สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 7 พฤษภาคม 2558

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

หากจะกล่าวถึงสมาร์ทโฟนที่กำลังเป็นที่จับตามองจากผู้ใช้งานในไทย ณ ตอนนี้ คงจะหนีไม้พ้น Asus Zenfone 2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ทาง Asus นำมาต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นแรกอย่างแน่นอน แต่หลังจากมีการเผยโฉมดีลเลอร์คนใหม่ของ Xiaomi ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในงาน TME 2015 ที่เริ่มขึ้นแล้วตอนนี้ ก็ยิ่งทำให้ชื่อของ Xiaomi Mi4 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จากแดนมังกรกลับมาเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้งจากผู้ใช้งานในบ้านเรา ดังนั้นบทความนี้จะพาไปรู้จักและเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้ให้มากขึ้นอีกนิด เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับผู้ที่กำลังสนใจสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้อยู่

เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอก (Design)

Asus Zenfone 2 : ยังคงมาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่ยังไม่ต่างจากรุ่นก่อนมากนัก โดยฝาหลังของตัวเครื่องยังคงใช้วัสดุพลาสติกโพลีคาร์บอเนตขึ้นรูป พร้อมเล่นลวดลายฝาหลังให้ดูสวยงาม และพรีเมี่ยม ในขณะที่ปุ่มกดปรับระดับเสียงได้ถูกย้ายมาไว้ด้านหลังเหมือนกับ LG G3 เรียบร้อย รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลที่มีการออกแบบให้ขยับเข้าไปใกล้ขอบของตัวเครื่องมากขึ้น (Thin Bezel) โดย Asus Zenfone 2 มาพร้อมขนาดตัวเครื่อง สูง 152.5 มิลลิเมตร กว้าง 77.2 มิลลิเมตร และหนา 10.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักรวม 170 กรัม

 

Xiaomi Mi4 : หากเทียบกับรุ่นก่อน Mi3 แล้ว เรียกได้ว่ามีพัฒนาการด้านดีไซน์ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดยตัวเครื่องทำมาจากวัสดุโลหะอลูมิเนียมขัดเงา ซึ่งทาง Xiaomi ยืนยันว่ากว่าจะได้ตัวเครื่องต้องผ่านกระบวนการผลิตมากถึง 40 ขั้นตอน และใช้กระบวนการผลิตถึง 193 กระบวนการเลยทีเดียว ในขณะที่ด้านขนาดตัวเครื่องนั้น Mi4 มีความกว้างของตัวเครื่อง 68.5 มิลลิเมตร สูง 132.9 มิลลิเมตร หนา 8.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวเครื่องโดยรวม 156 กรัม

 

ต่อกันด้วยรายละเอียดสเปกของตัวเครื่อง (Specs) ที่ต้องบอกว่า คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบและต้องการในการใช้งานของแต่ละคนว่า สเปกของใครและรุ่นไหนจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละวันของผู้ใช้งานอย่างเราได้มากกว่ากัน

Asus Zenfone 2

  • หน้าจอแสดงผล (Display) : IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1080P, 403 PPI) ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3
  • หน่วยประมวลผล (CPU/GPU) 
    • Intel® Atom™ Quad Core Z3580 (2.3GHz), GPU : PowerVR G6430  (ZE551 ML)
    • Intel® Atom™ Quad Core Z3560 (1.8GHz), GPU : PowerVR G6430  (ZE550 ML)
  • หน่วยความจำภายใน (ROM) / RAM
    • (ZE550 ML) ROM 16/32 GB : RAM 2 GB (LPDDR 3) รองรับการใช้งาน MicroSD Card สูงสุด 64 GB
    • (ZE551 ML) ROM 32/64 GB : RAM 4 GB (LPDDR 3) รองรับการใช้งาน MicroSD Card สูงสุด 64 GB
  • ระบบปฏิบัติการ (OS) : Android OS 5.0 Lollipop ครอบทับด้วย Zen UI
  • กล้องถ่ายรูป (Camera)
    • กล้องหลัก : ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี PixelMaster (Auto Focus, F/2.0)
    • กล้องหน้า : ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (Fix Focus, Wide View, F/2.0)
  • การใช้งานเครือข่าย (Network)
    • 3G 850/900/2100 MHz
    • 4G 850/900/2100 MHz
  • แบตเตอรี่ : 3000 mAh
  • เพิ่มเติม : Bluetooth 4.0, WLAN 802.11 a/b/g/n/ac, NFC, Fast Charge

 

Xiaomi Mi4

  • หน้าจอแสดงผล (Display) : JDI ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1080P, 441 PPI) ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3
  • หน่วยประมวลผล (CPU/GPU) 
    • Qualcomm Snapdragon 801 Quad Core (2.5GHz), GPU : Adreno 330
  • หน่วยความจำภายใน (ROM) / RAM
    • ROM 16 GB : RAM 3 GB (LPDDR 3) ไม่รองรับการใช้งาน MicroSD Card
  • ระบบปฏิบัติการ (OS) : Android OS 4.4.3 Kitkat ครอบทับด้วย MIUI
  • กล้องถ่ายรูป (Camera)
    • กล้องหลัก : ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์กล้องถ่ายรูป Sony IMX214 (Auto Focus, F/1.8)
    • กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (ฺBSI, Angle View, F/1.8)
  • การใช้งานเครือข่าย (Network)
    • 3G 850/900/2100 MHz
    • 4G 1800/2100 MHz (เฉพาะรุ่น LTE)
  • แบตเตอรี่ : 3080 mAh
  • เพิ่มเติม : Bluetooth 4.0, WLAN 802.11 a/b/g/n/ac, NFC, Infrared, Quick Charge

 

ซึ่งจากสเปกข้างบนนั้น น่าจะเพียงพอที่ทำเราเห็นข้อแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้พอสมควร ดังนั้นเรามาดูจุดที่น่าสนใจและข้อสังเกตของแต่ละรุ่นกันดีกว่า ว่ามีอะไรกันบ้าง

จุดที่น่าสนใจของ Xiaomi Mi4

  • หน้าจอแสดงผลให้ภาพและแสงที่สว่างพอสมควรด้วยค่า Contrast Ratio 1000:1 และมีความหนาแน่นพิกเซลที่มากถึง 441 PPI
  • กล้องหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และใช้เซ็นเซอร์ของ Sony Exmor RS พร้อมค่ารูรับแสงที่กว้างถึง 1.8
  • กล้องถ่ายรูปหลักที่มีค่ารูรับแสงที่กว้างถึง 1.8 (F) และใช้เซ็นเซอร์จาก Sony เช่นเดียวกับกล้องหน้า
  • กล้องถ่ายรูปหลักรองรับการบันทึกภาพ VDO ที่ความละเอียดระดับ UHD
  • ROM Android (MIUI) อันโด่งดังที่ทาง Xiaomi พัฒนาขึ้นมาเอง ที่ถึงแม้จะมีพื้นฐานมาจาก Android 4.4.3 Kitkat แต่จากการครอบทับด้วย MIUI แล้ว ทำให้การใช้งานโดยรวมนั้นลื่นไหลพอสมควร

ข้อสังเกตของ Xiaomi Mi4

  • หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ที่มีขนาดเล็กกว่าเมื่อเทียบกับ Zenfone 2 
  • หน่วยความจำภายในให้มาเพียง 16 GB และไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก (MicroSD Card) ได้
  • CPU Snapdragon 801 ที่ ณ ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นรุ่นเก่าแล้ว (แต่ยังมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีพอสมควร)
  • ไม่รองรับการใช้งาน Dual SIM (2 ซิมการ์ด)
  • ไม่สามารถแกะฝาหลัง เพื่อเปลี่ยนแบตฯ หรืออื่นๆ ได้โดยตรง (ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย ทดสอบด้วยรุ่น LTE)

 

จุดที่น่าสนใจของ Asus Zenfone 2

  • หน้าจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่กว่า (5.5 นิ้ว)
  • ความหลากหลายของรุ่น (Model) ให้เลือกซื้อตามสเปกตัวเครื่องและความต้องการของผู้ใช้งาน
  • รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายในได้สูงสุดอีก 64 GB
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นล่าสุด 5.0 Lollipop ครอบทับด้วย Zen UI ที่ใช้งานได้ดีที่เดียว
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ด 2 ซิม

ข้อสังเกตของ Asus Zenfone 2

  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งน้อยกว่าหากเทียบกับ Mi4 รวมไปถึงค่ารูรับแสงที่ให้มา F2.0 (ขึ้นกับความชอบ)
  • การใช้งาน CPU Intel ที่ยังมีแอพฯ บางตัวบน Play Store ยังไม่รองรับการใช้งาน
  • กล้องถ่ายรูปไม่รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียด UHD รองรับถึงเพียงระดับ FHD
  • วัสดุตัวเครื่องยังเป็นพลาสติกอยู่

 

การวางจำหน่าย

Asus Zenfone 2 จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป (หากไม่คลาดเคลื่อน) ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6,990 บาท และรุ่นตัวท็อปสุดในราคา 11,900 บาท

 

ในขณะที่ Xiaomi Mi4 นั้นเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยผ่านดีลเลอร์ Strek ในราคา 10,990 บาท (รุ่น 3G) และยังจำหน่ายร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง AIS, DTAC และ TrueMove ในราคาเดียวกันด้วย ซึ่งสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ภายในงาน TME 2015 เป็นต้นไป

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่