แท็บเล็ต (Tablet) | วันที่ : 17 กุมภาพันธ์ 2558
ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากสารพัดแกดเจ็ตไอที กำลังเป็นปัญหาระดับชาติ ส่งผลให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ต้องหามาตรการในการจัดการขยะเหล่านี้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากมลพิษและสารเคมีที่เกิดจากการทำลายเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
หนึ่งในมาตรการจัดการ คือการเร่งออกร่าง พ.ร.บ.จัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น โดยวันนี้ คพ.จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากเครือข่ายภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เบื้องต้น คพ.ได้จัดทำร่างกฎหมายจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
สำหรับเนื้อหาในร่างกฎหมายดังกล่าว กำหนดให้มีคณะกรรมการจัดการซากผลิตภัณฑ์คอยตรวจสอบดูแล การควบคุมผลิตภัณฑ์ การกำหนดผลิตภัณฑ์ที่ถูกควบคุม การควบคุมผู้ผลิตและจัดจำหน่าย การรับคืน การจัดเก็บค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์การจัดการซาก การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษ และมีการช่วยเหลือด้านภาษี หรือค่าธรรมเนียมในอัตราพิเศษ และมีบทลงโทษทั้งจำคุกและโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นถึงห้าแสนบาท
หนึ่งในอุปกรณ์ที่ถูกนิยามว่าเป็น "ขยะอิเล็กทรอนิกส์" ที่สร้างปัญหาให้กับระบบการจัดการ ก็คือ "แท็บเล็ตนักเรียน" ตามโครงการแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้น ป.1 ทั่วประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยกเลิกไปแล้ว
"แท็บเล็ต" ที่เคยเป็นนโยบายติดอาวุธทางปัญญาในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่วันนี้กลับกลายเป็นซากขยะและมลพิษที่กำลังสร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
ประเมินกันว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีการแจกแท็บเล็ตให้กับเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ทั่วประเทศไปไม่ต่ำกว่า 2.4 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นงบประมาณ 7,000 ล้านบาท และตลอดเวลาของการแจกแท็บเล็ต มีปัญหาตามมาหลายเรื่อง ทั้งการใช้งานที่ค่อนข้างช้าเมื่อบรรจุเนื้อหาลงไปมาก ตามมาด้วยการสัมผัสหน้าจอก็เริ่มตอบสนองน้อยลง รวมถึงแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพเร็ว
ปัจจุบัน แบตเตอรี่ของแท็บเล็ตล็อตแรก 8.6 แสนเครื่อง เริ่มหมดอายุการใช้งาน และเมื่ออยู่นอกเหนือเงื่อนไขการประกันหากยังจะใช้งานต่อไปโรงเรียนแต่ละแห่งจะต้องสำรวจค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพื่อเสนอของบประมาณซ่อมแซมเองโดยสนนราคาแบตเตอรี่แต่ละเครื่อง อยู่ที่ 500 บาท
แท็บเล็ตซึ่งมีสถานะเป็นครุภัณฑ์จากโรงเรียนเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ ศธ.จัดหาให้โรงเรียนทั่วๆ ไป กำลังกลายเป็นอุปกรณ์ที่ไม่เป็นที่ต้องการ เด็กนักเรียนเริ่มหมดความอยากรู้อยากเห็น รวมถึงหมดสนุกเพราะตัวเครื่องทำงานช้า
ส่วนเนื้อหาและแอพพลิเคชั่นที่บรรจุไว้ในเครื่อง ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องการเรียน ซึ่งก็ทดแทนหนังสือเรียนหรือสื่ออื่นๆ ที่สะดวกกว่าไม่ได้ ทำให้แท็บเล็ตจำนวนมากกว่า 8.6 แสนเครื่องในล็อตแรก ถูกเก็บทิ้งไว้ในตู้ต้องรอวันให้ ศธ.ออกมาประกาศมาตรการที่ชัดเจนในการจัดการเรื่องนี้
วิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ระบุว่า ปีที่ผ่านมามีขยะจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ประมาณ 2.2 ล้านชิ้น โดยมีแท็บเล็ต ซึ่งมีอายุการใช้งาน 3-5 ปี และอุปกรณ์ส่วนใหญ่เสื่อมสภาพแล้ว มากกว่า 5 แสนเครื่อง มีน้ำหนักรวมทั้งหมด 260 ตัน
"สารตะกั่วจากหลอดรังสีแคโทด ปะเก็น โลหะบัดกรีบนแผงวงจร จะทำลายระบบประสาทส่วนกลางและคู่ขนาน รวมถึงระบบโลหิต ขณะที่ปรอทในสวิตช์และจอภาพแบบแบน หากได้รับในปริมาณสูงจะส่งผลต่อสมอง ตับ ไต ส่วนแคดเมียมจากแผงวงจร แบตเตอรี่ และจอภาพแบบเก่า หากสะสมในร่างกายมากๆ จะทำให้เป็นโรคไต กระดูกผุกร่อน รวมทั้งสารเคมีอีกสารพัดชนิด ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง"
อธิบดี คพ. บอกอีกว่า "แท็บเล็ตแจกนักเรียน" จะต้องตกลงกับผู้ค้าเรื่องมาตรการในการเก็บรวบรวมส่วนที่ใช้งานไม่ได้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการกำจัดอย่างเป็นระบบ ซึ่ง ร่าง พ.ร.บ.ที่กำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณา จะเป็นประโยชน์ทันที เนื่องจากจะสามารถเพิ่มความรับผิดชอบให้ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้มีกระบวนการรวบรวมสินค้าคืน ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่งบังคับในเรื่องนี้ จึงเป็นระเบียบที่บริษัทผู้ผลิต ที่มีสินค้ากลุ่มนี้ขายทั่วโลกคุ้นเคยดีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในอนาคตอันใกล้ คพ.เตรียมเร่งผลักดัน กฎกระทรวงอีก 4 เรื่อง คือ 1.กฎกระทรวงการคัดแยก เก็บขน และกำจัดขยะมูลฝอย 2.กฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยทั่วไป 3.กฎกระทรวงอัตราค่าธรรมเนียมการเก็บขน และกำจัดขยะมูลฝอยและ 4.ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการขนและการกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อ สำหรับโรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุขทุกประเภทและทุกขนาด รวมถึงยกร่างกฎหมายฉบับใหม่คือ พ.ร.บ.การจัดการขยะแห่งชาติ พ.ศ.... ซึ่งจะสามารถทำให้จัดการขยะได้ครอบคลุมทั้งระบบ
ที่มา : www.posttoday.com
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.posttoday.com วันที่ : 17 กุมภาพันธ์ 2558
HONOR Pad GT ปรับชิปเซ็ตเป็น Dimensity 8350 แต่จอยังมาตรฐาน IMAX Enhanced
รีวิว iPad Air M3 หลังหักนิดหน่อย แต่เล่นเกมสวยขึ้นเพราะมี Ray Tracing
HUAWEI MatePad 11.5” NEW (Standard Edition) แท็บเล็ตเพื่อวัยเรียน ทำงาน ครบเครื่องระดับพีซี
Redmi Pad Pro 5G แท็บเล็ตจอใหญ่ที่จบครบทุกความบันเทิงในราคา 13,990 บาท
Moto pad 60 PRO หน้าจอ 12.7 นิ้ว คมชัด 3K 144Hz พร้อมลำโพง JBL 4 ตัว
Blackview MEGA 8 เตรียมเปิดตัว แท็บเล็ตเรือธง AI ขนาด 13 นิ้วเครื่องแรกของโลก พร้อม AI ตัวท็อปถึง...
Nothing Phone (3) เรือธงที่หลายคนรอคอย ซีอีโอยืนยันเปิดตัวช่วง ก.ค. - ก.ย. 2025
สรุปจุดเด่นและสเปค vivo V50 Lite 5G หน้าจอ 120Hz มาตรฐานถึกทนครบ RAM 24GB แบตฯ 6500mAh ชาร์จเร็ว 90W
Redmi Pad Pro 5G แท็บเล็ตจอใหญ่ที่จบครบทุกความบันเทิงในราคา 13,990 บาท
Redmi Turbo 4 Pro สัมผัสความแรง Snapdragon 8s Gen 4 รุ่นแรก แบตเตอรี่ใหญ่มาก 7,550mAh
realme Narzo 80x 5G สมาร์ทโฟนเน้นทนทานระดับทหาร แบตเตอรี่ใหญ่ 6000mAh
ปิดฉากสมาร์ทโฟน LG อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีการอัปเดตใดๆ อีกต่อไปแล้ว20 ชั่วโมงที่แล้ว