OPPO N1 สมาร์ทโฟนกล้องหมุนได้พร้อมความหลากหลายในการใช้งาน

ในปัจจุปันที่สงครามตลาดสมาร์ทโฟนแข่งขันกันอย่างดุเดือด OPPO ก็เป็นหนึ่งแบนด์ไม่ไม่เพียงสร้างสมาร์ทโฟนออกมาโดยเน้นที่ราคาถูก หรือมีสเปคมากเข้าว่า แต่เราต้องการสร้างสมาร์ทโฟนตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภคในราคาที่สมเหตุสมผล ในปีที่ผ่านมาเรามี Find 5 สมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้ครบครันและได้รับการตอบสนองจากลูกค้าเป็นอย่างดี นั้นทำให้สร้างแรงบันคาลใจให้เราสร้างสมาร์ทโฟนตัวใหม่คือ OPPO N1 สมาร์ทโฟนที่บริษัทของเราได้ทำการทดสอบ ทดลองและใส่ใจอย่างมากเพื่อสร้างสมาร์ทโฟนที่ดีสำหรับทุกคน

ความพิถีพิถันในการผลิตของ OPPO N1 นั้นเราใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่ตัวเครื่องที่ออกแบบตามแนวคิด lined body design ด้วยการออกแบบจากลายเส้นที่โดยใช้อลูมิเนียมผสมกับโลหะเงินที่ผ่านการขัดเกลา เจียระไนกว่า 14 ขั้นตอน ตัดขอบด้านข้างเครื่องทำให้ N1 มีรูปลักษณ์ที่เพียวบาง จับได้กระชับมือ และลายเส้นอลูมิเนียมนี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่ตรงกรอบเท่านั้น มันขึ่นรูปทั้งแผ่นแล้วประกอบลงไปในตัวเครื่องทำให้ OPPO N1 ต่อแรงกระแทกจากอุบัติเหตุต่างๆ ได้

ส่วนของหน้าจอแสดงผลมีความละเอียด 5.9 นิ้วความละเอียด Full HD 1080p ให้ภาพที่ละเอียดคมชัดไม่วาจะรับภาพหรือ วิดีโอ เหนือขึ้นไปบนหนาจอเป็นนวัตกรรมที่ OPPO ภูมิใจนำเสนอนั้นก็คือกล้องที่สามารถหมุนได้ 206 องศา แล้วกล้องหมุนได้ 206 องศามันคืออะไร ถ้าจะอธิบายง่ายๆ มันคือกล้องที่สามารถใช้แทนได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง อีกทั้งเราสามารถปรับกล้องให้ได้องศาในสถานการณ์ต่างๆ

แล้วกล้องหมุนได้มันต่างจากกล้องอื่นๆ อย่างไร ก็เพราะสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ จะมีกล้องมาให้เรา 2 ตัวคือกล้องหน้าและกลั้องหลัง แต่กล้องทั้งสองจะมีความละเอียดไม่เท่ากันทำให้ภาพที่ถ่ายมานั้นคุณภาพไม่เหมือนกัน อีกทั้งมีนเป็นกันปิดกั้นโอกาสของผู้ใช้งาน เช่น เมื่อเรามีสมาร์ทโฟนกล้องหลังความละเอียดสูง แต่เราอยากถ่ายภาพตัวเองก็ต้องใช้กล้องหน้าของสมาร์ทโฟนตัวนั้นซึ่งคงจะใช้ได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้า N1 ไม่ว่าจะกล้องหน้าหรือหลังก็จะให้ความละเอียดที่ยอดเยี่ยม แถมเรายังใช้แฟลชกับกล้องหน้าทำให้ถ่ายภาพได้สวยเนียนได้มากกว่าเดิม

แล้วความแข็งแรงของกล้องที่หมุนได้จะเป็นอย่างไร เพราะหลายๆ คนคงไม่แน่ใจว่าถ้าเราหมุนกล้องมากๆ มันจะหลวมหรือจะหลุดไหม งั้นเรามาดูขั้นตอนการผลิตกล้องของ N1 กัน ภายในกล้องของ N1 ประกอบด้วยชิ้นส่วนถึง 67 ชิ้น ผ่านการประกอบอย่างพิถีพิถัน และยังผ่านการทดสอบการหมุนกว่า 1 แสนครั้งก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างเป็นปกติหหรือกล่าวคือก็หมายความว่าหากคุณหมุนไปเฉลี่ย 40 ครั้งต่อวัน คุณสามารถใช้งานได้ถึง 7 ปี กว่าจะถึงตอนนั้นคุณคงเปลี่ยนเครื่องใหม่อีกหลายเครื่อง

ด้านหลังของ N1 มีแผงควบคุมขนาด 3x4 เซนติเมตรสำหรับสั่งการฟังก์ชั่นต่างๆ ในชื่อ O-Touch ซึ่งมีแรงบันดาลใจมากจากส่วน touchpad ในโน๊ตบุคทั่วๆ ไป แล้วเราสร้าง O-Touch ขึ้นมาทำไม เพราะบางคนชอบใช้สมาร์ทโฟนแค่มือเดียว แต่ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ การใช้นิ้วโป้งเพื่อแตะสั่งการหน้าจอคงเป็นเรื่องยาก แต่เรายังมีนิ้วว่างๆ ที่จับด้านหลังเครื่องอยู่แล้ว เราจะทิ้งนิ้วพวกนั้นให้เปล่าประโยชน์ทำไมกันเมื่อมี O-Touch ที่ให้คุณสั่งการต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเลื่อนภาพ, ถ่ายรูป, ฟังเพลง, เลื่อนการใช้งานก็ทำได้ไม่แพ้การแตะจากด้านหน้า

ในส่วนของการจัดวางช่องเสียบต่างๆ เช่น USB port ช่องเสียบหูฟัง ลำโพง ฯลฯ โทรศัพท์ทั่วไปจะนำช่องเสียบเหล่านี้จัดวางไว้ในตำแหน่งที่กระจัดกระจายกันไป ทำให้ใช้งานลำบากเวลาเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายๆ ชิ้นพร้อมกันแต่ OPPO ไม่เคยมองข้ามจุดนี้ เราได้นำช่องต่างๆ เหล่านี้จัดวางไว้ในพื้นที่ส่วนเล็กๆ ด้านล่างของตัวโทรศัพท์ เพื่อความเรียบร้อยและสะดวกต่อการใช้งาน

เมื่อมีสมาร์ทโฟนที่มีวัสดุคุณภาพยอดเยี่ยมแล้วระบบภายในก็ต้องตอบสนองได้ดีไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้น OPPO จึงสร้าง Color OS ระบบปฎิบัติการที่สร้างมาตอบสนองการใช้งานของทุกคนได้อย่างหลากหลาย

กว่าที่จะเป็น Color OS ไม่ใช้เรื่องง่ายเพราะทางวิศวกรของ OPPO ต้องใช้เวลาใช้นักพัฒนากว่า 243 คนปรับปรุงระบบกว่า 10 เดือน มีนวัตกรรมใหม่ๆ มาจดสิทธิบัตรเพิ่ม 43 ใบ ผ่านมือคนทดสอบกว่า 20,000 คน จนได้ออกมาเป็น Color OS ตัวนี้

เริ่มจากหน้า Desktop ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดเริ่มจาก ICON ไร้กรอบสีเหลี่ยมที่ให้ความรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวา นอกจากนั้นยังสามารถเลือกเปลี่ยน Wallpaper, Theme, Widget, Effects ได้อย่างอิสระ

ต่อมาคือ Live Weather Wallpaper ที่สามารถนำสภาพอากาศต่างๆ ทั้งฝน, หิมะ, แดดออก หรือหมอกซ้อนในหน้าแสดงผลของเราหรือจะตั้งให้สภาพอากาศบนหน้าจอเหมือนสภาพอากาศจริงๆ ก็ทำได้

Dandelion และ Rain

Fog และ Snow

Cloudy และ Thundershower

ต่อมาคือ O+Lab ที่เป็นส่วนที่เพิ่มฟังก์ชั่นเด่นๆ ที่หน้าจอหลัก อย่างเช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง, ไดอารี่รูปภาพ และยังจะพัฒนาฟังก์ชั่นต่างๆ เพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย

ที่ขอบซ้ายบนของจอเมื่อใช้นิ้วลากลงมาจะเป็นส่วนของ Gesture panel สำหรับวาดเส้นสายเพื่อเข้าฟังก์ชั่น เช่น วาด V เพื่อเปิดไฟฉาย หรือกำหนดเส้นสายเพื่อเป็นทางลัดเข้าฟังก์ชั่นได้

ต่อมาเป็นเรื่องการใช้งานการโทรและข้อความ Color จะเพิ่มความง่ายในการติดสื่อสารอย่างหลากหลายยกตัวอย่าง เช่น

1. กดหมายเลยแต่ละตัวแล้วจะแมทกับรายชื่อผู้ติดต่อที่มีอยู่ในเครื่อง

2. ถ้าหมายเลขที่กดตรงกับรายชื่อผู้ติดต่อที่มีอยู่ในเครื่องก็จะมีตัวเลือกให้เราโทรออก ส่งข้อความหรือดูข้อมูลต่างๆ

3. หลังจากกดหมายเลขสามารถสไลด์ไปทางขวาเพื่อส่งข้อความได้ทันที

4. เมื่อเราโทรหรือส่งข้อความผิดสามารถยกเลิกการได้

5. แสดงภาพรายชื่อโทรเข้าแบบเต็มจอ

6. แสดงกรอบข้อความขนาดใหญ่เมื่อเราไม่ได้รับสายและสามารถเลือกโทรหรือส่งข้อความกลับได้

7. Dialpad Tone Settings ตั้งค่าปุ่มกดเป็นเสียงดนตรีต่างๆ

8. สายเรียกเข้าที่ไม่คุ้นเคยจะไม่ส่งเสียงเรียกเข้าประมาณ 5 วินาที หลังจากนั้นถึงส่งเสียง

ส่วนของความปลอดภัยใน OPPO

สำหรับเรื่องความปลอดภัย Color OS ใส่ใจส่วนนี้มาก โดยสร้างโหมด Security Service ขึ้นมาดูแลตรงนี้โดยเฉพาะซึ่งสามารถแบ่งการใช้งานหลักๆ เป็น

Guest mode เพื่อความเป็นส่วนตัวของคุณโดยตั้งรหัสผ่านสำหรับการใช้งานของคุณและบุคคลอื่นๆ

Application encryption ตั้งล็อกแอพพลิเคชั่นของคุณ

Holiday Mode ในวันหยุดของคุณสามารถตั้งได้ว่าจะเลือกรับเบอร์ใครบ้างได้

Notification center คุณสามารถเลือกได้ว่าให้แจ้งหรือไม่แจ้งฟังค์ชันใน Notification

Data saving โปรแกรมช่วยไม่ให้แอพฯ รันเองซึ่งก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงาน

นอกจากระบบที่ดีแล้ว OPPO N1 ยังมีการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่าย, ระบบเชื่อมต่อ NFC รูปภาพ, วิดีโอด้วยความเร็วสูง หรือ USB On-The-Go ที่สามารถใช้เชื่อมต่อแฟลช์ไดร์แล้วดูข้อมูลได้ทันที หรือจะใช้เชื่อมต่อ เมาส์, คีย์บอร์ด สำหรับใช้งานบน N1 ก็ทำได้

ต่อมาเป็นเรื่องกล้อง 13 ล้านพิกเซลที่มีความสามารถหมุนได้ 206 องศาสามารถใช้งานเป็นกล้องหน้าได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมสนุกไปกับนวัตกรรมการถ่ายภาพ อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพ โดยฟังก์ชันการถ่ายภาพที่หลากหลาย เช่น โหมด HDR, Panorama, พร้อมลูกเล่นหลายอย่างเช่น Beauty Plus 3.0, Slow Shutter

ทั้งหมดนี้เป็นความสามารถคร่าวๆ ของ OPPO N1 สำหรับคนที่สนใจสามารถจับจองได้ที่ Shop ของ OPPO และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ