แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 20 พฤศจิกายน 2556
บริษัท แคนนอน ไอที โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย ) จำกัด ผู้นำเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก เผยสุดยอดเทคโนโลยี ‘ระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ หรือ Mixed Reality (MR) System’ ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่งานเมทัลเลกซ์ 2013 โดยระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ หรือระบบ MR นี้เป็นเครื่องมือสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงภาพในโลกเสมือนเข้ากับสภาพแวดล้อมจริงที่ตามองเห็นได้อย่างแนบเนียน พร้อมแสดงเป็นภาพสามมิติในขนาดเท่าของจริงให้ผู้ใช้ที่สวม Head-Mounted Display (HMD) ของแคนนอนสามารถมองเห็นและตอบโต้กับวัตถุได้จากทุกมุมมอง ช่วยลดขั้นตอน ประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์

นายฮิเดซาโตะ โคดามะ ประธานบริษัทแคนนอน ไอที โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงการเปิดตัวระบบ MR ครั้งนี้ว่า“ปัจจุบันวงจรอายุของผลิตภัณฑ์ทุกชนิดล้วนมีแนวโน้มที่สั้นลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่อุตสาหกรรมการผลิตจะต้องสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้อย่างเหมาะสมและทันเวลา ระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ หรือระบบ MR ของแคนนอนทำให้ผู้ใช้มองเห็นภาพ CG (Computer-generated) รวมเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง โดยไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ในตำแหน่งหรือกำลังเคลื่อนที่ในทิศทางใดก็สามารถเห็นเป็นภาพแบบสามมิติในขนาดเท่าของจริงและตอบโต้กับผู้ใช้ได้จากทุกมุมมอง ทำให้ผู้ใช้สามารถประเมินผลงานการออกแบบและประสิทธิภาพการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ช่วยลดจำนวนการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ และยังช่วยประหยัดเวลาในขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่วยลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์”
“แคนนอนได้เลือกเปิดตัวระบบ MR System ในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานผลิตที่ใหญ่และมีศักยภาพแห่งหนึ่งของเอเชีย โดยระบบ MR System จะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัท แคนนอน ไอที โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและพัฒนาระบบ MR ทั้งนี้ราคาของระบบ MR จะแตกต่างกันไปตามองค์ประกอบและความซับซ้อนของระบบ โดยจะมีการออกแบบโปรแกรมตามความต้องการและลักษณะการใช้งานของลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ แคนนอนและลูกค้าจะออกแบบและพัฒนาโปรแกรมไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ระบบ MR เป็นประโยชน์และเอื้อกับการทำงานของลูกค้าได้มากที่สุด”

ระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ หรือ Mixed Reality (MR) System คือ เทคโนโลยีการประมวลผลภาพที่สามารถรวมโลกจริงและโลกเสมือนเข้าได้ด้วยกันได้อย่างแนบเนียน จึงเกิดเป็นภาพที่มีรายละเอียดชัดเจนของสภาพแวดล้อมจริงบวกกับภาพ CG ที่สามารถสร้างและเปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการ จึงมอบประสบการณ์การสร้างสรรค์ภาพที่ก้าวล้ำไปกว่าเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) ที่ทำได้เพียงการสร้างภาพสภาพแวดล้อมโดยใช้ CG เท่านั้น ทั้งนี้ยังแตกต่างจากเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ที่ปัจจุบันใช้อยู่ในวงการเกมส์ โฆษณาและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ตรงที่ภาพที่เกิดจาก AR จะเป็นการวางซ้อนภาพ CG บนสภาพแวดล้อมจริงเท่านั้น แต่ภาพจากระบบ MR จะทำให้ผู้ใช้มองเห็นภาพ CG ขนาดเท่าของจริงในสภาพแวดล้อมจริงจากทุกมุมมองได้อย่างไร้รอยต่อ จึงทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกับภาพ CG นั้นมีอยู่จริง ยิ่งกว่านั้นระบบ MR ยังสามารถออกแบบให้ผู้ใช้โต้ตอบกับภาพเสมือนได้ โดยจะมีไม้เซ็นเซอร์ใช้ถือเพื่อรับการเคลื่อนไหวของมือ และเลือกชิ้นส่วนที่ต้องการโต้ตอบได้ตามโปรแกรมที่ตั้งเอาไว้
การทำงานของระบบ MR นั้นเริ่มจากกล้องวิดีโอสองตัวที่ติดอยู่บน Head-Mounted Display (HMD) หรืออุปกรณ์แสดงภาพที่ผู้ใช้ต้องสวมครอบอยู่บนศีรษะ กล้องวิดีโอสองตัวนี้จะอยู่ที่ด้านหน้า ทำหน้าที่จับภาพจริงที่ตามองเห็นเพื่อส่งไปยังคอมพิวเตอร์ ณ ตำแหน่งที่กำหนดให้มีภาพ CG เกิดขึ้นจะมีเครื่องหมายในกรอบสี่เหลี่ยมวางอยู่ตามจุด โดยระบบจะคำนวณและวัดตำแหน่งของผู้ใช้จากเครื่องหมายที่กล้องสองตัวนั้นจับภาพได้รวมกับข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้จากเซ็นเซอร์ที่ติดอยู่บน HMD ซึ่งระบบจะทำการจัดเรียงตำแหน่งที่ถูกต้อง และแสดงภาพจริงที่รวมเข้ากับภาพเสมือนบนจอขนาดเล็กใน HMD ภาพที่แสดงอยู่บนจอขนาดเล็กนั้นจะถูกขยายให้ชัดเจนขึ้นด้วยปริซึมทรงอิสระ (Free-form Prism) ที่สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้ ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับภาพสามมิติที่มีความคมชัดและมีขนาดสมจริงมากที่สุด

นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน ในประเทศญี่ปุ่นมีผู้ซื้อระบบ MR ของแคนนอนไปใช้แล้วมากกว่า 20 ยูนิต โดยลูกค้าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมถึงสถาบันวิจัยในมหาวิทยาลัย ซึ่งได้นำระบบ MR ไปใช้ในการตรวจสอบการออกแบบ ทดสอบสถานที่ผลิต และแสดงผลการวิเคราะห์ โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในเรื่องของตัว HMD ที่มีความสมบูรณ์ระดับสูง และคุณภาพของภาพ กล่าวคือ เกิดการเหลื่อมของภาพน้อยมากทำให้ภาพมีความสมจริง ไม่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว และยังสามารถนำไปใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ได้ง่ายอีกด้วย
นอกเหนือจากงานออกแบบผลิตภัณฑ์แล้ว ระบบ MR ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย อาทิ สามารถนำไปใช้ในงานออกแบบการวางผังเครื่องจักรในอุตสาหกรรมการผลิตให้มีประสิทธิภาพและให้ประสิทธิผลที่สูงที่สุด โดยผู้สามารถเดินชมโรงงาน ดูสายการผลิต และระบบความปลอดภัยที่ออกแบบไว้ได้ หรือนำไปใช้ในงานออกแบบตกแต่งภายใน ให้ลูกค้าสามารถเห็นแบบบ้านได้อย่างสมจริงมากที่สุด หรือแม้แต่ในพิพิธภัณฑ์ระบบ MR ก็สามารถทำให้การจัดแสดงมีความน่าสนใจและโต้ตอบกับผู้ชมได้ แคนนอนยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายการใช้งานระบบ MR ให้กว้างขึ้น

ขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมทดสอบและสัมผัสกับเทคโนโลยีระบบ MR ล่าสุดของแคนนอนได้ที่ “งานเมทัลเลกซ์” บูธหมายเลข SB 37 โซนซุปเปอร์โดม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ วันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2556 เวลา 10.00-19.00 น. หรือติดต่อขอเข้าชมเป็นหมู่คณะได้ที่ ณิชากร อุปพงษ์ โทร.087-683-8144 และผู้ที่สนใจระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ (MR) สามารถติดต่อได้ที่ info@canon-its.co.th โทรศัพท์ 0-2105-6380
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.canon.co.th วันที่ : 20 พฤศจิกายน 2556
HUAWEI FreeClip 2 หูฟังไร้สาย Clip-On เสียงดีขึ้น เบาขึ้น และคุยสายได้เนียนขึ้น
Samsung เปิดตัว 60W Power Adapter เตรียมการ Galaxy S26 Series และอุปกรณ์อื่นๆ ในปี 2026
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ
realme Watch 5 สมาร์ตวอทช์ดีไซน์คุ้นๆ เหมือนค่ายผลไม้ แต่ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว
HUAWEI FreeBuds Pro 5 หูฟังไร้สาย TWS มาพร้อมชิป Kirin A3 รับรองเสียง Lossless สตีมมิ่ง 4.6Mbps
รีวิว ASUS V500MV พีซีไซส์เล็ก สเปค Core i5 Gen 13 ตอบโจทย์ออฟฟิศยุคใหม่
หลุดสเปค Redmi Note 16 Pro+ จัดเต็มกล้อง 200MP แบตฯ 7,500mAh เตรียมท้าชน Realme 16 Series ปีหน้า
OPPO Pad SE รุ่น Matte Display เริ่มต้นเพียง 8,xxx วางจำหน่ายแล้ววันนี้
Nubia V80 Design ได้หน้าจอกว้างขึ้น 6.75 นิ้ว และเพิ่ม Dynamic RAM ได้สูงสุด 20GB
OnePlus Ace 6T ประเดิมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 5 แบตเตอรี่ใหญ่มาก 8300mAh