แก็ดเจ็ต (Gadget)  |   วันที่ : 14 พฤษภาคม 2556

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

อะโดบี เปิดตัว Adobe® Creative Cloud™ บริการระดับชั้นนำสำหรับบุคลากรด้านครีเอทีฟ โดยมีการเพิ่มบริการ Creative Cloud สำหรับบุคคล และบริการ Creative Cloud สำหรับองค์กร นอกเหนือจากบริการ Creative Cloud สำหรับทีมงาน ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 นับเป็นการเติมเต็มทางเลือกสำหรับสมาชิก Adobe Creative Cloud อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ในประเทศไทย ทั้งนี้ Adobe Creative Cloud เป็นบริการแบบสมัครสมาชิกที่ประกอบด้วยเครื่องมือและบริการต่างๆ กว่า 30 รายการ รองรับการสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ และนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น สื่อสิ่งพิมพ์, เว็บ, โมบายล์แอพ, วิดีโอ และภาพถ่าย

พร้อมกันนี้ ในการประชุม Adobe MAX, The Creativity Conference ที่จัดขึ้นที่นครลอสแองเจลิส อะโดบีได้เปิดตัวการอัพเดตที่สำคัญสำหรับ Creative Cloud ด้วยการเปิดตัวเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นรุ่นใหม่ รวมถึง Adobe Photoshop® CC, InDesign® CC, Illustrator® CC, Dreamweaver® CC และ Premiere® Pro CC เครื่องมือเดสก์ท็อปของอะโดบี ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า Creative Suite (CS) ตอนนี้ได้ถูกนำเสนอภายใต้ แบรนด์ CC เพื่อแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมเหล่านี้เป็นส่วนประกอบหลักใน Creative Cloud และได้ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการสร้างสรรค์แนวใหม่ภายใต้การเชื่อมต่อ นอกจากนี้ “Behance” ซึ่งเป็นชุมชนครีเอทีฟออนไลน์ชั้นนำระดับโลก ได้ถูกผนวกรวมเข้ากับ Creative Cloud เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดแสดงผลงาน รับคำติชมเกี่ยวกับโครงงาน และเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก

“ความสามารถที่ก้าวล้ำของ Adobe Creative Cloud ส่งผลให้บริการนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในชุมชนครีเอทีฟทั่วโลก โดยสมาชิกที่เสียค่าบริการกว่าห้าแสนราย และสมาชิกฟรีกว่า 2 ล้านราย ได้ลงทะเบียนเข้าใช้บริการ Creative Cloud นับตั้งแต่ที่เริ่มเปิดตัวทั่วโลกเมื่อเดือนเมษายน 2555” วิคกี้ สกิ๊ปป์ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอะโดบี กล่าว “Creative Cloud ปฏิรูปรูปแบบการทำงานของบุคลากรด้านครีเอทีฟและองค์กรธุรกิจอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดพิมพ์เผยแพร่ผลงาน การนำเสนอบริการที่เหนือกว่าเพื่อสร้างเว็บไซต์, โมบายล์แอพ, สิ่งพิมพ์บนแท็บเล็ต, แฟ้มผลงานออนไลน์ และเนื้อหาคอนเทนต์สำหรับสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย”

เอียน บิคเกอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Band Pte Ltd บริษัทครีเอทีฟที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชั่นการตลาดแบบครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้ากลุ่มแรกที่ริเริ่มใช้ Creative Cloud ในสิงคโปร์ กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทครีเอทีฟ B2B ที่นำเสนอโซลูชั่นการสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ เราจำเป็นที่จะต้องเข้าถึงเครื่องมือครีเอทีฟล่าสุด Adobe Creative Cloud มอบสิ่งที่เราต้องการที่ทำให้เราก้าวหน้าคู่แข่งอย่างแท้จริง ทั้งการอัพเดต อัพเกรด และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่พร้อมใช้งานทันที โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม”

นอกจากนี้ อะโดบียังเปิดเผยว่าบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์ครีเอทีฟบน Creative Cloud แม้ว่าผลิตภัณฑ์ Adobe Creative Suite® 6 จะยังคงได้รับการสนับสนุนและมีวางจำหน่ายต่อไป แต่บริษัทฯ ไม่มีแผนที่จะวางจำหน่าย Creative Suite อีกต่อไป หรือผลิตภัณฑ์ CS อื่นๆ โดยวิคกี้ สกิ๊ปป์ อธิบายว่า “การทุ่มเทให้กับการพัฒนา Creative Cloud ไม่เพียงช่วยให้อะโดบีสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ยังขยายขอบเขตการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้แก่ชุมชนครีเอทีฟ”
อะโดบีเพิ่มความสะดวกในการย้ายไปสู่ Creative Cloud ด้วยโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ทีมงาน และลูกค้าองค์กร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.adobe.com/sea อะโดบีจะยังคงจำหน่ายใบอนุญาตใช้งานสำหรับผลิตภัณฑ์ CS6 ทั้งหมดผ่านการดาวน์โหลดทางออนไลน์จาก adobe.com และตัวแทนจำหน่าย

Adobe Creative Cloud ขับเคลื่อนเวิร์กโฟลว์ครีเอทีฟที่ไร้รอยต่อ
การอัพเดตสำคัญสำหรับ Adobe Creative Cloud ในครั้งนี้จะรองรับการนำเสนอทุกสิ่งไว้ในที่เดียวกัน ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับกระบวนการทำงานครีเอทีฟ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย โดยมีการจัดหาเครื่องมือและบริการรุ่นล่าสุดอย่างที่ลูกค้าต้องการ พร้อมด้วยประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันและการแชร์ผลงานร่วมกับชุมชนครีเอทีฟ (Creative Community)

อัพเดทฟีเจอร์หลักๆ มีดังนี้:

  • การเข้าใช้งานบนเดสก์ท็อป, เว็บ และอุปกรณ์พกพา Creative Cloud ช่วยให้ผู้ใช้ติดต่อกับทีมงานและชุมชนครีเอทีฟได้ตลอดเวลาผ่านทางคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, เว็บไซต์ และอุปกรณ์พกพา ด้วย Creative Cloud โลกครีเอทีฟทั้งหมดของคุณจะมีศูนย์กลางที่รวบรวมไอเดีย, ไฟล์, ฟอนต์, การตั้งค่า, การแจ้งเตือน และสมาชิกทั้งหมดจะได้รับการเชื่อมต่ออย่างเหมาะสม ผู้ใช้จะสามารถเชื่อมโยงโฟลเดอร์กลุ่มเข้าด้วยกันเพื่อรองรับการทำงานร่วมกัน สามารถติดตามอัพเดตและเสนอข้อคิดเห็นสำหรับไฟล์ที่ใช้ร่วมกัน เชื่อมต่อกับ Behance เพื่อรองรับการทำงาน และรับข้อความแจ้งเตือนเมื่อซอฟต์แวร์อัพเดตพร้อมใช้งาน ดาวน์โหลดอัพเดตล่าสุด และเข้าถึงสี ฟอนต์ และการตั้งค่าที่คุณต้องการทุกที่ทุกเวลา
  • การผนวกรวมเข้ากับชุมชนครีเอทีฟชั้นนำของโลก เนื่องจาก Behance ได้ถูกผนวกรวมเข้ากับ Creative Cloud ดังนั้นสมาชิกจึงสามารถจัดพิมพ์เผยแพร่ผลงาน ติดตามครีเอทีฟคนอื่นๆ เผยแพร่ผลงานที่กำลังทำอยู่จากภายใต้โปรแกรม CC ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรับฟังคำติชมจากครีเอทีฟกว่า 1.4 ล้านคนทั่วโลกซึ่งเข้าร่วมในเครือข่าย Behance
  • ซิงโครไนซ์ จัดเก็บ แชร์ และทำงานร่วมกัน ไฟล์และทรัพยากรทั้งหมดจะถูกซิงโครไนซ์โดยอัตโนมัติระหว่างเดสก์ท็อป คลาวด์ และอุปกรณ์พกพา นักออกแบบจะสามารถถ่ายภาพบนเครื่อง iPad จากนั้นก็ใช้ Photoshop Touch ในการปรับแต่งภาพถ่ายขณะกำลังเดินทาง แล้วเรียกใช้ไฟล์ดังกล่าวผ่านทางคลาวด์ และใช้ Photoshop CC บนเครื่อง Mac หรือพีซี Windows เพื่อปรับแต่งภาพถ่าย นักออกแบบสามารถกำหนดโฟลเดอร์ที่ใช้ร่วมกัน และเชิญให้คนอื่นๆ ทำงานร่วมกันบนไฟล์ได้ ข้อมูลการแก้ไขจะถูกจัดเก็บพร้อมประวัติเวอร์ชั่น (Version History) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์ได้อย่างมั่นใจ สมาชิกรายบุคคลจะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูล 20GB
  • การจัดพิมพ์เผยแพร่อย่างไร้รอยต่อ สมาชิก Creative Cloud จะสามารถเข้าใช้บริการสำหรับการเผยแพร่เว็บไซต์ผลงานที่มีการปรับแต่งตามความต้องการ โดยใช้ Behance ProSite หรือจัดพิมพ์นิตยสารดิจิตอลที่สวยงามโดดเด่นสำหรับ iPad โดยใช้ Digital Publishing Suite (DPS) Single Edition และใช้ PhoneGap Build เพื่อสร้างและเผยแพร่โมบายล์แอพสำหรับอุปกรณ์ทุกรุ่น Adobe Typekit ประกอบด้วยไลบรารีแบบอักษรที่หลากหลาย ตั้งแต่ฟอนต์แบบคลาสสิก ไปจนถึงฟอนต์แบบใหม่ๆ สำหรับการใช้งานบนเว็บไซต์ และในอัพเดตรุ่นใหม่นี้ ครีเอทีฟจะสามารถใช้ฟอนต์แบบเดียวกันในเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นได้โดยตรง

เดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นในตระกูล CC พร้อมใช้งานสำหรับสมาชิก Creative Cloud โดยเฉพาะ ฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายร้อยฟีเจอร์มีรวมอยู่ในเครื่องมือเดสก์ท็อปจากอะโดบี โดยนวัตกรรมสำคัญๆ ได้แก่:

  • Photoshop CC (ดูข่าวประชาสัมพันธ์แยกต่างหาก) จะประกอบด้วยเทคโนโลยีใหม่สำหรับการปรับแต่งภาพให้คมชัด พร้อมส่วนปรับปรุงเวิร์กโฟลว์สำหรับนักออกแบบ นอกจากนี้ ยังมี Camera Shake Reduction ที่ช่วยลดปัญหาภาพเบลอที่เกิดจากการสั่นไหวของกล้อง ฟีเจอร์ใหม่ Smart Sharpen ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับพื้นผิวและรายละเอียด ขณะที่ Adobe Camera Raw 8 เพิ่มเติมส่วนควบคุมภาพถ่ายที่ทรงพลัง เพื่อทำให้ภาพคมชัดและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น Photoshop CC เป็นเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นแรกของอะโดบีที่รองรับการโพสต์ไฟล์ไปยัง Behance โดยตรง รวมถึงการจัดแสดงผลงานได้ทันที และการผนวกรวมข้อคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานเข้าไว้ในกระบวนการสร้างสรรค์
  • สำหรับนักออกแบบ เครื่องมือ Touch Type ใน Illustrator CC ยกระดับการสร้างสรรค์ด้วยแบบอักษรที่โดดเด่น โดยผู้ใช้จะสามารถย้าย ปรับขนาด และหมุนตัวอักษรในข้อความได้ตามต้องการ และสามารถแก้ไขได้ในภายหลัง ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานร่วมกับเมาส์ ปากกาสไตลัส หรืออุปกรณ์มัลติทัช นอกจากนี้ Illustrator ยังรองรับการระบายสีด้วยพู่กันที่ทำจากภาพถ่าย กล่าวคือ พู่กัน Art, Pattern และ Scatter อาจประกอบด้วยภาพราสเตอร์ ดังนั้นนักออกแบบจึงสามารถสร้างดีไซน์แบบออร์กานิกที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ฝีแปรงที่เรียบง่าย สถาปัตยกรรมที่ทันสมัยสำหรับ InDesign CC จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และการแก้ไขภาพในเบราว์เซอร์ด้วย Adobe Muse™ CC ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างและจัดพิมพ์เว็บไซต์ HTML โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด ช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ไขเว็บไซต์ และส่งต่อให้นักออกแบบรีวิว และอัพเดตได้ทันที
  • สำหรับ Video Professional, Adobe Premiere Pro CC นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับการตัดต่อวิดีโอ รวมถึงการปรับแต่งและปรับปรุง เพื่อช่วยให้ผู้ตัดต่อสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ Premiere Pro CC ประกอบด้วยเวิร์กโฟลว์สีที่เหนือชั้น พร้อมด้วย Lumetri™ Deep Color Engine ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการไล่ระดับสีอย่างเรียบเนียน ขณะที่ Adobe After Effects® CC ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านโมชั่นกราฟิกส์และวิช่วลเอฟเฟ็กต์มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นในการสร้างสรรค์ผลงานที่สดใหม่ และทำงานในรูปแบบ 3D ได้ง่ายดายขึ้นด้วยการผนวกรวม Live 3D Pipeline และ Maxon Cinema4D นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างเช่น Adobe SpeedGrade CC, Audition® CC, Prelude™ CC และ Adobe Story CC Plus อีกด้วย
  • นักออกแบบเว็บและ Developer สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในเครื่องมือและบริการ Edge ของอะโดบี โดย Edge Animate CC รุ่นล่าสุดจะช่วยให้นักออกแบบเว็บสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวและเนื้อหาอินเทอร์แอคทีฟได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ โดยใช้ HTML, CSS และ JavaScript แบบเนทีฟ นอกจากนี้ อะโดบียังนำเสนอตัวอย่างเวิร์กโฟลว์ใหม่จาก Photoshop CC ไปยัง Edge Reflow CC ซึ่งจะช่วยให้ครีเอทีฟสามารถสร้างสรรค์งานออกแบบเว็บใน Photoshop โดยจะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเว็บไซต์ที่ตอบสนองอย่างฉับไว ส่วนผู้ใช้ Dreamweaver จะสามารถใช้ CSS และคุณสมบัติที่ทันสมัยที่สุดผ่านทางเครื่องมือแก้ไขที่ใช้งานง่าย นั่นคือ CSS Designer และ Adobe Flash® Pro CC ประกอบด้วยสถาปัตยกรรม 64 บิตแบบโมดูลาร์ที่ทันสมัย เพื่อการทำงานที่รวดเร็วและเปี่ยมด้วยเสถียรภาพ

แผนการให้บริการแก่สมาชิกและการวางจำหน่าย

อัพเดตชุดสำคัญสำหรับ Creative Cloud นี้จะพร้อมใช้งานในเดือนมิถุนายน ครีเอทีฟที่ลงทะเบียนใช้บริการ Creative Cloud วันนี้จะสามารถดาวน์โหลดและใช้นวัตกรรมล่าสุดจากอะโดบีบนระบบคลาวด์ได้ทันทีเมื่อเริ่มวางจำหน่าย ค่าสมาชิก Creative Cloud สำหรับบุคคลทั่วไปอยู่ที่ 1,500 บาทต่อเดือน โดยเป็นสมาชิกรายปี ส่วนลูกค้าที่มี CS3 ถึง CS5.5 อยู่แล้วจะสามารถใช้บริการ Creative Cloud ช่วงปีแรกได้ในอัตราลดพิเศษที่ 900 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ มีโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับลูกค้าบางราย รวมถึงผู้ใช้ CS6 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.adobe.com/sea

Creative Cloud สำหรับทีมงานประกอบด้วยสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่สมาชิกรายย่อยได้รับ พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 100GB และความสามารถในการติดตั้งและบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ Creative Cloud สำหรับทีมงานราคา USD69.99 ต่อเดือนต่อคน ลูกค้าที่มีใบอนุญาตใช้งาน Volume License สำหรับ CS3 หรือรุ่นใหม่กว่า จะสามารถใช้บริการ Creative Cloud สำหรับทีมงานในช่วงปีแรกได้ในอัตราลดพิเศษที่ USD39.99 ต่อเดือนต่อคน หากลงทะเบียนก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม 2556

นอกจากนี้ อะโดบียังได้เปิดตัว Creative Cloud สำหรับองค์กรในวันนี้ พร้อมด้วยการอนุญาตใช้งานพิเศษสำหรับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานราชการ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อฝ่ายขายของอะโดบี

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่