สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนจับมือไมโครซอฟท์ สานต่อความร่วมมือเพื่อขยายเครือข่ายการศึกษาคุณภาพ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน หนึ่งในองค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำของประเทศไทย ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในการสานต่อความร่วมมืออันยาวนานในการเสริมสร้างศักยภาพเยาวชนไทย โดยภายใต้บันทึกความเข้าใจระยะเวลา 2 ปีนี้ ไมโครซอฟท์จะเป็นผู้มอบโซลูชั่นระดับโลกเพื่อการทำงาน ดีไวซ์ และโมบายล์แอพพลิเคชั่นที่เคยคว้ารางวัลจากหลายเวที รวมไปถึงโครงการพัฒนาความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ ให้กับโรงเรียนมีชัยพัฒนาในจังหวัดบุรีรัมย์ และเครือข่ายโรงเรียนระดับชุมชนทั่วประเทศ

ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ทั้งนักเรียน ครู และสมาชิกในชุมชนสามารถเข้าถึงบริการ Office 365 ชุดซอฟต์แวร์ทำงานระบบคลาวด์ที่มีศักยภาพเทียบเท่าโซลูชั่นสำหรับองค์กร และยังมีความปลอดภัยสูง เหมาะสมสำหรับการใช้งานเพื่อการศึกษา ควบคู่ไปกับโครงการพัฒนาศักยภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการ Innovative Teachers, IT Academy หรือ YouthSpark ขณะที่กิจกรรม Virtual Mentoring และโครงการฝึกงานจะช่วยให้นักเรียนได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานจริง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ของไมโครซอฟท์ในประเทศไทย เพื่อให้พวกเขาพร้อมรับมือกับความท้าทายในชีวิตการทำงานต่อไป

โรงเรียนมีชัยพัฒนาจะได้รับแท็บเล็ต Surface 2 เพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงเนื้อหาทางการศึกษา รวมทั้งสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ บันทึกความเข้าใจครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนและชุมชนในพื้นที่ห่างไกล มีโอกาสได้ทดลองใช้งานโมบายล์โซลูชั่นที่ได้รับรางวัลในระดับสากลอย่าง Microsoft Education Delivery และ Nokia Data Gathering ภายใต้โครงการนำร่อง เพื่อเข้าถึงเนื้อหาและเครื่องมือสนับสนุนการเรียนการสอน โดยนวัตกรรมทั้งหมดนี้จะกระจายไปยังโรงเรียนขนาดเล็กภายใต้การดูแลของสมาคมเครือข่ายโรงเรียนชุมชน (โรงเรียนขนาดเล็ก) ประเทศไทย โดยตั้งเป้าที่จะเข้าถึงโรงเรียนจำนวน 46 แห่ง ภายในเดือนกันยายน ปี 2558

“ไมโครซอฟท์ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาการศึกษาอย่างทั่วถึงทั้งระบบมาโดยตลอด และผลงานที่ผ่านมาของสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนในด้านนี้ก็ถือว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง” นายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “บันทึกความเข้าใจฉบับล่าสุดนี้ จะเปิดโอกาสให้ทางสมาคมได้สัมผัสกับอุปกรณ์และโซลูชั่นระดับโลกที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อเสริมศักยภาพในการจัดการการศึกษา รวมถึงกิจกรรมสนับสนุนรูปแบบต่างๆ ภายใต้โครงการ YouthSpark ซึ่งที่ผ่านมาได้เสริมสร้างพัฒนาการให้กับเยาวชนกว่า 8 ล้านคนในประเทศไทย และกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก”

ในฐานะองค์กรที่มุ่งหวังพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของประเทศให้ดีขึ้น สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนมีความพยายามที่จะเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในชีวิตให้กับเยาวชนและผู้นำระดับชุมชนทั่วประเทศนับแสนคน โดยที่ผ่านมา ทางสมาคมได้ร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในการให้ความรู้ด้านไอที และการผนึกเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียนมีชัยพัฒนา

คุณมีชัย วีระไวทยะ นายกสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ทางการศึกษาของเราคือการสร้างศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีพ โดยให้สมาชิกในชุมชนมีโอกาสได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวนี้ และไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มนักเรียนเท่านั้น ซึ่งโรงเรียนมีชัยพัฒนาถือเป็นหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนถึงแนวคิดนี้ โดยนอกจากการศึกษาในหลักสูตรที่เรามอบให้กับนักเรียนแล้ว เรายังเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้ทักษะต่างๆที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตจริงด้วย เพื่อให้นักเรียนของเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืน”

“เนื่องจากการเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต และทักษะทางไอที เป็นสิ่งที่โรงเรียนของเราให้ความสำคัญ แนวคิดด้านการศึกษาของไมโครซอฟท์จึงจะยิ่งช่วยให้เราสามารถเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างเสริมความรู้ความสามารถและพัฒนานวัตกรรมต่อไปในอนาคต” คุณมีชัย กล่าวเสริม

นอกเหนือจาก Office 365 และโครงการนำร่องอื่นๆแล้ว ภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้ หลายโรงเรียนจะมีโอกาสได้ใช้งานโมบายล์โซลูชั่นที่พัฒนาโดยไมโครซอฟท์ ดีไวซ์ โดยแอพพลิเคชั่น Microsoft Education Delivery จะช่วยให้บุคลากรครูได้เข้าถึงเนื้อหาการเรียนการสอนคุณภาพสูงผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องเพื่อนำมาฉายขึ้นจอภาพในห้องเรียนได้ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ครูยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเก็บข้อมูลด้านต่างๆ นอกสถานที่ได้ผ่าน Nokia Data Gathering

“โซลูชั่นทั้งสองได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนการพัฒนาทางสังคมได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในชุมชนหลายแห่งทั่วโลก” ตัน เหม่ย หลิง ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคมประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไมโครซอฟท์ ดีไวซ์ กล่าว “นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2547 Microsoft Education Delivery ได้สนับสนุนการศึกษาของนักเรียนกว่า 700,000 คน และครูอีกกว่า 16,000 คน ในโรงเรียน 2,500 แห่งใน 12 ประเทศ และยังมีองค์กรถึง 300 แห่งใน 4 ทวีปทั่วโลกที่นำ Nokia Data Gathering ไปใช้ในโครงการเพื่อการแก้ปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง โรคระบาด หรือการยกระดับคุณภาพการศึกษา ดังเช่นในประเทศไทย”

ความร่วมมือกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวต่อไปของไมโครซอฟท์ในการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘We Make 70 Million Lives Better’ โดยเมื่อเร็วๆนี้ ไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อมอบบริการ Office 365 ให้กับนักเรียน 8 ล้านคน และครู 4 แสนคนทั่วประเทศ ทั้งยังได้เปิดตัวโครงการนำร่อง สมาร์ท คลาสรูม ที่ดำเนินการร่วมกับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี และโรงเรียนวรราชาทินัดดามาตุวิทยาอีกด้วย

“เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเทคโนโลยีถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาการศึกษา และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกับ สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้โรงเรียนขนาดเล็กได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง เพราะว่านักเรียนทุกคนควรที่จะได้รับโอกาสทางการศึกษา เพื่อเสริมศักยภาพของตนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม” นายฮาเรซ กล่าวปิดท้าย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มีอะไรใหม่ พร้อมราคาไทย ขายถูกลงนะ!
• 
  realme ประเทศไทยประกาศชัด realme GT 7 Pro จะใช้ Snapdragon 8 Elite รุ่นแรกในไทย

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่