หูฟัง Earbuds (Earbuds)  |   วันที่ : 10 กันยายน 2557

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

หลังจากใช้เวลากว่าปีไปกับการพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ ในที่สุด Apple Watch นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของค่าย Apple ก็เผยโฉมออกมาอย่างเป็นทางการและจะพร้อมวางขายจริงในต้นปี 2015 โดย Apple Watch ถูกให้ความสำคัญในส่วนของการออกแบบและการลงรายละเอียดฟังก์ชั่นต่างๆ ที่น่าประทับใจ เรามาชมกันว่าคุณสมบัติใหม่ของ Apple Watch มีอะไรน่าสนใจบ้าง

 

1. ส่วนติดต่อผู้ใช้ใหม่ที่รองรับ 'Digital Crown' ปุ่มหมุนอัจฉริยะ

ความท้าทายที่สำคัญที่สุดของ Apple ก็คือตัวหน้าปัดนาฬิกามีจอแสดงผลขนาดเล็ก แล้วจะสามารถซูมเข้า-ซูมออกได้อย่างไร ปุ่มหมุนด้านข้างหน้าปัด 'Digital Crown' คือคำตอบของโจทย์ข้อนี้ โดยการหมุนปุ่มดังกล่าวก็คือการซูมเข้าและออกบนหน้าจอแสดงผลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แถมยังใช้งานควบคู่ไปกับการเลื่อนเมนูหลักของไอคอนเล็กๆ บนนาฬิกาด้วย

ส่วนติดต่อผู้ใช้ใหม่ยังสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างการแตะและการกดหน้าจอ โดยการกดหน้าจอจะมีรูปแบบคล้ายกับการคลิกขวาที่เมาส์ใน Windows นั่นเอง

2. วิธีการใหม่ของการสื่อสาร : Taptic Engine แสดงออกถึงความรู้สึกผ่านหน้าจอ

ด้วยการมีจอแสดงผลขนาดเล็ก จึงต้องใช้วิธีการใหม่ในการสื่อสารโต้ตอบกัน การพิมพ์แป้นพิมพ์บนหน้าจอเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องสนุก นั่นเป็นเหตุผลที่ Apple ได้สร้างรูปแบบการสื่อสารทั้งหมดใหม่โดยผู้ใช้งานสามารถคุยกับผู้อื่นได้ด้วยการแตะหรือวาดเส้นรูปอะไรก็ตามลงไปบนหน้าจอ จากนั้นข้อความดังกล่าวจะถูกส่งไปหาผู้ใช้งาน Apple Watch อีกคนหนึ่งพร้อมกับการสั่นเตือนที่เหมือนกับมีนิ้วมือคนมาแตะจริงๆ ซึ่งอีกฝั่งก็สามารถโต้ตอบกันได้ในแบบเดียวกัน และยังสามารถส่งอัตราการเต้นของหัวใจให้อีกฝั่งหนึ่งรับรู้ มีอีโมจิให้เลือกใช้งานอีกมากมาย รวมถึงส่งข้อความเสียงหากันได้ ซึ่งการติดต่อสื่อสารด้วยวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สนุกและสามารถแสดงอารมณ์โดยที่ไม่ต้องพิมพ์หรือเขียนอะไรให้มากมาย

3. สร้างมาเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย

Apple Watch มาพร้อมกับสองแอพพลิเคชั่นที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อดูแลสุขภาพของผู้ใช้งาน "Fitness and Workout" แถมยังมีความพิเศษตรงที่ด้านหลังของหน้าปัดมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจ ซึ่งทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์วัดการเคลื่อนไหว, GPS, Wi-Fi เพื่อจับการเคลื่อนไหวในขณะออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมระหว่างวัน

4. หน้าปัดนาฬิกาที่มาพร้อมกับความสวยงาม

ที่หน้าจอแสดงผล ยังสามารถใช้งานเป็นหน้าปัดนาฬิกาซึ่งมาพร้อมกับภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงในแบบต่างๆ มากมายให้เลือกใช้งาน

5. มีสองไซส์เพื่อให้พอดีข้อมือทุกคน

Apple รู้ว่าถ้าออกแบบ Apple Watch มาไซส์เดียวก็จะไม่พอดีกับข้อมือของแต่ละคน จึงทำออกมา 2 ไซส์ด้วยกัน (38 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร)

6. สายนาฬิกาหลากหลายแบบ

Apple Watch มีสายนาฬิกาที่หลากหลาย ทั้งแนวแฟชั่นและแนวสปอร์ต โดยสามารถถอดเปลี่ยนเข้ากับตัวเครื่องแบบต่างๆ โดยตัวเครื่องจะมีทั้งหมด 3 คอลเลกชั่น (Apple Watch รุ่นปกติ จอกระจกแซฟไฟร์ ตัวเครื่องสเตนเลส, Apple Watch Sport รุ่นสำหรับออกกำลังกาย จอกระจกเสริมแรง ตัวเครื่องอลูมิเนียมอโนไดซ์ เบาและแกร่ง, Apple Watch Edition รุ่นทองคำ 18 กะรัต)

7. รองรับการทำงานร่วมกับ Apple Pay (ใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐ)

Apple Watch สามารถทำงานร่วมกับ Apple Pay ซึ่งเป็นวิธีการชำระเงินซื้อสินค้าที่ปลอดภัย โดยสามารถใช้งานผ่านร้านค้าต่างๆ เช่น Starbucks, McDonalds, Apple Store และอื่นๆ อีกมากมาย

8. นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอพบน Apple Watch ด้วย WatchKit SDK

Apple จะเปิดช่องให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น third party สามารถจัดการกับ Apple Watch ผ่านทาง WatchKit SDK

9. Apple Watch รองรับการทำงานร่วมกับ iPhone 5 ขึ้นไป

Apple Watch เป็นนาฬิกาที่ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เสริมให้กับ iPhone (ไม่สามารถใช้งานเป็นอุปกรณ์เดี่ยวๆ ได้) โดยรองรับ iPhone 5 ขึ้นไป

10. Apple Watch มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ $349 (11,200 บาท)

Apple Watch เป็นหนึ่งในนาฬิกา smartwatch ที่มีราคาสูงมากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยเวอร์ชั่นปกติเริ่มต้นที่ $349 และยังมีรุ่นที่ตัวเรือนด้วยทองคำ 18 กะรัตซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมา

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่