Qualcomm เปิดตัวชิปรุ่นใหม่ Snapdragon 620, 618, 425 และ 415

Qualcomm เปิดตัวชิปตระกูล Snapdragon รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนระดับกลาง ได้แก่ Snapdragon 415, 425, 618 และ 620

Snapdragon 415 และ Snapdragon 425 เป็นชิปในตระกูล Snapdragon 400 series ที่ถูกเปลี่ยนแปลง CPU ระดับ quad-core มาเป็น octa-core (Cortex A53) โดยรองรับการประมวลผลแบบ 64-bit และชุดคำสั่ง ARMv8 มีพื้นฐานเทคโนโลยีการผลิตในระดับ 28 นาโนเมตร

ทั้ง Snapdragon 415 และ Snapdragon 425 จะรองรับฟีเจอร์การชาร์จแบตเตอรี่อย่างรวดเร็ว (Quick Charge 2.0) และการประมวลผลสัญญาณภาพคู่ (dual image signal processors หรือ ISPs) ซึ่งจะทำให้กล้องถ่ายรูปของสมาร์ทโฟนระดับกลางที่นำชิปทั้งสองรุ่นไปใช้งานทำงานได้ดีขึ้น

นอกจากนั้นยังได้ใช้งานชิปประมวลผลกราฟิก GPU Adreno 405 ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Adreno 306 ที่ใช้ใน Snapdragon 410 ก็ตาม แต่ Adreno 405 สามารถถอดรหัสรูปแบบไฟล์วิดีโอ H.264 FullHD และสนับสนุนการแสดงผลภายนอกที่ระดับ FullHD 1080p โดยความแตกต่างของ Snapdragon 415 และ Snapdragon 425 อยู่ที่โมเด็ม 4G LTE ซึ่ง Snapdragon 415 จะได้ใช้งานโมเด็ม X5 LTE (รองรับ LTE Cat 4 ความเร็วการดาวน์โหลดข้อมูลสูงสุด 150Mbps) แตกต่างกับ Snapdragon 425 ที่ได้ใช้งานโมเด็ม X8 LTE (ความเร็วการดาวน์โหลดข้อมูลสูงสุด 300Mbps)

Snapdragon 618 และ Snapdragon 620 เป็นชิปในตระกูล Snapdragon 600 series ต่อยอดมาจาก Snapdragon 610 และ Snapdragon 615 โดยชิปรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นจะใช้สถาปัตยกรรม Cortex A72 ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า Cortex A57 ถึงสองเท่า รองรับการประมวลผลแบบ 64-bit มีพื้นฐานเทคโนโลยีการผลิตในระดับ 28 นาโนเมตร และเน้นการจัดการพลังงานด้วยสถาปัตยกรรม big.LITTLE อีกทั้ง Qualcomm ยังอธิบายว่าชิปทั้งสองรุ่นจะได้ใช้งาน GPU รุ่นใหม่ (ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดออกมาในตอนนี้)

Snapdragon 618 และ Snapdragon 620 มีโมเด็ม LTE X8 สนับสนุนการเล่น / บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K สามารถถอดรหัสรูปแบบไฟล์วิดีโอ H.264 4K ซึ่งก่อนหน้านี้ฟีเจอร์ดังกล่าวมีเฉพาะในชิปรุ่นท๊อปตระกูล Snapdragon 800 series เท่านั้น

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างชิปทั้งสองรุ่น คือ Snapdragon 618 เป็นชิป hexa-core (6-core : 2 Cortex A72 + 4 Cortex A53) ส่วน Snapdragon 620 เป็นชิป octa-core (8-core : 4 Cortex A72 + 4 Cortex A53)

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Apple ขยับฐานผลิตใหญ่ iPhone 16 Pro Series นอกจีน แล้วทำไมถึงเลือกอินเดีย?
• 
  5 เหตุผลที่ควรรอซื้อ Google Pixel 10 แทน Google Pixel 9

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่