รีวิว HTC BlinkFeed หน้าจอหลักพร้อมฟีตข่าวแบบรีลไทม์ (รองรับฟีตข่าวภาษาไทยแล้ว)

หนึ่งในจุดขายหลักที่น่าสนใจของสมาร์ทโฟน HTC One คือฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมเครื่องที่ชื่อว่า HTC BlinkFeed ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของส่วนติดต่อผู้ใช้ HTC Sense 5 และเป็นหนึ่งในความพยายามของ HTC ที่ประสงค์ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาคอนเทนต์จากสื่อชั้นนำหรือสิ่งที่น่าสนใจได้อย่างรวดเร็วที่สุดโดยไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดทีละแอพพลิเคชั่น แต่สามารถดึงเนื้อหาเหล่านั้นมาแสดงบนหน้าจอหลักได้ทันที

HTC BlinkFeed อัดแน่นด้วยข้อมูลข่าวสารมากกว่ากว่า 10,000 ข่าวต่อวัน พร้อมรองรับ 16 ภาษาทั่วโลก และล่าสุดหน้าเนื้อหาภาษาไทยสามารถใช้งานได้แล้ว ขณะรีวิว (3/พ.ค./56) สามารถรับชมข่าวจาก SiamPhone และ T.N.N News ซึ่งในอนาคตจะมีฟีตข่าวภาษาไทยจากสื่อชั้นนำอื่นทยอยเพิ่มเข้ามา

นอกจากฟีตข่าวหรือบทความที่น่าสนใจแล้วยังสามารถเรียกดูเนื้อหาจากโซเชียลเน็ตเวิร์คทั้งหลายได้ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Flickr และอื่นๆ รวมถึงการแจ้งเตือนกำหนดการบนปฏิทิน เพื่อให้ผู้ใช้ไม่พลาดงานสำคัญหรือความเคลื่อนไหวของเพื่อนในแวดวงโซเชียล

ทำความรู้จักกับ BlinkFeed

BlinkFeed เป็นหน้าการแสดงผลที่รวมข้อมูลเนื้อหา ข่าวสารหรือบทความต่างๆ ที่ผู้ใช้สนใจมานำเสนอบนหน้าจอหลัก โดยแสดงผลในรูปแบบตารางเรียงต่อกันพร้อมภาพตัวอย่างประกอบ ซึ่งเรียงลำดับข้อมูลตามช่วงเวลาที่อัพเดทล่าสุด ด้านบนของหน้า BlinkFeed มีข้อมูลเวลาและสภาพอากาศ ถัดมาด้านล่างเป็นพื้นที่แสดงผลเนื้อหาสตรีมมิ่งที่อัพเดทอยู่ตลอด

สามารถปัดนิ้วเลื่อนขึ้น-ลง ผ่านเนื้อหาในหน้า BlinkFeed เพื่อดูข้อมูล สามารถดูข้อมูลอัพเดทล่าสุดโดยปัดเลื่อนไปด้านบนสุดหรือไม่ก็แตะปุ่ม Home หนึ่งครั้ง

เมื่อเลื่อนขึ้นมาจนด้านบนสุด ที่มุมซ้ายจะปรากฏหมวดหมู่ของเนื้อหาที่ต้องการรับชม มุมขวามีไอคอน 3 อัน ได้แก่

• ไอคอนรูปดินสอ สำหรับโพสข้อความหรืออัพเดทสถานะไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ Facebook, Twitter, Flickr ฯลฯ
• ไอคอนรูปแว่นขยาย สำหรับใช้ค้นหาเนื้อหาบน BlinkFeed
• ไอคอนรูปจุดไข่ปลา สำหรับเรียกใช้เมนูเพิ่มเติม

เมื่อเริ่มต้นใช้งาน BlinkFeed ครั้งแรกอาจจะยังไม่แสดงข้อมูลเนื้อหาขึ้นมา ผู้ใช้ต้องเข้าไปเลือกเนื้อหาที่จะให้แสดงได้ที่

เมนูเพิ่มเติม > หัวข้อและการบริการ

ภายในจะมีแหล่งข้อมูลจากสื่อชั้นนำทั่วโลกให้เลือกชม โดยมีเนื้อหาแบ่งหมวดหมู่ธุรกิจ, ดีไซน์, บันเทิง, สิ่งแวดล้อม, เกมส์, ไลฟ์สไตล์, เพลง, การเมือง, กีฬา, เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์, ท่องเที่ยว, เรื่องราวที่น่าสนใจทั่วโลก หากสนใจเนื้อหาหมวดไหนก็ใส่เครื่องหมายถูกที่ด้านหลัง

ก่อนหน้านี้ตอนที่เปิดตัว BlinkFeed จะมีเนื้อหาให้เลือกเฉพาะภาษาอังกฤษ แต่ตอนนี้ล่าสุดคือในส่วนของข้อมูลเนื้อหาภาษาไทยก็มีให้เลือกชมแล้ว (เฉพาะบางสื่อ) ข่าวดีคือใครที่ติดตามข่าว SiamPhone.com ก็สามารถรับชมผ่าน BlinkFeed ได้อีกช่องทางหนึ่ง

นอกจากเนื้อหาทั่วไปแล้วยังสามารถตั้งค่าให้แสดงข้อมูลเนื้อหาจากโซเชียลเน็ตเวิร์คทั้ง Facebook, Flickr, LinkedIn, Plurk, Twitter รวมถึงการแจ้งเตือน-กำหนดการจากปฏิทิน

เมื่อเลือกเนื้อหาเสร็จแล้ว ฟีตข่าวที่มาจากเนื้อหาที่เลือกไว้ก็จะถูกนำไปแสดงผลในหน้า BlinkFeed

สามารถแตะเข้าไปดูรายละเอียดคอนเทนต์ของเนื้อหาที่สนใจ

สามารถปัดนิ้วไปทางซ้าย-ขวา เพื่อดูคอนเทนต์อื่นๆ ของแหล่งข่าวเดียวกัน

สามารถปรับขนาดตัวอักษรคอนเทนต์ได้ 4 ขนาด (เล็ก, กลาง, ใหญ่, ใหญ่พิเศษ)

ในส่วนของคอนเทนต์ด้านบนจะแสดงภาพประกอบเนื้อหา (ถ้ามี) และถ้าแตะบนภาพก็สามารถเลือกดูภาพประกอบทั้งหมดในเนื้อหาได้

ด้านล่างสุดของคอนเทนต์จะมี link ไปยังเนื้อหาดั้งเดิมที่แสดงในรูปแบบ mobile web

ด้านล่างของหน้าคอนเทนต์ยังมีมีไอคอนแชร์ สำหรับแบ่งปันข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ค Facebook,Twitter, Google+ หรืออีเมล์, ข้อความ, บลูทูธ แชร์ได้หมด

Tips: วิธีประหยัดการใช้งานข้อมูลเครือข่าย

ในหน้า BlinkFeed > ไอคอนเมนูเพิ่มเติม > การตั้งค่า สามารถกำหนดได้ว่าจะรีเฟรชข้อมูลผ่านทาง Wi-Fi เท่านั้น หรือรีเฟรชข้อมูลได้ทั้งขณะใช้งานเครือข่าย/ Wi-Fi

การใช้ BlinkFeed ช่วยให้สามารถติดตามข่าวสารและท่องโซเชียลเน็ตเวิร์คได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องมาเปิดทีละแอพฯ ประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกได้อีกหลายส่วน ในขณะนี้มีเพียงผู้ใช้งาน HTC One เท่านั้นที่จะได้สัมผัสกับ BlinkFeed แต่ในอนาคตคาดว่าจะมีมือถือจากค่าย HTC ที่สามารถรองรับฟีเจอร์นี้ทยอยออกมาอีกหลายรุ่นอย่างแน่นอน

ข้อดีของ BlinkFeed

• รวมเนื้อหาฟีดข่าวและโซเชียลเน็ตเวิร์คมาแสดงผลบนหน้าจอหลักหน้าเดียว
• ประหยัดเวลาในการรับชมข้อมูลข่าวสาร
• แชร์ฟีตข่าวได้ง่ายและหลากหลายช่องทาง
• ตั้งค่าได้ว่าจะโหลดฟีตข่าวผ่าน Wi-Fi เท่านั้น หรือ 3G + Wi-Fi
• โพสอัพเดท Facebook หรือทวีต Twitter ได้ทันที

ข้อเสียของ BlinkFeed

• เนื้อหามีให้เลือกจำกัด และยังมีเนื้อหาภาษาไทยน้อย
• ในส่วนของคอนเทนต์จะตัดเนื้อหาที่เป็น Link ออกไป เหลือเฉพาะเพียงตัวอักษร
• ภาพประกอบเนื้อหาทั้งหมดจะถูกซ่อนในภาพแรก ทำให้รับชมคอนเทนต์ได้ไม่เต็มอรรถรสเหมือนต้นฉบับ