาวด์คอมพิวติ้งใหม่ในงานหัวเว่ย คลาวด์ คองเกรส 2015 ที่จัดขึ้นในนครเซี่ยงไฮ้ อาทิ โซลูชั่นฟื้นฟูภัยพิบัติคลาวด์แบบ OpenStack รวมไปถึงการเปิดตัวโซลูชั่น IoT อไจล์ แบบ SDN ซึ่งมีระบบปฏิบัติการ IoT LiteOS ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในขณะนี้ ในงานหัวเว่ย เน็ตเวิร์ค คองเกรส เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย
หัวเว่ยทุ่มเททรัพยากรมากมายในการพัฒนาเทคโนโลยีหลักๆ ของ IoT อันได้แก่ เทคโนโลยีการรับรู้ (Perception Technology) อาทิ เซ็นเซอร์จับสัญญาณ การค้นหาและแยกแยะวัตถุ การสแกน 3 มิติ เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Intelligence Technology) อาทิ การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า Digital Intelligence และแพลทฟอร์มอัจฉริยะเฉพาะสถานการณ์ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ (Connection Technology) อาทิ แพลตฟอร์ม IoT มาตรฐานเครือข่ายแบบมัลติดีไวซ์ และเทคโนโลยีปฏิสัมพันธ์ (Interactivity Technology) อาทิ AR/VR เป็นต้น
ด้วยทีมงานวิจัยและพัฒนากว่า 76,000 คน รวมทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา 16 แห่ง และการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนากว่า 190 พันล้านหยวนในตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้หัวเว่ยได้วางพื้นฐานอันแข็งแกร่งสำหรับอีกสองทศวรรษหน้า ด้วยร้อยละ 25 ของข้อเสนอมาตรฐานหลักด้าน 4G ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก หัวเว่ยวางแผนที่จะลงทุน 600 ล้านเหรียญสหรัฐในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี 5G ที่ได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้สร้างสัมพันธภาพอันดีกับมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เพื่อจะค้นหาวิธีที่จะใช้การปรับใช้วัสดุกราฟฟีนในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือด้วย
มร. เส้า ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ด้วยความมุ่งมั่นของเราในการสร้างมูลค่าผ่านนวัตกรรม หัวเว่ยได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีด้วยการมุ่งเน้นด้านระบบนิเวศ การผูกสัมพันธภาพ และการเป็นพันธมิตร รวมทั้งสมาร์ทโฟน รถยนต์อัจฉริยะ อุปกรณ์สวมใส่ ไปจนถึงสมาร์ทซิตี้ และนวัตกรรมเทคโนโลยีเคลื่อนที่ ก็ยังคงมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนและโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
คอนเซ็ปท์ “ซูเปอร์โฟน” ของหัวเว่ยจะเปิดมิติของความเป็นไปได้อันไม่จำกัด ด้วยการลงทุนอย่างจริงจังต่อเนื่องในด้านวิจัยและพัฒนา ควบคู่ไปกับความตั้งใจและอัจฉริยภาพด้านเทคนิคที่ฉลาดหลักแหลมที่สุด หัวเว่ยมีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่จะรองรับและช่วยให้มนุษย์มีความสามารถมากขึ้น”
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.huawei.com วันที่ : 1 ธันวาคม 2558
สรุปจุดเด่นและสเปค HUAWEI nova 13i หน้าจอ 90Hz กล้องความละเอียดสูงสุด 108MP ชาร์จเร็ว 40 วัตต์
Caviar ปล่อย HUAWEI Mate XT Ultimate รุ่นพิเศษ ตัวเครื่องทองคำ 18K น้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัม ราคาทะ...
HUAWEI Mate X6 สมาร์ทโฟนแบบพับได้ระดับท็อปสุดแกร่ง ประกาศราคาไทยแล้ว
พรีวิว HUAWEI Mate X6 ก้าวใหม่ของสมาร์ทโฟนจอพับ ผสมความทนกับความบางอย่างลงตัว
HUAWEI nova 13 และ 13 Pro ชาร์จเร็วระดับ 100W ได้กล้องหน้ามุมกว้าง 60MP
HMD Arc มือถือระบบ Android 14 (Go edition) ดีไซน์สวย ทนทาน ทรงประสิทธิภาพ
Google เลือกใช้โมเด็ม MediaTek T900 ใน Pixel 10 Series ก้าวใหม่ของสมาร์ทโฟนเรือธง
รีวิว iQOO 13 5G สมาร์ทโฟนตัวแรง ดีไซน์สวย ที่มาพร้อมลูกเล่นไฟ Monster Halo
ทำความรู้จัก TCL 501 และ TCL 503 มือถือราคาประหยัดราคาไม่เกิน 2,000 บาท
HMD Key สมาร์ทโฟนสุดประหยัด หน้าจอ 6.52 นิ้ว แบตเตอรี่ 4000mAh23 ชั่วโมงที่แล้ว