มารู้จัก Google Chromebook คอมพิวเตอร์พกพาจาก Google กันหน่อยดีไหม?

หลายๆ คนคงอาจเคยได้เห็นหรือได้ยินชื่อของ Chromebook คอมพิวเตอร์พกพาจาก Google กันมาบ้างแล้ว ซึ่งรูปลักษณ์หน้าตาภายนอกของเจ้า Chromebook นี้หากมองผ่านๆ แล้วแทบไม่มีความแตกต่างจาก Notebook ทั่วๆ ไปแต่อย่างใด ดังนั้นอาจมีผู้ใช้งานหลายๆ คนที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารด้าน IT หรือเป็นผู้ใช้งานมือใหม่อาจจะเกิดข้อสงสัยว่า ตกลงแล้วเจ้า Chromebook ที่ว่านี้มันมีความแตกต่างอย่างไรจาก Notebook ทั่วไป และ Chromebook นี้เป็นอะไรกันแน่? เรามีคำตอบที่สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ มาฝากกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  realme 14 5G series เจ้าของฉายา Performance Dominator จัดเต็มประสิทธิภาพ เปิดราคาแล้ว
• 
  เจาะลึกคุณสมบัติเด่น 5 รุ่นสมาร์ทโฟนราคาเข้าถึงง่าย ทนทาน แบตอึด กล้องสวย

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

Chromebook คืออะไร?

จริงๆ แล้วเจ้า Chromebook จาก Google นี้ก็คือ คอมพิวเตอร์พกพาแบบ Notebook ทั่วไปนั้นเอง แต่อาจมีข้อแตกต่างในรายละเอียดด้านดีไซน์และสเปกของตัวเครื่องอยู่บ้าง และในขณะที่ตัวของ Chromebook นั้นจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า "Chrome OS" ที่พัฒนาขึ้นมาจาก Google ตั้งแต่เปิดเครื่อง และนอกจากนี้ทาง Google ยังได้วางตำแหน่งของ Chromebook ในตลาดคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในช่วงราคาระดับ หลักพันปลายๆ - หลักหมื่นต้นๆ เพื่อต้องการที่จะให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย

แล้ว Chromebook ต่างจาก Notebook ทั่วไปอย่างไร? 

หากมองกันที่ภายนอกแล้วอาจเรียกได้ว่าแทบจะแยกกันไม่ออกเลยทีเดียวว่า เครื่องไหนคือ Notebook และเครื่องไหนคือ Chromebook กันแน่ นั้นเป็นเพราะว่า Chromebook มีความแตกต่างจาก Notebook ทั่วไป เพียงตรงระบบปฏิบัติการที่ใช้บนตัวเครื่องเท่านั้นเอง ซึ่ง Chromebook จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Chrome OS ที่พัฒนาขึ้นจาก Google แต่ในขณะที่ Notebook ทั่วๆ ไปจะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows/Linux เท่านั้น และยังไม่นับรวม MacBook ของ Apple ที่ใช้ Mac X OS ในการทำงานด้วยนั้นเอง

Chromebook เหมาะกับการใช้งานแบบไหน? 

แน่นอนว่าจากการที่ Google ว่าเป้าหมายในตลาดคอมพิวเตอร์ของ Chromebook ให้มีราคาที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ง่ายนั้น ก็ย่อมทำให้ชิ้นส่วนทางด้าน Hardware บน Google Chromebook ต้องถูกจำกัดไปด้วย แต่หากมองที่การใช้งานจริงๆ แล้วเหมือนว่าทาง Google ตั้งใจที่จะให้เป็นเช่นนี้ เนื่องจากการใช้งานส่วนใหญ่บน Chrome OS นั้นจะเน้นไปที่การทำงานร่วมกับระบบ Cloud Service ของ Google ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้ตลอดเวลาผ่านอินเตอร์เน็ต

และนั้นก็ทำให้ Chromebook ไม่จำเป็นต้องใส่ Hardware ระดับเทพมาแต่อย่างใด จากเหตุผลข้างต้นก็น่าจะตอบได้ว่าตัว Chromebook นั้นเหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปเช่น การพิมพ์และแก้ไขเอกสาร, การท่องอินเตอร์เน็ต, การเล่นโซเชียลเน็คเวิร์คเท่านั้น ไม่เหมาะกับการนำมาใช้งานด้านกราฟฟิกหนักๆ แต่อย่างใด 

คุ้มค่าไหมที่จะซื้อ Chromebook มาใช้งาน?

จริงๆ แล้วอาจจะตอบไม่ได้ว่า "คุ้มค่าไหม?" ที่จะซื้อ Chromebook มาใช้งานในตอนนี้ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ในการทำงานในชีวิตประจำวันของหลายๆ คนนั้นค่อนข้างมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ดังนั้นหากสนใจและกำลังที่จะซื้อ Chromebook สักเครื่องมาใช้งาน ควรพิจารณาจากการนำไปใช้งานของเราว่า ส่วนใหญ่แล้วเป็นอย่างไร และลองนำข้อดี-ข้อด้อยของ Chromebook ไปประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง น่าจะช่วยให้ได้คำตอบที่ดีได้

ข้อดีหลักๆ ของ Chromebook คือ

• เน้นการทำงานร่วมกับระบบ Cloud Service ทำให้มีความคล่องตัวในการทำงานเป็นอย่างมาก
• ไม่ต้องหาโปรแกรมมาลงให้วุ่นวาย เพราะบน Chromebook มี Chrome Web Store ให้เลือกซื้อแอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมต่างๆ ได้ตลอดเวลา
• ตัว Chrome OS จะทำการอัพเดทตัวเองอยู่ตลอดเวลาเมื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทำให้เพียงแค่ Log in Gmail ก็สามารถเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมต่างๆ ที่เคยติดตั้งไว้ได้ตามปกติ
• มีราคาประหยัดกว่า Notebook ค่อนข้างมาก แต่สามารถทำงานได้เท่าๆ กับ Notebook

ข้อด้อยหลักๆ ของ Chromebook คือ

• จากการที่ Chrome OS เน้นทำงานผ่านระบบ Cloud Service ของ Google ก็ทำให้จำเป็นที่จะต้องทำงานภายใต้แหล่งการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (WiFi, LAN) อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากไม่ได้อยู่ในจุดที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ การทำงานก็แทบทำไม่ได้เลยมีค่าเท่ากับศูนย์ทันที
• บน Chrome Web Store ยังมีแอพพลิเคชั่นและโปรแกรมการทำงาน ยังไม่ครอบคลุมการทำงานหลักๆ ได้มากนัก
• ไม่สามารถทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลทางกราฟฟิกระดับสูงได้

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับหลายๆ คนที่กำลังมีความสนใจในตัว Google Chromebook อยู่ หรือผู้ใช้งานคนอื่นที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์พกพามาใช้งานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราสักเครื่อง