ทีม Lotus F1 จับมืออีเอ็มซี ขับเคลื่อนเต็มสูบสู่เส้นทางแชมป์โลก

ทีม Lotus F1 และอีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัททั้งสองได้ร่วมมือกันสร้างโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นหัวใจสำคัญเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของทีม Lotus F1 กับการคว้าตำแหน่งแชมป์โลกภายในปี 2558 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ทีม Lotus F1 จะต้องปรับปรุงทรัพยากรทั้งหลายที่มีอยู่เพื่อรับมือกับความท้าทายที่เป็นผลจากการบังคับใช้กฎระเบียบใหม่ของฟอร์มูล่าวันในปีหน้า โดยนับเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านดีไซน์ครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการเริ่มใช้ตัวถังรถแบบ Monocoque

ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ผู้สร้างรถแข่งฟอร์มูล่าวันจะต้องเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ V8 ที่ใช้กันโดยทั่วไป ไปสู่เครื่องยนต์ไฮบริด V6 แบบเทอร์โบชาร์จรุ่นใหม่ ซึ่งมีสมรรถนะและประสิทธิภาพสูงกว่า รวมถึงการผนวกรวมเทคโนโลยี Energy Recovery System (ERS) ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อดีไซน์ของรถแข่งและงานวิศวกรรม รวมไปถึงกำลังของเครื่องยนต์ ระบบแอโร่ไดนามิกส์ และการใช้เชื้อเพลิง

ทีม Lotus F1 มีแผนที่จะปรับรื้อโครงสร้างพื้นฐานไอทีทั้งหมด ทั้งในส่วนของระบบที่ติดตั้งอยู่ข้างสนามและสำนักงานใหญ่ในเมืองเอ็นสโตน สหราชอาณาจักร เพื่อรับมือกับความท้าทายในครั้งนี้ ควบคู่ไปกับการสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันในแง่มุมใหม่ๆ ด้วยเหตุนี้ ทีม Lotus F1 จึงได้ผนึกกำลังร่วมกับอีเอ็มซี ภายใต้โครงการพัฒนารถแข่งสำหรับปี 2557 และทีม Lotus F1 จะเริ่มปรับใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายสำหรับระบบคลาวด์ภายในองค์กร (Private Cloud) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ จัดการ และปกป้องข้อมูล

การออกแบบรถแข่งรุ่นใหม่สำหรับปี 2557 นับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟอร์มูล่าวัน นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรถแข่งแล้ว ยังมีการติดตั้งเครือข่ายเซ็นเซอร์ที่ซับซ้อนกว่า200 จุด ซึ่งจะจัดส่งข้อมูลมากกว่า 25 เมกะไบต์ต่อรอบสำหรับรถแข่งแต่ละคันอีกด้วย ในกีฬาแข่งรถ เวลาเพียงเศษหนึ่งส่วนร้อยวินาทีก็อาจสร้างความแตกต่างระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้ ด้วยเหตุนี้ ความสามารถในการเก็บรวบรวมข้อมูล จัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมใช้งานผ่านระบบคลาวด์ และวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลหรือบิ๊กดาต้า (Big Data) ได้อย่างรวดเร็ว จึงนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งอย่างแท้จริง

• ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานไอที

ทีม Lotus F1 จะติดตั้งระบบ VCE Vblock ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ทั้งในส่วนของการประมวลผล เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูลจากซิสโก้, อีเอ็มซี และวีเอ็มแวร์ โดยระบบดังกล่าวจะติดตั้งอยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ที่เมืองเอ็นสโตน เพื่อรองรับโปรแกรม Computer-Aided Design (CAD) ของทีม รวมไปถึงโซลูชั่น Microsoft Dynamics Enterprise Resource Planning (ERP)

นอกจากนี้ อีเอ็มซีจะติดตั้งแพลตฟอร์มคลาวด์สตอเรจ EMC®Atmos®ซึ่งใช้อ็อบเจ็กต์ในการจัดเก็บข้อมูล รวมถึงการเก็บข้อมูลระยะยาว และการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างของทีม Lotus F1 ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก และจะมีการติดตั้งระบบสตอเรจ EMC Data Domain®พร้อมความสามารถในการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูลในโรงงาน และอุปกรณ์ Cloud Tiering Appliance™ สำหรับการแบ่งระดับชั้นของไฟล์ CAD อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไฟล์เหล่านั้นไปยังระบบคลาวด์ ซึ่งนับเป็นมาตรการสำคัญสำหรับการใช้งานพื้นที่สตอเรจหลักให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประหยัดค่าใช้จ่าย และลดความจำเป็นในการแบ็คอัพข้อมูล

เพื่อเพิ่มความสะดวกในการแชร์ไฟล์ CAD อย่างปลอดภัย และการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานและคู่ค้า ทางทีม Lotus F1 จะใช้โซลูชั่น Syncplicity®ของอีเอ็มซีสำหรับการซิงค์และแชร์ไฟล์ พร้อมด้วยเทคโนโลยี Documentum® Information Rights Management (IRM) ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจสอบติดตามและปกป้องเอกสาร ข้อความ และไฟล์แนบที่อยู่ระหว่างการรับส่ง รวมไปถึงข้อมูลที่จัดเก็บ และข้อมูลที่ส่งมอบเสร็จแล้ว ส่วนระบบข้างสนามจะใช้ VCE Vblock ชุดที่สอง พร้อมโซลูชั่น VNX®จากอีเอ็มซี เพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานเดสก์ท็อปแบบเวอร์ช่วล และแอพพลิเคชั่นสำหรับการประมวลผลข้อมูลในสนามแข่ง ภายใต้สัญญาสี่ปี อีเอ็มซีจะสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่เหนือชั้น GENII Business Exchange ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรด้านไอทีและเทคนิคของทีม Lotus F1 นอกเหนือไปจากแพ็คเกจการเลี้ยงรับรองและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  OPPO Pad 3 Pro แท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3
• 
  รีวิว OPPO Enco Air4 สัมผัสเสียงที่ชัดเจนและไร้สิ่งรบกวน พร้อมฟีเจอร์ ANC

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่