โนเกีย 9300 จัดเป็นลูกผสมระหว่างระบบปฏิบัติการ Series 40 กับ Symbian 7.0s (ดูรายละเอียด Nokia User Interface) ซึ่งเมื่อพูดถึงเวอร์ชั่นนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะตั้งข้อสงสัยกันบ้างแล้วว่า ทำไมหน้าตาจึงแตกต่างไปจากในรุ่นที่เคยเห็น นั่นก็เพราะว่า 9300 ใช้ User Interface ของ Nokia Series 80 นั่นเองครับ

หน้าตาภายนอกนั้นยังคงลักษณะเหมือนกับมือถือทั่วไปทุกประการ แต่หากได้ลองนำไปเทียบกับรุ่นพี่อย่าง 9500 แล้ว จะมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ปุ่มเปิด-ปิด ที่มักจะอยู่ทางด้านบนตัวเครื่องได้ถูกจัดวางตำแหน่งใหม่ โดยมาอยู่ที่บริเวณด้านหน้ามุมขวาแทน จอด้านนอกแสดงผล 65,536 สี ความละเอียด 128 x 128 พิกเซล โดยในยามปกติจะแสดงระดับสัญญาณทางซ้ายมือ และระดับแบตเตอรี่ทางฝั่งขวา ส่วนตรงกลางจะแสดงถึงระบบเครือข่ายที่ใช้งานอยู่

ในส่วนของปุ่มกด จะใช้ปุ่มควบคุมแบบ 5 ทิศทาง ใช้เข้าสู่เมนูหลักของครื่อง โดยจะทำงานสอดคล้องกันในยามใช้งานเป็น Communicator ทั้ง 5 รายการ - Messages, Call log, Contacts, Profiles และ Settings

"9300 Communicator" เมื่อเปิดฝาขึ้นมา หน้าจอแนวกว้างแสดงผล 65,536 สี (เช่นเดียวกับจอด้านนอก) ขนาด 640x200 พิกเซล แสดงรายละเอียดบนหน้าจอได้อย่างครบถ้วนชัดเจน ถัดมาบริเวณด้านข้างของหน้าจอที่เห็นเป็นปุ่มกดเรียงตามแนวตั้ง 4 ปุ่ม จะใช้งานเหมือนกับปุ่มซอฟคีย์เพื่อเลือกหรือยืนยันคำสั่งการใช้งาน ถัดมาภายใต้หน้าจอขนาดใหญ่นี้ก็เป็นแป้นพิมพ์แบบ QWERTY จึงช่วยให้การป้อนข้อมูลทำได้อย่างง่ายดาย ส่วนที่อยู่เหนือแป้นพิมพ์จะเป็นปุ่มลักเพื่อเรียกใช้งานเมนูต่าง ๆ ซึ่งยามปกติมักจะถูกเรียกใช้งานอยู่เป็นประจำ

การควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในเครื่อง จะใช้งานผ่านแป้นพิมพ์หรือปุ่มควบคุมเมนูแบบ 9 ทิศทางเป็นหลัก และด้วยการใช้แป้นพิมพ์เสมือนกับบนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป จึงสามารถใช้เป็นปุ่มลัดในการเลือกคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเข้าไปสู่เมนูนั้น ๆ อย่างเช่น ctrl+chr+shift+s เป็นคำสั่งลัดเพื่อจับภาพหน้าจอ หรือ chr+shift+f ในขณะที่เพิ่งเปิดเครื่องจะเป็นคำสั่งสำหรับ hard reset

เมนูฟังค์ชั่น และ ความสามารถต่างๆ ของเครื่อง (Menu Function)

เมนูการใช้งานต่าง ๆ ภายในเครื่องสร้างทำงานได้หลายอย่างพร้อม ๆ กับ หรือทำงานแบบ Multi-task ซึ่งถ้าหากไม่มีความจำเป็นใด ๆ ควรจะเลือก Exit เพื่อออกจากโปรแกรมนั้น ๆ อย่างถาวรเพื่อป้องกันการเปิดโปรแกรมซ้ำซ้อนและไมได้ปิด หรือหากต้องการทราบว่าในขณะนั้นได้เปิดโปรแกรมใดใช้งานอยู่บ้างสามารถตรวจสอบได้โดยกดปุ่ม chr+menu จะปรากฏ taskbar ขึ้นมา ซึ่ง taskbar นี้ถ้าสังเกตดี ๆ จะมีเมนูการใช้งานเหมือนกันกับบนเครื่อง pc เลยละครับ

คุณสมบัติพื้นฐานของตัวเครื่อง

ในขณะใช้งานทางด้าน Communicator ผู้ใช้สามารถโทรออกได้ผ่านฟังก์ชั่น telephone ในตัวเครื่อง การสนทนากับอีกฝ่ายจะฟังเสียงของคู่สนทนาผ่านลำโพงที่อยู่บริเวณมุมขวาบน (ใต้หน้าจอภาพ) ซึ่งเสียงที่ได้ยินก็มีความดังชัดเจนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ นอกจากนี้ยังตรวจเช็คสายที่ได้ใช้งานอย่าง สายโทรเข้า สายโทรออก รวมถึงสายที่ไม่ได้รับซึ่งเรียกใช้งานผ่านปุ่มซอฟคีย์ที่อยู่ด้านข้างของหน้าจอ

นอกจากนี้ยังเลือกดูหมายเลขที่ถูกบันทึกไว้ในตัวเครื่องหรือซิมการ์ด และสามารถทำการแก้ไขได้ทันที ในแต่ละรายชื่อจะใส่รายละเอียดได้ทั้ง ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่งงาน ชื่อบริษัท ที่อยู่ เบอร์มือถือ เบอร์บ้าน เบอร์แฟกซ์ ประเทศ ภูมิลำเนา อีกทั้งการเพิ่มรูปให้แสดงขณะมีการใช้สาย การจะเพิ่มตำแหน่งได้กี่รายการจะขึ้นอยู่กับหน่วยความจำที่เหลืออยู่ของตัวเครื่อง และเป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ตัวเครื่องที่ได้รับมาจะไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมอ่านไทยแต่ก็สามารถอ่านรายชื่อภาษาไทยที่ถูกบันทึกไว้ได้

สำหรับการส่งข้อความเมื่อเปิดเข้ามาสู้หน้าหลักของเมนูนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังใช้งานผ่าน Outlook บนเครื่อง PC ได้ไม่น้อยในการเริ่มส่งข้อความให้เลือกที่ write message แล้วตามด้วยชนิดของข้อความที่ต้องการทำรายการ ในการส่งข้อความแบบ sms จะสามารถป้อนข้อมูลเพื่อทำการส่งแต่ละครั้งได้สูงสุดที่ 160 ตัวอักษร ส่วนข้อความแบบ mms ในการส่งเพียงครั้งเดียวสามารถไปถึงยังผู้รับได้หลายคน โดยสามารถแนบไฟล์ภาพ เสียง คลิปวีดีโอ รวมถึงข้อความได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้รับส่ง E-mail ซึ่งรองรับ POP3 และ IMAP4 ทั้งยังตั้งค่าให้รับ E-mail ได้สูงสุดถึง 2 mb จุดเด่นพิเศษที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือการใช้งานรับ-ส่งแฟกซ์ ทำให้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ยังส่งแฟกซ์ไปยังเลขหมายปลายทางได้ทันที

คุณสมบัติการทำงานทางด้านเอกสาร  

•  Documents 9300 สามารถใช้งานร่วมกับ Microsoft word โดยคุณสามารถนำไฟล์ word มาเปิดทำงานต่อบนมือถือได้ทันที ลักษณะคำสั่งต่าง ๆ จะมีมากมายเพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไป อย่างเช่นการเพิ่มรูปลงในเอกสาร การทำตัวหนา ตัวเอียงและเส้นใต้เพื่อเน้นคำ ตั้งพิมพ์ทางด้านขวา ตรงกลาง หรือด้านซ้าย และยังนำกลับมาใช้งานบน word ได้เช่นเดียวกัน

•  Sheet จะใช้งานร่วมกับ Microsoft excel คุณสามารถสร้างไฟล์งานใหม่ได้ทันที ซึ่งเหมาะกับงานที่จำเป็นต้องใช้ตารางในการทำงาน ในโหมดคำสั่งสามารถใส่สูตรแทนค่า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากการทำงานบน excel จริง ๆ และสามารถนำกลับมาใช้งานต่อบน excel ได้

•  Presentations รองรับการทำงานจาก Power point สามารถเรียกแสดง slide show ได้ โดยในตัวโปรแกรมได้เตรียม format สำเร็จรูปไว้ทั้งหมด 8 รูปแบบให้เลือกใช้

คุณสมบัติการจัดการไฟล์บนตัวเครื่อง  

ลักษณะการจัดลำดับไฟล์ทั้งหมดภายในตัวเครื่องจะยังคงมีความคล้ายกันกับ Series60 โดยไฟล์ทั้งหมดจะถูกจัดแบ่งออกเป็นโฟลเดอร์ต่าง ๆ เพื่อเก็บแยกประเภทและเรียกใช้งานได้สะดวกในภายหลัง นอกจากนี้ยังสามารถเคลื่อนย้ายไฟล์ไปมาระหว่างตัวเครื่องและการ์ดหน่วยความจำได้ทันที ในการเรียกใช้งานโปรแกรมจะอยู่ในโฟลเดอร์ Office

คุณสมบัติด้านความบันเทิง

9300 สามารถใช้งานเป็นเครื่องเล่นเพลงเพื่อคลายเหงาในยามว่างหรือผ่อนคลายในขณะทำงาน ซึ่งจะสนับสนุนไฟล์นามสกุล wav, acc และ mp3 และถึงแม้จะไม่ได้ติดตั้งกล้องถ่ายรูปในตัวแต่ก็สามารถดาวโหลดภาพมาเก็บไว้เพื่อเปิดชมเป็นการส่วนตัวหรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดู(สนับสนุนไฟล์นามสกุล JPG, GIF, BMP,PNG และ MBM ) โดยเครื่องรองรับการใช้งาน Internet ด้วย Opera web browser2.0 ผ่านทาง GPRS หรือจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังพัฒนาให้มีความสมบูรณ์อย่าง EDGE และด้วยการใช้หน้าจอขนาดใหญ่ที่มีความกว้างถึง 640 pixels ทำให้การแสดงผลของ Webpage มีความสมบูรณ์ไม่ด้อยไปกว่าการใช้งานบน PC แม้แต่น้อย ในขณะใช้งานจะควบคุมผ่านทางแป้นคีย์บอร์ดและปุ่มควบคุมเมนูแบบ 9 ทิศทาง นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงหรือต้องการจะดูคลิปวีดีโอแบบสด ๆ สามารถเชื่อมต่อและฟังผ่านโปรแกรม Real player ที่มีอยู่ในตัวเครื่องได้โดยตรง ส่วนคลิปวีดีโอที่ดาวโหลดเข้ามาเปิดจะรองรับไฟล์นามสกุล MPEG4 และ 3 gp และสุดท้ายเมื่อใช้งานเป็นเครื่องบันทึกเสียงไฟล์ที่บันทึกได้จะเป็นนามสกุล amr ใช้เรียกฟังเพื่อช่วยเตือนความจำหรือจะใช้สำหรับเป็นเสียงเรียกเข้าก็ได้ครับ

คุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อ

เรื่องของการเชื่อมต่อจัดเป็นคุณลักษณะพิเศษเนื่องจากว่าสามารถเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ ได้หลายช่องทาง อย่างการรับ-ส่งข้อมูลผ่านทาง Bluetooth เรียกใช้ได้โดยการกดปุ่ม chr+Bluetooth icon หรือการรับ-ส่งข้อมูลผ่านทาง IrDA เรียกใช้ได้โดยการกดปุ่ม chr+irda icon ซึ่งพอร์ต IrDA นี้จะอยู่บริเวณตรงกลางด้านข้างของตัวเครื่องที่เห็นเป็นพลาสติกสีดำนั่นเอง นอกเหนือจากนี้ยังรองรับการ Sync ข้อมูลผ่านทางสายดาต้าเคเบิล DKU-2 ซึ่งเป็นสายชนิดเดียวกับที่ใช้ในโนเกีย 7610 เพื่อทำการ backup ข้อมูลไม่ให้สูญหาย เพราะหลังจากดำเนินการจนเสร็จสิ้นแล้วสามารถถอดการ์ดความจำซึ่งใน 9300 จะรองรับหน่วยความจำภายนอกด้วย multimedia card มาใส่ใน card reader ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องปิดเครื่อง

คุณสมบัติด้านการตั้งค่าการใช้งาน

ลักษณะการใช้งานจะมีความคล้ายกับบน PC อย่างการตั้งค่าเวลาและวันที่ตั้งได้ทั้งแบบ 12 ชม. และ 24 ชม. ส่วนหน้าจอสามารถเปลี่ยนสีเมนูที่มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี หรือการนำภาพที่ชอบมาตั้งเป็น wallpaper ภายในตัวเครื่องเองนั้นจะมีหน่วยความจำให้ใช้ได้ทั้งสิ้นประมาณ 40 mb และถ้าหากยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานก็สามารถหา multimedia card มาเพิ่มเติมได้ ในตัวเครื่องมีโพรไฟล์สำเร็จรูปเตรียมไว้ให้ 6 แบบซึ่งครั้งแรกที่ใช้งานรู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเหตุใดตัวเครื่องจึงไม่สั่นในขณะมีสายเข้า คำตอบก็คือไม่สามารถตั้งให้สั่นได้หรือไม่มีระบบสั่นในตัวนั่นเองครับ แต่ก็พอจะแก้ปัญหาในจุดนี้ได้โดยการเลือกใช้ True tone เป็นเสียงเรียกเข้า โดยจะรองรับไฟล์เสียงนามสกุล wav, mp3, acc และ amr หรืออาจจะยังเลือกใช้ไฟล์เพลงที่คุ้นเคยกันดีอย่าง midi ที่พิเศษไปกว่านั้นเห็นจะเป็นการเชื่อมต่อกับ printer จาก HP ได้โดยตรงและสามารถตั้งค่าหรือใส่คุณลักษณะพิเศษอื่น ๆ ก่อนพิมพ์เพื่อให้เหมาะสมกับชิ้นงานนั้น ๆ

คุณสมบัติด้านอื่น ๆ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้กับ 9300 แล้วตัวเครื่องรองรับการลงโปรแกรมเพิ่มเติม โดยโปรแกรมที่สามารถลงและใช้งานได้จะเป็นโปรแกรม SIS และ JAVA2.0 ซึ่งเท่าที่ได้ทดลองพบว่าโปรแกรมบางตัวที่ใช้งานกับ Series60 สามารถลงและใช้งานร่วมกับ Series80 ได้ อย่างไรก็ดีทางผู้ผลิตซอฟแวร์ต่างก็เริ่มที่จะทยอยผลิต และให้ทดลองดาวโหลดไปใช้งานกันบ้างแล้ว และในอนาคตคงจะมีรองรับมากขึ้นไปอีก

บทสรุปจากการใช้งาน

ในเรื่องการใช้งานสามารถตอบสนองได้เป็นอย่างดี นั่นก็เพราะโปรแกรมเดิม ๆ ที่มีอยู่ในเครื่องนั้นเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ถ้าเทียบกับรุ่นพี่อย่าง 9500 การใช้งานต่าง ๆ เหมือนกันทั้งหมดขาดก็แต่เพียงกล้องถ่ายรูปและ Wi-Fi ที่ถูกตัดออกไปเท่านั้น อีกทั้งขนาดและน้ำหนักที่น้อยลงจึงสะดวกต่อการพกพา ข้อที่น่าประทับใจอีกอย่างคือแม้จะใช้งานอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยัง stand by ได้เป็นเวลานาน นั่นเพราะเลือกใช้แบตเตอร์รี่ที่มีความจุถึง 1300 mAh ประกอบกับวัสดุที่ใช้ก็ดูมีราคาและช่วยให้ผู้ใช้ดูภูมิฐานมากยิ่งขึ้น

* Nokia 9300 Communicator ราคาจำหน่าย 29,750 บาท (กุมภาพันธ์ 2548)

Febuary 22, 2005  
วิธีการใช้งาน ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นของคุณ - Nokia 9300 Communicator