Review : Motorola E380 - ข้อมูลทั่วไป
: เมนูฟังก์ชั่น
วันที่ได้รับเครื่อง รู้สึกนึกถึงแคปซูลของหนังการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอล
(การ์ตูนยอดฮิตในอดีต) ที่เวลาโยนออกไปสามารถใช้แปลงเป็นบ้าน, รถหรืออะไรต่อมีอะไรได้มากมาย
แต่พอมองให้ดีอีกมุมหนึ่งกลับคล้ายกลับหมวกกันน็อคของนักแข่ง F1
ที่สามารถเปิด-ปิดฝาได้คล้ายๆกัน อันนี้ก็อยู่ที่จะจินตนาการ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า
"โมโตฯ E380" มีดีและน่าสนใจครับ ...
ขอเริ่มกันที่กรอบนอกของเครื่องก่อน ซึ่งวัสดุจะทำมาจากพลาสติกเคลือบ
แข็ง โปร่งใส ที่สามารถมองเห็นหน้าจอด้านใน รวมไปถึงแสง สี เสียง
เมื่อเวลามีสายเรียกเข้า ฝาเปิด-ปิดแบบสปริงสองจังหวะ แข็งแรง ไม่ก๋องแก๋ง
ภายในมีปุ่มยางสองปุ่มกันกระแทก เผื่อไว้หากเวลาปิดแล้วฝาหลุดมือ
เพื่อป้องกันฝาปิดกระทบกับเครื่องแรงๆ
ตัวบอดี้สีเงินตัดกับฝาหน้าที่สามารถกรอบเปลี่ยนได้หลายสี (ที่ทราบมามีทั้งหมด
5 สี : ส้ม แดง เขียว น้ำเงิน และสีน้ำตาลออกตุ่นๆหน่อย) ด้านบนมีช่องสำหรับใส่สายคล้องคอ
ด้านข้างมีขอบยางแบบขาวขุ่นทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวา พร้อมปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเมนูลัด
(สามารถเรียกเมนูที่ใช้ประจำ สามารถกำหนดเมนูเองได้) นอกจากนี้ที่ขอบด้านข้าง
ยังแสดงไฟกระพริบขณะมีสายเข้าอีกด้วย
ไฟกระพริบด้านข้างตัวเครื่อง (Rhythm Light)
เมื่อเปิดฝาเข้ามา บริเวณปุ่มควบคุมเมนู และแผงปุ่มกดหมายเลขแถวกลาง
(ปุ่มเลข 2,5,8, และ 0 ) จะเป็นพลาสติกขุ่นใส สำหรับไฟกระพริบเช่นเดียวกัน
เมื่อนับไปนับมา สรุปแล้วเครื่องนี้จะมีไฟกระพริบทั้งหมด 4 จุด ที่ขอบด้านข้างทั้งซ้าย-ขวา
และด้านในที่บอกไปอีกสองจุด
พูดถึงแสงสีของรุ่นนี้ ดูแล้วค่อนข้างสะดุดตา ยิ่งดูในที่มืดด้วยยิ่งแจ่ม
สีสันทั้งหมดจะมี แดง, เขียว, ม่วง, น้ำเงิน, ส้ม
ด้านหลังตัวเครื่อง จะมีลำโพง (Loud Speaker) ใช้สำหรับระบบเสียงในเครื่องทั้งหมด
ไม่ว่าจะเล่นเกมส์, ริงโทน, แต่งเสียง, มิกซ์เสียง และร้องคาราโอเกะ
ส่วนด้านท้ายจะเป็นปุ่มเปิดฝาหลัง ช่องเสียบสายชาร์จ หูฟัง และสายดาต้าลิ้งค์
สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องมาใช้ใหม่ วิธีใส่ซิมการ์ด ให้กดปุ่มเปิดฝาหลังแล้วเลื่อนออก
จากนั้นเปิดฝาซิมออกตามภาพ
++ อ่านต่อหน้า 2 [ลูกเล่น, เมนูฟังก์ชั่น] ++
|