เลนส์ NIKKOR ใหม่ เติมเต็มอิสระให้การถ่ายภาพเพื่อผลงานไร้ขีดจำกัด

วันนี้ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวเลนส์ NIKKOR ใหม่ ได้แก่ AF-S NIKKOR 200-500 มม. f/5.6E ED VR และ AF-S NIKKOR 24 มม. f/1.8G ED ที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับเลนส์ในฟอร์แมต FX สู่อีกขั้นของการสร้างสรรค์ภาพที่จะให้แรงบันดาลใจไปพร้อมกับความตื่นตา เลนส์ AF-S NIKKOR 200-500 มม. f/5.6E ED VR ไม่เพียงเติมเต็มความสามารถให้กับการถ่ายภาพแบบซุปเปอร์เทเลโฟโต้แต่ยังทำให้การใช้งานง่ายขึ้นแม้ไม่ใช้ขาตั้งกล้อง เหมาะอย่างยิ่งกับการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกล เช่น เครื่องบินบนฟากฟ้า หรือว่าจะเป็นภาพธรรมชาติอันกว้างไกลสุดสายตา ในขณะที่เลนส์ AF-S NIKKOR 24 มม. f/1.8G ED จะช่วยให้การถ่ายภาพทั้งแบบแลนด์สเคปหรือพอร์เทรตพร้อมโบเก้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาตินั้นดูดีขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง เพราะเลนส์ไพร์ม (เลนส์ทางยาวโฟกัสคงที่) มุมมองกว้างตัวนี้สามารถเก็บภาพทิวทัศน์แบบกว้างไกลหรือแม้แต่ความงามยามราตรีได้อย่างรวดเร็ว

“นิคอนมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อจะเติมเต็มประสบการณ์แห่งการถ่ายภาพด้วยการสร้างสรรค์เลนส์ใหม่ๆที่ จะช่วยให้ผู้ถ่ายภาพสามารถใส่ความมีชีวิตชีวาลงไปในผลงานของตน และด้วยเลนส์ AF-S NIKKOR 200-500 มม. f/5.6E ED VR และ AF-S NIKKOR 24 มม. f/1.8G ED ใหม่นี้ ผู้ถ่ายภาพจะสามารถแปลงจินตภาพของตนมาเป็นผลงานศิลปะได้ โดยที่สภาพแสงน้อยหรือความห่างไกลจะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เรามอบเทคโนโลยีที่จะสนับสนุนช่างภาพให้สามารถสร้างผลงานที่ท้าทาย ไม่ใช่แค่ในฐานะนักถ่ายภาพ แต่ในฐานะศิลปินด้วย” นายทัตสึยะ ยามากุจิ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “เลนส์ทั้งสองตัวนี้ถูกออกแบบมาด้วยวิศวกรรมที่จะเพิ่มขีดความสามารถและเติมเต็มศักยภาพของกล้อง DSLR ของนิคอน มันจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแปลงความคิดสร้างสรรค์ของตนมาเป็นผลงานภาพศิลป์ที่จับต้องได้ ภายใต้แนวทางที่พวกเขาเป็นผู้กำหนดเอง”

คุณลักษณะเด่นของเลนส์ AF-S NIKKOR 200-500 มม. f/5.6E ED VR

สุดยอดแห่งประสิทธิภาพและความเป็นอเนกประสงค์

เลนส์ AF-S NIKKOR 200-500 มม. f/5.6E ED VR นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานที่กำลังมองหาเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีทั้งประสิทธิภาพและความสามารถรอบด้าน เลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ 200-500มม.1 ซูม 2.5 เท่าตัวนี้เหมาะกับกล้องฟอร์แมต FX และด้วยขนาดรูรับแสงคงที่กว้างสูงสุดที่ f/5.6 สามารถบันทึกภาพที่สดใสมีชีวิตชีวาพร้อมรายละเอียดเต็มตาแม้จะถ่ายในระยะไกล

สร้างสรรค์ผลงานง่ายได้ทั้งความชัดและคม

ด้วยการเพิ่มองค์ประกอบกระจกเลนส์ Extra-low Dispersion (ED) ผลงานที่ได้จึงมีความคมชัดจัดจ้านอย่างน่าทึ่งแม้ถ่ายด้วยขนาดรูรับแสงที่กว้างกว่า ชิ้นเลนส์พิเศษนี้ช่วยลดความพร่าสีหรือสีเพี้ยนจึงช่วยให้ช่างภาพไม่ต้องปรับค่าต่างๆ ให้ยุ่งยากมากมาย ช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัว

จับภาพเคลื่อนไหวง่ายดั่งใจนึก

ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกภาพสัตว์เล็กสัตว์น้อยตามลุ่มน้ำ หรือเสี้ยววินาทีสำคัญของการแข่งขันกีฬาสุดเร้าใจ เลนส์ AF-S NIKKOR 200-500 มม. f/5.6E ED VR ให้ประสิทธิภาพในการลดความพร่าเลือนได้อย่างเต็มที่ ทั้งที่เกิดจากการเคลื่อนไหวหรือมือที่ไม่นิ่งของผู้ใช้งาน ผู้ถ่ายภาพจะสามารถสร้างผลงานที่คมกว่า คุณภาพเหนือกว่า แม้จะถ่ายในสภาพแสงน้อยหรือไม่มีขาตั้งกล้องก็ตาม ระบบลดการสั่นไหว (Vibration Reduction - VR) ในเลนส์ AF-S NIKKOR 200-500 มม. f/5.6E ED VR มีผลเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์กว่า 4.5 สต็อปในโหมด NORMAL นอกจากนี้ ยังมีระบบ VR ในโหมดที่สอง คือ โหมด ‘SPORT’ ที่จะช่วยให้การบันทึกภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวไร้ทิศทางเป็นเรื่องง่าย

ควบคุมได้แม่นยำ ตอบโจทย์ความต้องการ

การควบคุมความไวแสงของผู้ใช้งานที่ต้องการบันทึกภาพเอาท์ดอร์เป็นเรื่องง่ายไม่มีสะดุด เพราะไม่ต้องกังวลกับสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงหรือหมู่เมฆเคลื่อนที่ที่คอยแกล้งกันอีกต่อไป เลนส์ AF-S NIKKOR 200-500 มม. f/5.6E ED VR มีระบบควบคุมการรับแสงอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างแม่นยำและลื่นไหลด้วยกลไกปรับขนาดรูรับแสงด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ช่วยให้การถ่ายภาพต่อเนื่องแบบไฮสปีดเป็นเรื่องง่ายได้ผลงานที่แม่นยำ

คุณลักษณะเด่นของเลนส์ AF-S NIKKOR 24 มม. f/1.8G ED

ภาพกว้างใหญ่เพื่อจินตนาการที่กว้างไกล

ด้วยทางยาวโฟกัสที่สั้นกว่า ผู้ถ่ายภาพจึงสามารถเข้าใกล้วัตถุได้มากขึ้น สามารถโฟกัสเน้นบริเวณที่ต้องการพร้อมเพิ่มความงามให้ภาพด้วยการเลือกเลือนฉากหลังได้กว้างกว่า เลนส์ AF-S NIKKOR 24 มม. F/1.8G ED มอบประสิทธิภาพให้การใช้งานแบบมุมกว้างเพื่อสนองความต้องการของช่างภาพที่ชื่นชมความงามของทัศนียภาพอันกว้างไกล ไม่ว่าจะเป็นภาพตึกระฟ้าและทิวทัศน์ หรือจะเป็นภาพผู้คนในวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย หรือแม้แต่การท่องเที่ยวหรูหรา เลนส์ไพร์มมุมกว้างขนาด 24มม.*3 ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.8 ตัวนี้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วตอบสนองการถ่ายภาพที่ฉับไว พร้อมให้โบเก้ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติ

เทคโนโลยีแห่งการถ่ายภาพขั้นสูงเพื่อคุณภาพผลงานที่แตกต่าง

องค์ประกอบเทคโนโลยีแห่งการบันทึกภาพที่โดดเด่นในเลนส์ NIKKOR ช่วยให้สามารถรักษารายละเอียดของผลงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมให้สีสันที่สวยงามจัดจ้าน การใช้กระจกเลนส์ ED และเลนส์แอสเฟอริคัล ทำงานร่วมกันเพื่อลดสีพร่า สีเพี้ยน และความบิดเบือนผิดส่วนของผลงาน ในขณะที่การเคลือบผิวเลนส์ด้วยนาโนคริสตัลจะช่วยลดแสงโกสต์และแฟลร์ที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาพที่ได้จึงเหนือกว่าในทุกจุดแม้บริเวณขอบภาพ และด้วยรูปแบบที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา เลนส์ AF-S NIKKOR 24 มม. f/1.8G ED จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพกพาไปด้วยทุกที่ทุกเวลา

ดีไซน์เพื่อการใช้งานที่คล่องตัว

ช่างภาพที่มุ่งมั่นสรรค์สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ไม่ควรต้องแบกอุปกรณ์น้ำหนักมากให้เป็นภาระ ด้วยน้ำหนักของตัวเลนส์ที่เบาเพียง 355 กรัมโดยประมาณ แต่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพเทคโนโลยีอันเลื่องชื่อของ NIKKOR เลนส์ AF-S NIKKOR 24 มม. f/1.8G ED นี้จึงมอบความกะทัดรัดและความคล่องตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้ถ่ายภาพจึงสามารถเดินทางได้คล่องตัว เพื่อการท่องไปในโลกกว้างสู่เป้าหมายที่ไกลขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  HUAWEI WATCH GT 5 Series นาฬิกาอัจฉริยะดีไซน์หรู พร้อมโหมดออกกำลังกายแบบมือโปร
• 
  พรีวิว iPhone 16 Pro Max เรียบหรูกับสีไทเทเนียมทะเลทราย เติมเต็มด้วย Camera Control

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่