NEWS

แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ ตอกย้ำความสำคัญของ 3D EXPERIENCE ในเชิงการศึกษาและอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ชีวภาพ

แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 14 ตุลาคม 2557

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

แชร์

แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ บริษัททางด้านซอฟต์แวร์ 3D EXPERIENCE ผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชั่นการจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Lifecycle Management -PLM) ซอฟต์แวร์การออกแบบ 3 มิติ (3D design software) และการจำลองภาพดิจิตอลแบบ 3 มิติ (3D Digital Mock Up) เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุด มุ่งหน้าเปลี่ยนอนาคตทางการศึกษา และการวิจัยทางการแพทย์ในประเทศไทย

ฟิลิปป์ ฟอร์เรสติเอร์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายกิจการการค้าระหว่างประเทศ บริษัท แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ กล่าวว่า โอกาสในการเรียนรู้ของบริษัทคือ การให้คนทุกเพศ ทุกวัยได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดทางด้านภาพ 3 มิติ และเทคโนโลยีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (PLM) ในขณะเดียวกัน ก็ได้มีการสาธิตนวัตกรรมที่ใช้ในอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ชีวภาพให้ได้ชมกันอีกด้วย

นอกจากนี้ การก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2015 นั้น จะทำให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานที่มีทักษะต่างๆ ไปยัง10 ประเทศในกลุ่มอาเซียนซึ่งประเทศไทยถือได้ว่ามีข้อได้เปรียบกว่าประเทศสมาชิกอื่น ๆ ทั้งในด้าน การมีการศึกษาที่ดี การมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีและมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี อีกทั้งยังมีอัตราเงินเดือนและค่าตอบแทนที่สูง

ขณะเดียวกัน ในอุตสาหกรรมที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะวิศวกรจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น มีแนวโน้มที่จะเข้ามาสู่ตลาดในเมืองไทยมากขึ้นเช่นกัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มขีดความสามารถของวิศวกรไทย ทั้งในด้านองค์ความรู้ทางด้านวิชาชีพ และความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ เพื่อให้พร้อมแข่งขันกับนานาประเทศได้

“การทำงานร่วมกันในระดับโลกนั้น การก้าวข้ามนวัตกรรม และระบบทางความคิด คือคุณลักษณะใหม่ที่ควรมีในตัวของวิศวกร ดังนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกจ้างาน นักเรียน นักศึกษาในปัจจุบัน จะต้องพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้นด้วยการฝึกปฏิบัติที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งโซลูชั่น 3DEXPERIENCE ของแดสสอล์ท ซิสเต็มส์ ได้จัดเตรียมเนื้อหาการศึกษาที่หลากหลายเอาไว้ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น และยังเพิ่มความสามารถ ตลอดจนประสบการณ์ และยังมีแบบฝึกหัดเพื่อฝึกการแก้ไขปัญหาอย่างสมจริง” ฟิลิปป์ กล่าว

“ที่แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ เราต้องการที่จะทำมากกว่าแค่การนำเสนอผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว เรามุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยี 3D ของเราเพื่อยกระดับการเรียนรู้ กระตุ้นนวัตกรรมในการทำวิจัย การลดต้นทุนการพัฒนา และท้ายที่สุดคือ การมีผลกระทบโดยตรงกับการปรับปรุงวิถีการดำเนินชีวิต” ฟิลิปป์ กล่าว

ตัวอย่างที่ดีโครงการหนึ่ง คือ โครงการ The Living Heart Project ที่เป็นการจำลองภาพ 3 มิติ ของหัวใจมนุษย์แบบเสมือนจริงครั้งแรกของโลก โครงการนี้ได้ถูกพัฒนาร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจในหลากหลายสาขาวิชา เพื่อช่วยในการต่อสู้กับโรคหัวใจ และปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจโครงการนี้ถูกขับเคลื่อนโดยแดสสอล์ท ซิสเต็มส์ โดยการใช้แพลตฟอร์มของ 3DEXPERIENCE ในการจำลองภาพแบบเสมือนจริง ซึ่งเป้าหมายต่อจากนี้ คือการก้าวเข้าสู่การวินิจฉัยโรคในรูปแบบใหม่รวมทั้งการรักษาและป้องกันปัญหาต่างๆ ด้านโรคหัวใจ ตลอดจนการวินิจฉัยโรคเป็นรายบุคคล ด้วยการใช้ภาพจำลอง 3 มิติเสมือนจริง

“ความสามารถในการจำลองวิธีการเต้นของหัวใจผู้ป่วย จะช่วยตอบสนองต่อการเรียนรู้ในอีกหลากหลายสาขาวิชา, ช่วยประหยัดเวลาในการศึกษาแต่ละขั้นตอน และยังเป็นความก้าวหน้าอยากมากในวงการศึกษา อีกทั้งสิ่งนี้จะเป็นตัวเร่งการทำความเข้าใจขั้นพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของหัวใจและยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติที่ช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพและความปลอดภัยได้ด้วยแน่นอนว่าโครงการนี้ถือเป็นบทพิสูจน์อย่างเห็นได้ชัดว่า แพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE ของเราสามารถช่วยปรับปรุงผลิตภัณฑ์, ธรรมชาติ และชีวิต ให้ดีขึ้นได้เป็นอย่างดี”